รายงาน: อาลัยหมอ ‘ธาดา ยิบอินซอย’ ผู้วางระบบสาธารณสุขกลางไฟใต้

 
 
ภาพเมื่อครั้ง ศ.นพ.ธาดา ยิบอินซอย พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ เมื่อช่วงเดือนตุลาคม 2553 เมื่ออาการดีขึ้นก็ยังกลับไปตรวจรักษาคนไข้เหมือนเดิม จนกระทั่งถึงแก่กรรม
 
 
สิ้นหมอ‘ธาดา ยิบอินซอย’ ผู้วางระบบสาธารณสุขในชายแดนใต้ ใกล้วาระสุดท้ายก็ยังทำงานตรวจคนไข้ ตำแหน่งสุดเป็นประธานคณะกรรมการมูลนิธิเพื่อการเยียวยาและสร้างความสมานฉันท์ชายแดนใต้ หรือ มยส. และประธานคณะกรรมการสนับสนุนการดำเนินงานตามนโยบายด้านสุขภาพตามยุทธศาสตร์ ของประเทศในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้
 
สามทุ่มของวันเสาร์ที่ 15 มกราคม 2554 แสงนีออนส่องแสงสว่างทั่ววัดคลองเปล ตำบลคอหงส์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา กล่องรับบริจาค “กองทุน ศ.นพ.ธาดา ยิบอินซอย มูลนิธิโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยและสาธารณกุศล”ตั้งอยู่หน้าเต็นท์สวดพระอภิธรรมศพ พร้อมสมุดเขียนไว้อาลัย ขนาบด้วยภาพวาด ศ.นพ.ธาดา สองข้างและประดับประดาด้วยพวงหรีดงดงาม
 
การสวดอภิธรรมศพครั้งสุดท้าย ก่อนพระราชทานเพลิงศพในวันอาทิตย์ที่ 16 มกราคม 2554
 
เช้าวันอาทิตย์ที่ 9 มกราคม 2554 ศ.นพ.ธาดา หมดสติที่บ้าน ต่อมาได้ถึงแก่กรรมอย่างสงบในโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ด้วยวัย 77 ปี ท่ามกลางความอาลัยรักของคนในครอบครัว ญาติมิตร และลูกศิษย์ที่ผูกพัน
ศ.นพ.ธาดา ยิบอินซอย ได้รับการยกย่องว่าเป็นปูชนียบุคคลที่สำคัญทางวงการแพทย์ ด้วยใช้ความรู้ความสามารถจากการศึกษาในต่างประเทศมาพัฒนาประเทศ โดยหลังจากจบการศึกษาจากประเทศอังกฤษเริ่มเป็นแพทย์รักษาโรคหัวใจที่โรง พยาบาลศิริราช หลังจากนั้นจึงเดินทางศึกษาต่อที่สหรัฐอเมริกา
 
พ.ศ.2524 ศ.นพ.ธาดา ได้รับเลือกเป็นรองคณบดี คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ซึ่งเพิ่งเริ่มก่อตั้ง และก้าวขึ้นเป็นคณบดีในเวลาต่อมา จนกระทั่งเกษียณอายุราชการแล้วก็ยังอุทิศตัวให้แก่การทำงาน
 
ด้วยวัยที่ล่วงเลยกว่า 70 ปี และยังคงใช้ความรู้ความสามารถทำงานช่วยเหลือราชการและกิจกรรมสาธารณะ ความเป็นครูที่ชอบแสวงหาความรู้อยู่เสมอ และมีความสุขกับการถ่ายทอดความรู้เหล่านั้นให้กับลูกศิษย์ รวมทั้งคอยสร้างแรงบันดาลใจให้นำหลักการ ตลอดจนแนวคิดดีๆ ไปปฏิบัติ เพื่อพัฒนาระบบงานให้เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติ
 
สำหรับ ศ.นพ.ธาดา ยิบอินซอย เป็นบุตรคนที่ 4 จากทั้งหมด 5 คนของนายยิบ ต้นตระกูลยิบอินซอย และนางมีเซียมที่เป็นทายาทของนักธุรกิจเชื้อสายจีนที่อพยพมาจากประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเข้ามาบุกเบิกกิจการซื้อขายเหมืองแร่ในภาคใต้ และได้ก่อตั้งห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล “ยิบอินซอย แอนด์ โก” ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ในขณะที่ ศ.นพ.ธาดา นั้นเลือกที่จะเป็นหมอรักษาคนไข้แทนการสานต่อธุรกิจ
 
ตำแหน่งสุดท้ายของ ศ.นพ.ธาดา คือประธานคณะกรรมการมูลนิธิเพื่อการเยียวยาและสร้างความสมานฉันท์ชายแดนใต้ หรือ มยส. และประธานคณะกรรมการสนับสนุนการดำเนินงานตามนโยบายด้านสุขภาพตามยุทธศาสตร์ ของประเทศในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้
 
นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะ อ.จะนะ จ.สงขลา หนึ่งในคณะกรรมการมูลนิธิเพื่อการเยียวยาและสร้างความสมานฉันท์ชายแดนใต้ (มยส.) ซึ่งมีโอกาสได้ร่วมงานอย่างใกล้ชิดกับ ศ.นพ.ธาดา กล่าวให้สัมภาษณ์โต๊ะข่าวภาคใต้ สถาบันอิศรา (ที่มา: http://south.isranews.org/scoop-and-documentary/documentary/678--q-q-.html) ว่า อาจารย์หมอธาดามีส่วนอย่างมากกับการวางระบบงานของภาคสาธารณสุขในพื้นที่ โดยเน้นเรื่องหลักๆ 3 เรื่อง ได้แก่ 1. ความปลอดภัยในสถานบริการ คือโรงพยาบาลและสถานีอนามัย 2. การจัดการฐานข้อมูลเหตุการณ์ความไม่สงบ และ 3.การเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความรุนแรง
 
“ความปลอดภัยในสถานบริการทั้งโรงพยาบาลและสถานีอนามัยนั้น ท่านเน้นมากว่าจะทำอย่างไรให้มีความปลอดภัย ห่างไกลจากสถานการณ์ความไม่สงบ ไม่ใช่แค่ติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิดอย่างเดียว แต่หลักๆ คือต้องมีสัมพันธภาพกับชุมชนและการเป็นหมอที่ดี”
 
ส่วนการผลักดันให้เกิดการจัดการฐานข้อมูลเหตุการณ์ความไม่สงบนั้น นพ.สุภัทร กล่าวว่า บทบาทของอาจารย์หมอธาดาทำให้เกิดฐานข้อมูลที่เป็นรูปธรรมจากภาคสาธารณสุข ไม่ว่าจะโดนยิง โดนแทง หรือบาดเจ็บจากระเบิด จะมีการเก็บรวบรวมข้อมูลจากทุกโรงพยาบาลที่รักษาผู้บาดเจ็บจากอาการเหล่านี้ แล้วนำมาวิเคราะห์แยกเป็นพื้นที่ เพื่อประโยชน์ในการติดตามเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบทุกราย
 
ที่สำคัญอาจารย์หมอธาดายังร่วมผลักดันให้มีการนำหลักการทางศาสนาอิสลามเข้าไปใช้ในโรงพยาบาล เพื่อให้สอดคล้องกับวิถีวัฒนธรรมของพี่น้องมุสลิมในพื้นที่ ด้วยหวังให้พี่น้องมุสลิมเข้าสู่ระบบโรงพยาบาลมากขึ้น ทั้งเรื่องฮาลาล การอนุญาตให้ผู้นำครอบครัวหรือผู้นำศาสนากล่าวเสียงต้อนรับ (อะซาน) เด็กแรกเกิด การให้ญาติอ่านพระคัมภีร์ (อัลกุรอาน) ก่อนผู้ป่วยเสียชีวิต
 
“จริงอยู่ที่งานเหล่านี้มีการริเริ่มโดยคนในพื้นที่มาก่อนแล้ว แต่ท่านอาจารย์หมอธาดาก็มีส่วนอย่างมากในการให้ความสำคัญ จนเกิดการขยายครอบคลุมในมิติของมุสลิม โครงการพัฒนาระบบสาธารณสุขของอาจารย์หมอธาดาถือว่าประสบผลสำเร็จในพื้นที่ อย่างมาก เพราะสามารถทำให้บุคลากรทางการแพทย์เผชิญกับสถานการณ์ความไม่สงบได้ โดยที่ระบบบริการสาธารณสุขยังยืนอยู่ได้อย่างค่อนข้างมั่นคง และให้บริการประชาชนได้ตามปกติ โดยไม่หวั่นไหวกับความรุนแรง”
 
นพ.สุภัทร ยังกล่าวถึงความประทับใจที่มีต่อ ศ.นพ.ธาดา ด้วยว่า เป็นอาจารย์อาวุโสที่มีความคิดความอ่านทางสังคม มีอุดมการณ์แรงกล้า ช่วยเหลือสังคมอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย และไม่เคยทิ้งการรักษาคนไข้ ซึ่งนับว่าหายากมาก ถ้าในภาษาแพทย์ก็เรียกว่า “คลินิกเคลื่อนที่” เพราะเป็นแพทย์ที่ยังทำงานดูแลผู้ป่วยอยู่แม้ตัวเองจะเกษียณอายุราชการแล้วก็ตาม ท่านเป็นตัวอย่างของแพทย์ที่ดีอย่างแท้จริง

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท