ทบ.ชี้ สถานการณ์ชายแดน “สังขละบุรี-แม่สอด” คลี่คลาย เร่งส่งกลับผู้อพยพ

“เพื่อนพม่า” รายงานสถานการณ์ “ชายแดนพม่า” ที่ อ.แม่สอดยังไม่น่าวางใจ ขณะที่สื่อรายงานข่าว “รัฐบาลพม่า” ปล่อยตัว “นักข่าวญี่ปุ่น” เข้าไทยแล้ว คาดอยู่ กทม. ด้านผลการเลือกตั้ง ผู้นำระดับสูง USDP ซึ่งหนุนหลังโดยรัฐบาลทหารพม่า เผยพรรคชนะการเลือกตั้ง กวาดที่นั่งในรัฐสภาได้ถึงร้อยละ 75 

 

ภาพ: บรรยากาศ บริเวณสนามฟุตบอลที่ร้อย ตชด.346 อ.แม่สอด จ.ตาก โดยองค์กรเพื่อนพม่า

 
“เพื่อนพม่า” รายงานสถานการณ์ “ชายแดนพม่า” ยังไม่น่าวางใจ
 
วันนี้ (10 พ.ย.53) องค์กรเพื่อนพม่ารายงานบรรยากาศจากในพื้นที่ว่า บริเวณสนามฟุตบอลที่ร้อย ตชด.346 อ.แม่สอด จ.ตาก ขณะนี้มีตัวเลขผู้อพยพโดยประมาณ 18,000 – 22,000 คน ได้ถูกส่งกลับไปยังอำเภอเมียวดี ประเทศพม่าตั้งแต่เมื่อวาน ( 9 พ.ย.) อย่างไรก็ตามยังมีชาวบ้านอีกว่า 500 คน ซึ่งมีบ้านอยู่ในหมู่ที่ 1 – 5 ของ อ.เมียวดี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการเผาทำลายสถานที่ราชการ และมีการต่อสู้ระหว่างรัฐบาลทหารพม่า (The State Peace and Development Council: SPDC) และกองกำลังกะเหรี่ยงพุทธประชาธิปไตย (Democratic Karen Buddhist Army: DKBA) ยังไม่ได้เดินทางกลับ เนื่องจากยังตื่นกลัวต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และไม่มั่นใจในความปลอดภัย เจ้าหน้าที่ไทยจึงอนุญาตให้ชาวบ้านกลุ่มนี้นอนพักที่ค่าย ตชด.ต่ออีกหนึ่งคืน กระทั้งเช้ามืดของวันที่ 10 พ.ย.นี้ ผู้ลี้ภัยทั้งหมดได้ถูกส่งกลับไปยัง อ.เมียวดี ประเทศพม่า 
 
อย่างไรก็ตามแหล่งข่าวในพื้นที่รายงานว่า ขณะนี้มีชาวบ้านประมาณ 1,800 คนที่ถูกส่งกลับวันที่ 9 พ.ย.53 ได้อพยพกลับเข้ามาในประเทศไทยในเย็นวันเดียวกัน โดยอาศัยอยู่ตามวัด และโรงเรียนตามแนวชายแดน โดยมีเจ้าหน้าที่ไทย กิ่งกาชาติแม่สอด และองค์กรเอกชนต่างๆ ร่วมกันให้ความช่วยเหลือ
 
ทั้งนี้ องค์กรเพื่อนพม่ายังประกาศรับบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้อพยพ จึงขอปิดการรับบริจาค และแจ้งว่าจะได้ทำรายงานการรับบริจาคแจ้งให้ทราบในภายหลัง อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในขณะยังไม่น่าไว้วางใจ แหล่งข่าวในพื้นที่คาดว่าจะมีการโจมตีและมีผู้อพยพเข้ามายังฝั่งไทยอีก โดยเพื่อนพม่าจะรายงานสถานการณ์ให้ทราบเป็นระยะ
 
ด้านเนชั่นทันข่าว รายงานวันเดียวกันนี้ด้วยว่า ผู้อพยพที่ อ.พบพระ จ.ตาก ราว 600 คน ซึ่งเป็นชาวกะเหรี่ยงมวลชนของ DKBA ยังคงอาศัยอยู่ตามแนวตะเข็บชายแดน บริเวณบ้านวาเล่ย์ ต.วาเล่ย์ อ.พบพระ จ.ตาก โดยคอยระมัดระวังการสู้รบกับกองกำลังทหารรัฐบาลพม่ากับฝ่าย DKBA ทั้งนี้ บริเวณค่ายวาเล่ย์ เป็นฐานกองบัญชาการของกองกำลัง DKBA กองพลน้อยที่ 5 บัญชาการโดย พ.อ.ซอว์ ลา เพว (Saw Lah Pwe) หรือ นะคามวย (Na Kham Mwe) ที่ส่งกำลังทหารเข้าไปโจมตีพื้นที่ จ.เมียวดี ตรงข้าม ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด เมื่อ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา
 
แหล่งข่าวรายงานว่า ทหารพม่าได้เสริมกำลังทหาร 7 กองพัน เข้ามา หลังได้รับคำสั่งจากพลจัตวาทูนเล วิน แม่ทัพภาคตะวันออกเฉียงใต้ เตรียมปราบกองกำลัง DKBA ให้หมดไปโดยเร็วที่สุด ทำให้ชาวกะเหรี่ยง สัญชาติพม่า ที่เป็นมวลชนของ DKBA ต้องหนีภัยเข้ามาที่บ้านวาเล่ย์ และที่บ้านมอเกอร์ไทย ต.วาเล่ย์ โดยเฉพาะตอนกลางคืน จะหลบเข้ามาอาศัยอยู่ในเขตไทย ส่วนกลางวันก็จะกลับไปดูแลทรัพย์สินที่บ้าน ซึ่งมีทหารไทยคอยรักษาการณ์บริเวณแนวชายแดน 
 
ขณะที่ทหารกะเหรี่ยง DKBA ได้ส่งกำลังทหาร 3 กองพัน ออกจากพื้นที่ค่ายวาเล่ย์ ซึ่งเป็นฐานที่มั่นใหญ่ ไปบริเวณแนวหน้า ห่างออกไปประมาณ 3-4 กิโลเมตร มาอยู่บริเวณด่านหน้าแนว บ.วาเล่ย์ และ บ.อเกอร์ไทย จ.เมียวดี ซึ่งเป็นหมู่บ้านติดชายแดน ทางฝั่ง อ.พบพระ จ.ตาก เพื่อรับมือกับทหารพม่า ส่วนในตัวเมือง จ.เมียวดี ทหารพม่าจำนวน 7 กองพัน ติดอาวุธปืน ค.60 ค.80 อาร์พีจี ปืนไร้แสงสะท้อนถอยหลัง (ปรส.) กำลังเคลียร์พื้นที่ทางใต้ จ.เมียวดี ลงไปถึง จ.พญาตองซู ทางด้านตรงข้าม อ.พระเจดีย์สามองค์ จ.กาญจนบุรี 
 
ทั้งนี้ ทางพม่าได้นำเฮลิคอปเตอร์ กรรชิดติดปืนกล และจรวดนำวิถี 2 ลำ จอดอยู่ที่บ้านกอกาเลก จ.กอกาเลก ประเทศพม่า ห่างจาก อ.แม่สอด จ.ตาก ลึกเข้าไปทางตะวันตก ประมาณ 60 กิโลเมตร เพื่อเตรียมการกวาดล้าง โดยอาวุธดังกล่าวเป็นยุทโธปกรณ์ที่มีอานุภาพ ซึ่งทหารพม่านำออกมาใช้
 
ส่วนนายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก กล่าวว่า การสู้รบตามแนวชายแดนที่น่าห่วงที่สุดคือ บริเวณพื้นที่อำเภอพบพระ เพราะมีฐานที่มั่น DKBA และมีบ้านพักของ พ.อ.นะคามวย อยู่ตรงข้ามบ้านมอเกอร์ไทย โดยมีการเผาบ้านอีกฝ่ายมาแล้ว จึงวิตกสถานการณ์ที่พบพระ มากกว่าที่ อ.แม่สอด
 
 
ชายแดนเมืองกาญจน์ สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย
 
สำหรับพื้นที่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ซึ่งมีรายงานว่าชาวพม่าจำนวนมากได้อพยพเข้ามายังประเทศไทยนั้น เนชั่นทันข่าว รายงานว่า เวลา 07.30 น. ผู้อพยพชาวพม่ากว่า 3,500 คนทยอยเดินทางออกจากบริเวณโรงเรียนบ้านซองกาเรีย สาขาย่อยโรงเรียนบ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นสถานที่พักคอยชั่วคราวสำหรับผู้ลี้ภัยในการสู้รบระหว่างทหารพม่ากับทหารกะเหรี่ยง DKBA เดินทางกลับประเทศ
 
โดยก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 02.30 น. วันที่ 10 พ.ย.ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้ยินเสียงปืนเล็กยิงมาจากฝั่งประเทศพม่าประมาณ 5 นัด จากนั้นเวลา 04.00 น.ได้ยินเสียงปืนเล็กอีกครั้งหนึ่ง ส่วนสถานการณ์การสู้รบคาดว่าอาจจะยืดเยื้อต่อไป ซึ่งผลการปะทะกันเมื่อคืนที่ผ่านมา มีครอบครัวชาวกะเหรี่ยง 4 คนที่อาศัยอยู่ในบ้านตองซอย อ.พญาตองซู เด็กหนุ่มหนีเข้าป่าไปได้ แต่มีผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นคนชรา เนื่องจากไม่สามารถหลบหนีได้ทัน ขณะที่บรรยากาศการค้าขายในบริเวณด่านพระเจดีย์สามองค์ ยังคงปิดตัวเงียบ เนื่องจาเกรงจะไม่ปลอดภัยจากสถานการณ์สู้รบ 
 
ทั้งนี้ นายชัยวัฒน์ ลิมป์วรรณธะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้เดินทางมาที่สถานที่พักชั่วคราว เพื่อตรวจเยี่ยมผู้อพยพ และได้พูดคุยปรึกษากับ พล.ต.ตะวัน เรืองศรี ผบ.กกล.สุรสีห์ เพื่อหาแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาอย่างบูรณาการต่อไป พร้อมกันนี้ยังได้ลงพื้นที่ไปตรวจความเรียบร้อยบริเวณด่านเจดีย์สามองค์ 
 
นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์เริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดี ประชาชนบางส่วนได้เริ่มทยอยเดินทางกลับบ้าน คาดว่าอีก 1 - 2 วัน สถานการณ์คงเข้าสู่สภาวะปกติ
 
 
กองทัพเผย สังขละบุรี-แม่สอด สู้รบยุติแล้ว
 
เนชั่นทันข่าว รายงานวันนี้ (10 พ.ย.53) ว่าพ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยถึงความคืบหน้าสถานการณ์ชายแดนไทย-พม่าว่า ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบกรายงานสถานการณ์ชายแดนไทย-พม่าว่า ขณะนี้การปะทะกันระหว่างทหารพม่ากับชนกลุ่มน้อยบริเวณตรงข้าม อ.แม่สอด และอ.พบพระ จ.ตาก และ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ได้ยุติลงแล้ว โดยผู้หลบหนีเข้าเมืองชาวพม่าทั้ง 3 จุดได้ทยอยเดินทางกลับประเทศ คงเหลืออยู่ที่ อ.สังขละบุรี ประมาณ 200 คน ซึ่งคาดว่า ภายในวันที่ 10 พ.ย.นี้ ผู้หลบหนีเข้าเมืองชาวพม่าจะเดินทางกลับประเทศทั้งหมดส่วนบรรยากาศที่ตลาดริมเมย อ.แม่สอดนั้น ผู้ประกอบการร้านค้าในตลาดได้เริ่มทยอยเปิดค้าขายตามปกติแล้ว 
 
“แม้สถานการณ์จะคลี่คลายลง แต่กองทัพบกยังคงให้หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 และหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้าที่ตั้งกองบังคับการส่วนหน้าตั้งแต่เกิดสถานการณ์ให้มีการติดตามข่าวและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้กับประชาชน ทั้งนี้ยังได้มีการประสานงานระหว่างหน่วยทหารในพื้นที่กับทหารพม่าผ่านคณะกรรมการชายแดนไทย-พม่าส่วนท้องถิ่น เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร และแจ้งให้ทางการพม่าทราบถึงผลกระทบของประเทศไทยที่ได้รับจากการสู้รบครั้งนี้ รวมถึงหาแนวทางป้องกันและแก้ไขร่วมกันต่อไป ส่วนเรื่องผู้หลบหนีเข้าเมือง กองทัพบกได้ร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องให้ดูแลตามหลักมนุษยธรรมและดำเนินการส่งกลับทันทีเมื่อเหตุการณ์สงบ โดยจะไม่มีการจัดตั้งพื้นที่พักพิงขึ้นอีก” รองโฆษกทบ.กล่าว
 
 
สื่อรายงานข่าว “รัฐบาลพม่า” ปล่อยตัว “นักข่าวญี่ปุ่น” เข้าไทย
 
ส่วนกรณีที่องค์กรผู้สื่อข่าวไร้พรมแดน และสมาคมสื่อพม่า เรียกร้องให้มีการปล่อยตัวนักข่าวชาวญี่ปุ่นชื่อ โทรุ ยามาจิ ผู้อำนวยการสำนักข่าว AFP สาขากรุงโตเกียว ที่ถูกทางการพม่าจับกุมตัวที่เมืองชายแดนทางฝั่งตะวันออกของเมียวดี ในช่วงที่มีการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 7 พ.ย.ที่ผ่านมา หลังจากที่เขาเข้าประเทศพม่าผ่านไทย มีรายงานว่าเขาถูกส่งตัวขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปยังเมืองหลวงใหม่ของพม่า กรุงเนปิดอว์ เพื่อรับการไต่สวนโดยหน่วยข่าวทหารพม่า
 
ล่าสุด เนชั่นทันข่าว รายงานว่าฝ่ายพม่าได้ปล่อยตัวมาโดยทางสถานทูตญี่ปุ่น ได้ติดต่อรัฐบาลพม่าที่เมืองเนปิดอว์ และทางการพม่า จ.เมียวดี ได้ประสานผ่านชุดประสานงานชายแดนไทย-พม่า ฝ่ายไทยให้รับตัวบริเวณท่าข้ามแถวสะพานมิตรภาพไทย-พม่า อย่างลับๆ และหลังจากกลับมาแล้ว ชาวญี่ปุ่นดังกล่าวได้เก็บตัวเงียบอยู่ในแม่สอด ทำให้บรรดานักข่าวและเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวของรัฐติดตามหาตัว แต่ยังไม่พบประการใด ขณะที่บางกระแสข่าวแจ้งว่านายโตรุ ได้เดินทางเข้า กทม.ไปแล้ว
 
 
พรรค USDP กวาด 878 ที่นั่ง ในการเลือกตั้งพม่า
 
เนชั่นทันข่าว รายงานด้วยว่า พรรคสหภาพเอกภาพและการพัฒนา หรือ USDP ของพม่าที่รัฐบาลทหารพม่าให้การหนุนหลัง เปิดเผยว่า ทางพรรคชนะการเลือกตั้ง โดยสามารถค้าที่นั่งในรัฐสภาได้มากถึงร้อยละ 75 
 
ผู้นำพรรคคนหนึ่ง ซึ่งไม่ประสงค์เปิดเผยตัว เนื่องจากไม่มีหน้าที่ด้านการแถลงข่าว เปิดเผยว่าพรรคคว้ามาได้ 878 ที่นั่ง ในทั้ง 2 สภาของประเทศ และสภาท้องถิ่นอีก 14 แห่ง 
 
ในการเปิดเผยที่ที่ทำการพรรค เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวบอกว่า จนถึงตอนนี้ ผู้ที่พรรคส่งลงสมัครรับเลือกตั้งร้อยละ 80 ถือว่าชนะการเลือกตั้ง แต่หากคิดเฉพาะในส่วนของรัฐสภา ซึ่งมีอยู่ 2 สภา ร้อยละ 77 กำชัยชนะการเลือกตั้งไว้เรียบร้อยแล้ว
 
การเลือกตั้งของพม่าครั้งแรกในรอบ 20 ปีที่จัดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ถูกหลายฝ่าย ทั้งในและนอกประเทศโจมตีว่าไม่มีความเสรีและยุติธรรม และล่าสุด พรรคการเมืองใหญ่อันดับ 2 ซึ่งมีความใกล้ชิดกับกองทัพพม่าอย่างพรรค NUP ของนายพลเน วิน อดีตเผด็จการทหารผู้ล่วงลับ ก็ออกมาโจมตีการเลือกตั้งเช่นกันว่าไม่ยุติธรรม โดยอ้างว่ามีการโกงและการกระทำผิดในการเลือกตั้งมากมาย
 
ทางพรรค NUP ส่งผู้สมัครเข้าร่วมการเลือกตั้งมากถึง 995 คน พวกเขาหวังอย่างมากมากในการเป็นพรรคทางเลือกในเขตเลือกตั้งที่มีแต่คนของพรรค USDP ลงสมัคร เพราะพรรคแนวต่อต้านรัฐบาลที่ใหญ่ที่สุด อย่างพรรคพลังประชาธิปไตยแห่งชาติ ส่งผู้สมัครลงชิงตำแหน่งแค่ 164 คนเท่านั้น
 
สำหรับกรณีการปะทะกันตามแนวพรมแดนไทย ระหว่างทหารพม่ากับกองกำลังชนกลุ่มน้อยชาวกะเหรี่ยงนั้น ทางการพม่าเพิ่งออกมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับความเสียหายของฝ่ายพม่าเป็นครั้งแรก โดยบอกว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 ราย และบาดเจ็บ 23 คน โดยทหารพม่าเสียชีวิต 3 นาย และบาดเจ็บ 20 นายที่เมียวดี ส่วนการสู้รบแถวด่านเจดีย์ 3 องค์ ตำรวจเสียชีวิต 1 นาย และเจ้าหน้าที่ป่าไม้บาดเจ็บ 3 คน
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท