Skip to main content
sharethis

“ทูตญี่ปุ่น” บุกทำเนียบหารือความคืบหน้า คดีนักข่าวญี่ปุ่นเสียชีวิต “องอาจ” แจงคดีนี้ไม่เหมือนคดีปกติ ชี้ความล่าช้าอยู่ในความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่รัฐ พร้อมไม่รับปากคดีเสร็จในรัฐบาลชุดนี้ 

 
วานนี้ (27 ธ.ค.) นายโนบูกิ อิโตะ อัครราชทูตที่ปรึกษาญี่ปุ่นฝ่ายการเมืองประจำประเทศไทย เดินทางเข้าพบนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อสอบถามความคืบหน้ากรณีการเสียชีวิตของนักข่าวญี่ปุ่นสำนักข่าวรอยเตอร์ ในระหว่างเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ณ ห้องสีเหลือง ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล
 
ภายหลังการเข้าพบ นายองอาจ กล่าวว่า นายอิโตะมาถามความคืบหน้าคดีของคดี นายฮิโระ มูราโมโต้ ช่างภาพชาวญี่ปุ่นสังกัดสำนักข่าวรอยเตอร์ ที่เสียชีวิตระหว่างเหตุการณ์สลายการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดง และยังได้มีการพูดคุยรายละเอียดหลายเรื่อง โดยขอให้เจ้าหน้าที่และส่วนที่เกี่ยวข้องพยายามเร่งรัดติดตามคดีนี้ แต่ไม่ได้มีความประสงค์ที่จะเข้ามาแทรกแซงการทำงานของเจ้าหน้าที่หรือกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย เพียงแต่ต้องการอยากให้การดำเนินการในเรื่องนี้ความคืบหน้ามากยิ่งขึ้น 
 
รมต.สำนักนายกฯ กล่าวว่า ได้ชี้แจงให้นายอิโตะฟังถึงกระบวนการยุติธรรมของไทย เริ่มตั้งแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องมีการชันสูตรศพ และรวบรวมข้อมูลพื้นฐาน ซึ่งเรื่องข้อมูลต่างๆ ในเรื่องนี้อยู่ที่ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) หากต้องการข้อมูลเพิ่มก็ต้องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการเพิ่มเติม หลังจากนั้นก็เข้าสู่ศาลและขั้นตอนอื่นๆ ขณะนี้ขั้นตอนต่างๆ ยังอยู่ในกระบวนการ 
 
ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อเจ้าหน้าที่มาสอบถามความคืบหน้าในเรื่องคดี ทำไมยังไม่มีความคืบหน้า มีการบอกแต่เพียงว่าคดียังอยู่ในกระบวนการสืบสวนสอบสวน นายองอาจ กล่าวว่า ฝ่ายเขาเองก็มีความเข้าใจถึงสถานการณ์วิกฤติทางการเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนั้น มีความรุนแรงถึงขั้นเผาบ้านเผาเมือง เกิดการโกลาหลอย่างมาก ฉะนั้นโอกาสที่จะรวบรวมข้อมูล จึงไม่เหมือนคดีความตามปกติ ประเด็นนี้เขาก็มีความเข้าใจ แต่ก็แน่นอนที่เขาก็อยากเห็นกระบวนการสืบสวนสอบสวน มีความคืบหน้าและมีการเร่งรัดมากยิ่งขึ้น ซึ่งตนก็ได้ยืนยันกับเขาว่ารัฐบาลไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปทำให้เรื่องนี้ล่าช้า เราเข้าใจถึงความรู้สึกของผู้สูญเสียดีว่า คงไม่อยากให้เกิดความสูญเสียเกิดขึ้น แต่เมื่อมันเกิดขึ้น เราก็พยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
 
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทางญี่ปุ่นพยายามจี้เรื่องนี้มาตลอด เขาถามหรือไม่ว่าคดีนี้เสร็จได้เมื่อไหร่ รมต.สำนักนายกฯ กล่าวว่า เขาไม่ได้ขีดเส้นตาย เขาเพียงแต่พยายามย้ำให้เราเข้าใจเขาด้วย
 
ผู้สื่อข่าวถามว่า แต่การที่คำตอบที่เขาได้รับ แสดงว่าฝ่ายเขายังไม่พอใจ จึงได้มาติดตามจี้ตลอดเวลา นายองอาจ กล่าวยอมรับว่า ก็แน่นอน ตราบใดที่รายละเอียดที่ข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ยังไม่ปรากฏ ก็จำเป็นต้องหาข้อเท็จจริงเพื่อให้ได้ข้อยุติในเรื่องนี้ เขาก็คงจะต้องพยายามหาข้อเท็จจริงให้ได้และเร็วมากที่สุด นั่นคือความเห็นของเขา
 
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่นายจตุพร พรหมพันธ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำ กลุ่ม คนเสื้อแดง นำผลการสอบสวนของดีเอสไอมาเปิดเผย ทำให้ทางญี่ปุ่นออกมาเร่งรัดไทยเรื่องนี้หรือไม่ รมต.สำนักนายกฯ กล่าวว่า ทางเขาก็ได้พูดกับตนชัดเจนว่า เขาได้รับข้อมูลเช่นเดียวกัน แต่ยังไม่ปักใจเชื่อว่าเป็นข้อมูลที่ถูกต้องหรือไม่ ซึ่งเขาก็ยอมรับว่าการบิดเบือนข้อมูลข่าวสารก็อาจเกิดขึ้นได้ง่าย ดังนั้นเป็นเพียงข้อมูลส่วนหนึ่งที่เขามีอยู่ในขณะนี้ ซึ่งในประเด็นนี้ก็ได้เรียนให้เขาทราบว่า ในส่วนของเจ้าหน้าที่ที่ทำงานนี้ได้ออกมายืนยันต่อสาธารณชนไปแล้วว่า ข้อมูลที่ทางสถานทูตได้รับจากกลุ่มคนเสื้อแดงไม่ใช่ข้อมูลที่ถูกต้อง เพราะเขาไม่สามารถไปพิสูจน์เองได้ว่าข้อมูลนั้นถูกต้องหรือไม่ อย่างไร เพราะไม่ใช่หน้าที่ที่ต้องไปพิสูจน์ตรงนั้น
 
ผู้สื่อข่าวถามว่า การทำงานของดีเอสไอ มีความคืบหน้าบ้างหรือไม่ หรือมีอุปสรรคอย่างไร นายองอาจ กล่าวว่า ทุกคดีที่เกิดขึ้นจากเหตุวิกฤติทางการเมือง คงไม่ใช่เฉพาะช่างภาพญี่ปุ่นหรือช่างภาพอิตาลี ก็ยังมีคนไทยที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์นั้น ไม่ว่าเจ้าหน้าที่ ทหาร ตำรวจก็ตาม ก็เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ผู้ทำคดีต้องทำข้อเท็จจริง ให้ปรากฏเพื่อดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมให้ได้
 
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่าการเกิดเหตุการณ์ในครั้งนี้ มีการสั่งห้ามพวกอาสาสมัครที่จะเข้าไปช่วยเหลือผู้เจ็บ จึงทำให้เรื่องดังกล่าวมีความกำกวมอยู่ในขณะนี้ รมต.สำนักนายกฯ กล่าวว่า ตนอยู่ในสถานการณ์ที่รุนแรงขณะนั้น ฝ่ายเจ้าหน้าที่จะระมัดระวังเรื่องการสูญเสีย ไม่ว่าจะเป็นความสูญเสียเจ้าหน้าที่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายหนึ่งก็ตาม ฉะนั้นการติดตามข่าวสารจะเห็นว่า เจ้าหน้าที่จะต้องประกาศแจ้งให้ทราบ ว่าพื้นที่นั้นๆ ไม่ควรมีบุคคลใดเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าว เพราะเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติการก็ต้องระมัดระวังเรื่องความปลอดภัย ซึ่งต้องยอมรับความจริงว่าในสถานการณ์ที่โกลาหล เราไม่สามารถที่จะไประบุชัดเจนได้ว่ากระสุนหรือการทำร้ายซึ่งกันและกันมาจากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ทางที่ดี จึงต้องให้กระบวนการในการค้นหาความจริงในเรื่องที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องที่ต้องพิสูจน์ว่าเป็นอย่างไร
 
ผู้สื่อข่าวถามว่า ฝ่ายเราจะไปดำเนินการเร่งรัดคดีที่เขามาถามหรือไม่ เพราะคดีความในบ้านเรายิ่งนานวัน ผู้เสียหายก็ยิ่งเสียประโยชน์ นายองอาจ กล่าวว่า เรื่องนี้ถึงแม้ว่าท่านอัครราชทูตฯ ไม่มาพบตนก็ได้มีการติดตามเรื่องนี้กับผู้ที่เกี่ยวข้องตลอดเวลา เพราะก็เคยทำงานกับเพื่อนผู้สื่อข่าวญี่ปุ่นที่ผ่านมาหลายคน เคยทำข่าวภาคสนามกับเขามาก่อน ก็เห็นเหตุการณ์ต่างๆ มามากมาย และยอมรับว่านักข่าวญี่ปุ่น ทำงานในแนวหน้าและเป็นคนที่มีวินัยและตั้งใจในการทำงาน โดยจิตสำนึกของคนที่ทำงานอาชีพนี้มาก่อนและรวมทั้งจิตสำนึกในความเป็นมนุษย์ ก็อยากให้ความจริงในเรื่องนี้ปรากฏเช่นเดียวกัน ก็ได้พยายามอธิบายให้เขาฟัง เขาก็เข้าใจว่าเราได้ติดตามเรื่องมาโดยตลอด
 
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมดูเหมือนว่ารัฐบาลไม่กระตือรือร้น เท่าที่ควร แม้แต่ผู้สื่อข่าวของไทยเองก็ไม่ได้รับการเหลียวแล หรือมีคำชี้แจงอะไรที่ชัดเจนว่าใครจะรับผิดชอบ รมต.สำนักนายกฯ กล่าวว่า ถ้าเป็นคดีที่เกี่ยวข้องเจ้าหน้าที่ก็ต้องรับผิดชอบ
 
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าทางญี่ปุ่นไม่ได้เร่งรัด แต่รัฐบาลไทยได้ให้คำมั่นว่าคดีดังกล่าว จะเสร็จสิ้นในรัฐบาลนี้หรือไม่ นายองอาจ กล่าวว่า เราคงจะไปพูดอย่างนั้นไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่าข้อเท็จจริงตรงนั้นเป็นอย่างไร หรือการดำเนินการสืบสวนสอบสวนติดขัดหรือมีปัญหาอะไร จึงต้องให้เวลากับเจ้าหน้าที่ เพราะมันเป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการตามข้อมูลที่ถูกต้องจริงๆ ไม่เช่นนั้นอาจเกิดผลเสียตามมาทีหลังได้ อย่างไรก็ตามบรรยากาศในวันที่พบปะกับที่ปรึกษาอัครราชทูตฯ ในวันนี้เป็นไปด้วยดี และท่านก็ยังยืนยันว่าพร้อมที่จะทำงานร่วมกับประเทศไทยและรัฐบาลไทยในเรื่องอื่นๆ เช่นเดิม เพราะท่านก็ยืนยันว่าไทยกับญี่ปุ่น เป็นมิตรด้วยกันมาตลอด และยังต้องทำงานร่วมกันต่อไป ซึ่งท่านก็ไม่ได้บอกว่ามีความสงสัยหรือข้องใจอะไร
 
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net