"จารุวรรณ" ยันต้องอยู่ต่อเพราะมี "คำสั่ง คปค."

"พิศิษฐ์ ลีลาววชิโรภาส" แถลงข่าว "จารุวรรณ เมณฑกา" พ้นผู้ว่าฯ สตง. แต่จารุวรรณบุกถึงที่แถลงข่าว ยันต้องอยู่รักษาการต่อเพราะ "คำสั่ง คปค." ให้อยู่จนกว่าจะมีผู้ว่าการคนใหม่ พร้อมท้าส่งศาลชี้ขาด

มติชนออนไลน์ รายงานว่า วันนี้ (24 ส.ค.) นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน รักษาราชการแทนผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินพร้อมกับรองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่น 6 คนได้เปิดแถลงข่าวชี้แจงแจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับตำแหน่งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) โดยนายพิศิษฐ์พูดได้ไม่ถึง 1 นาทีคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ปฏิบัติหน้าที่ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินได้เปิดประตูห้องเข้ามาและเดินไป นั่งร่วมแถลงข่าวกับนายพิศิษฐ์

นายพิศิษฐ์กล่าวว่า สตง.ได้ส่งหนังสือไปยังหน่วยงานราชการ เพื่อประกาศให้ทราบว่าคุณหญิงจารุวรรณได้พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าการตรวจเงิน แผ่นดินแล้วตามหนังสือที่ได้ส่งถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะนายกรัฐมนตรีและหนังสือที่สอบถามไปถึงสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาใน ประเด็นที่คุณหญิงจารุวรรณมีอายุครบ 65 ปีเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2553

โดยสำนักงานกฤษฎีกาเองได้มีหนังสือตอบกลับมาแล้วว่า คุณหญิงจารุวรรณถือว่าพ้นจากการดำรงตำแหน่ง จึงเป็นหน้าที่ของข้าราชการประจำที่จะต้องรักษาการตำแหน่งต่อไป และ สตง.ได้หยุดจ่ายเงินเดือนให้คุณหญิงไปตั้งแต่เดือนมิถุนายน แต่อยู่ระหว่างดำเนินการจ่ายเงินบำเน็จที่นับจากเข้ารับตำแหน่งในปี 2545 จนถึง 5 กรกฎาคม 2553

“เมื่อมีคำวินิจฉัยจากทางสำนักงานกฤษฎีกา ผมก็ถือว่า คุณหญิงได้พ้นตำแหน่งจากที่มีอายุครบ 65 ปี แต่คุณหญิงกลับใช้ตำแหน่งในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน(คตง.) ตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน 2542  มาตรการ 5 ว่า ประธานมีอำนาจในการรักษาผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินได้  ซึ่งผู้บริหารพิจาณาเห็นว่า รับฟังไม่ได้ จึงต้องการแถลงข้อเท็จจริงให้ส่วนราชการรับทราบ โดยได้ส่งหนังสือเวียนไปยังหน่วยงานราชการเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม เพื่อประโยชน์ของ สตง.ในการปฏิบัติงานจะได้เข้าใจตรงกันกับหน่วยรับตรวจได้ถูกต้อง จะได้ไม่เกิดผลกระทบกับหน่วยงานราชการ”

ในระหว่างแถลงข่าวนายพิศิษฐ์ได้แสดงจดหมายที่บอกว่า เพิ่งได้รับทางไปรษณีย์มาเปิดแสดงต่อหน้าสื่อมวลชนว่า ตนและผู้บริหารทั้ง 6 คนที่ไม่เห็นด้วยกับคุณหญิงจารุวรรณได้รับหนังสือพร้อมกัน โดยเป็นจดหมายจากคุณหญิงจารุวรรณที่มีหนังสือถึงผู้บริหารทั้ง 7 คนให้หยุดกระทำการที่เป็นการฝ่าฝืนคำสั่งของประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน กรณีที่ไปลงนามอ้างความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาว่า คุณหญิงจารุวรรณขาดคุณสมบัติในการดำรงตำแหน่งตามกำหมาย ถือว่าการ กระทำดังกล่าวเป็นความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และยังอาจะเป็นความผิดทางอาญา เนื่องจากกระทำโดยมิชอบด้วยกฎหมายและระเบียบทางราชการ

อย่างไรก็ตามคุณหญิงจารุวรรณได้กล่าวขึ้นว่า ไม่สามารถรับฟังข้ออ้างของนายพิศิษฐ์ได้ เพราะได้ลงนามในหนังสือคำสั่ง สตง.เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2553 ยกเลิกคำสั่งแต่งตั้งรองผู้วาการตรวจเงินแผ่นดินให้รักษาราชการแทนผู้ว่าการ ตรวจเงินแผ่นดินไปแล้ว จึงถือว่านายพิศิษฐ์พ้นจากการเป็นรักษาการ รวมถึงไม่สามารถรับฟังคำวินิจฉัยจากคณะกรรมการกฤษฎีกาเพียงคณะหนึ่งเท่า ไม่ใช่คำวินิจฉัยของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งคณะกรรมการกฤษฎีกาเองก็บอกว่า เป็นเพียงหน่วยงานให้คำปรึกษาทางกฎหมาย ไม่ครอบคลุมองค์กรอิสระ จะไม่เชื่อก็ได้

“พี่ไม่ได้ยึดถือกับตำแหน่ง ตลอดอายุราชการปฏิบัติหน้าที่โดยซื่อสัตย์สุจริตมาโดยตลอด การก่อสร้างสำนักงานแห่งใหม่ก็ไม่ได้มีส่วนดูแล เพียงแต่จัดหาที่ดิน 17 ไร่ให้เท่านั้น ที่เหลือก็ยกให้พิศิษฐ์ดูแล จะออกไปเลยก็ได้ เพราะตอนแรกก็พร้อมจะออกอยู่แล้ว เพียงแต่มีผู้รู้กฎหมายว่า หากทำเช่นนั้นจะถือว่าเป็นการละเลยหน้าที่ได้ เพราะมีคำสั่งคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมาหากษัตริย์ทรง เป็นประมุข (คปค.) ที่มอบหมายให้ผู้ว่าการฯ รักษาการไปพลางก่อน จนกว่าจะมีการสรรหาผู้ว่าการคนใหม่  และหากจะให้มีข้อยุติก็ควรจะเป็นหน่วยงานที่มีอำนาจตัดสินอย่างศาลปกครอง กลางหรือศาลรัฐธรรมนูญให้มีคำสั่งเด็ดขาดก่อนจึงออกไป หากเป็นเช่นนั้น ทำไมนายพิศิษฐ์ไม่ดำเนินการล่ะ”

ด้านนายพิศิษฐ์กล่าวยืนยันว่า สาเหตุที่ไม่ส่งเรื่องต่อไปยังศาลปกครองกลางหรือศาลรัฐธรรมนูญ เพราะไม่ได้สงสัยและยึดมั่นตามคำวินิจฉัยของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เพราะเป็นคณะที่มีบุคคลที่น่าเชื่อถืออย่างนายมีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นประธานคณะและยังมีอดีตผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายหลายคนอยู่ในองค์คณะ วินิจฉัยนั้นด้วย ซึ่งที่ผ่านมา เวลาที่ สตง.มีข้อสงสัยทางข้อกฎหมาย ก็สอบถามคณะกรรมการกฤษฎีกามาโดยตลอด แล้วทำไมคำสั่งเรื่องนี้จึงจะยกเว้นไม่เชื่อฟัง

ผู้สื่อข่าวถามคุณหญิงจารุวรรณว่า หากคุณหญิงยกเลิกคำสั่งรักษาการ ผู้ว่าการฯ ของนายพิศิษฐ์ ก็น่าจะมีอำนาจในการส่งเรื่องให้ศาลปกครองหรือศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยใน ประเด็นเหล่านี้ได้ทำไมจึงไม่ดำเนินการ คุณหญิงจารุวรรณกล่าวว่า พี่ไม่ได้ติดใจอะไร เพราะพี่ยึดมั่นว่า สิ่งที่พี่ทำถูกต้องตามกฎหมาย

ที่มา: เรียบเรียงจากมติชนออนไลน์

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท