Skip to main content
sharethis

องค์กรเครือข่ายผู้บริโภค ถามหามาตรการคุ้มครองผู้บริโภคภายใต้พรบ.กสทช.  เลขาธิการมพบ. ชี้ ยุคหลอมรวมสื่อโทรคมฯ งานคุ้มครองผู้บริโภคควรจัดตั้งองค์กรเดียวแยกผู้เชี่ยวชาญ 

เมื่อวานนี้ (22 ธันวาคม 2553) ที่โรงแรมเอเชีย แอร์พอร์ท กรุงเทพ ในการประชุมประจำปีร่วมกับองค์กรผู้บริโภค 2553 ซึ่งจัดโดย สถาบันคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม (สบท.) มีการแถลงข่าว “การคุ้มครองผู้บริโภคโทรคมฯ และ สื่อฯ ในกำมือ กสทช.”  โดยนางสาวสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค นายประวิทย์  ลี่สถาพรวงศา ผู้บังคับบัญชา สบท. และตัวแทนเครือข่ายองค์กรผู้บริโภค

นางสาวสารี อ๋องสมหวัง  เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า ที่ผ่านมาภายใต้การทำงานของ คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กทช.  ถือว่า ให้ความสำคัญกับงานด้านการคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคมเป็นอย่างดี  เห็นได้จากการริเริ่มให้เกิดองค์กรด้านการคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคมที่มีรูปแบบการทำงานที่มีความเป็นอิสระจากกลุ่มธุรกิจโทรคมนาคมและจากสกทช.  ทำให้สามารถทำงานได้เต็มที่   ดังนั้น เมื่อมีการบังคับใช้ พรบ.กสทช จึงเชื่อว่า กสทช. หรือ รักษาการ กสทช. จะให้ความสำคัญกับงานด้านการคุ้มครองผู้บริโภคมากขึ้น

นางสาวสารีกล่าวต่อไปว่า พรบ.กสทช. ได้กำหนดให้ กสทช. แต่งตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นสองคณะทำงานด้านการคุ้มครองผู้บริโภคด้านกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์   กับคณะอนุกรรมการที่ดูแลผู้บริโภคด้านโทรคมนาคม แต่ยังไม่มีการกำหนดแนวทางที่ชัดเจน ทั้งนี้สำหรับรูปแบบขององค์กรคุ้มครองผู้บริโภคภายใต้ พรบ.กสทช.นั้น เห็นว่า กสทช.ควรจัดตั้งเป็นองค์กรเดียวแต่แยกผู้เชี่ยวชาญเฉพาะ

“สังคมไทยกำลังเข้าสู่ยุคหลอมรวมสื่อสารโทรคมนาคม เพื่อไม่ให้เกิดช่องว่างในการทำงาน เมื่อเกิดข้อร้องเรียนจากประชาชน จึงควรจัดตั้งเป็นองค์กรคุ้มครองผู้บริโภคที่ดูแลทั้งด้านวิทยุ โทรทัศน์ และโทรคมนาคม แต่แยกผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน  โดยเฉพาะจุดรับเรื่องร้องเรียนต้องเป็นจุดเดียว เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ” เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคกล่าว

ด้านนายประวิทย์  ลี่สถาพรวงศา  ผู้บังคับบัญชา สบท. กล่าวว่า ปัจจุบัน สบท.ยังมีสถานะในการจัดการแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียนได้เช่นเดิม เนื่องจากได้มีคำสั่งให้ปฏิบัติงานด้านการคุ้มครองผู้บริโภคได้ต่อไป เพื่อไม่ให้งานคุ้มครองผู้บริโภคสะดุด

 “ดังนั้นบริษัทฯต่างๆโปรดปฏิบัติตามกฎหมาย อย่าตั้งคำถามไร้สาระว่า สบท.ยังทำงานได้หรือไม่เพราะไม่ว่าความเปลี่ยนแปลงใดๆ เกิดขึ้น แต่ปัญหาของประชาชนยังอยู่เหมือนเดิม และการมีกฎหมายก็เพื่อให้อำนาจในการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนได้มากขึ้น ” นายประวิทย์กล่าว

นายสวัสดิ์ คำฟู ตัวแทนเครือข่ายองค์กรผู้บริโภคกล่าวว่า ขอเร่งรัดให้มีการคุ้มครองผู้บริโภคด้านกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์อย่างเร่งด่วน เร่งออกมาตรการคุ้มครองสิทธิในความเป็นส่วนตัวและเสรีภาพส่วนบุคคล และกำหนดมาตรการการโอนย้ายเลขหมายโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เร่งดำเนินการให้ผู้ประกอบการไม่กำหนดวันหมดอายุบัตรเติมเงิน และให้มีมาตรการบังคับให้ผู้ประกอบการคืนเงินที่ยึดจากผู้บริโภค  ขอให้มีการดำเนินการตามแผนแม่บทการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม  โดยให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net