รายละเอียดการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง 7 เขต ทั่วกทม.

อ่านรายละเอียดการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงของนายกรัฐมนตรีระหว่าง 9 – 23 ก.พ. 54 ในพื้นที่ 7 เขตของ กทม. พร้อมออกประกาศ 3 ฉบับ ออกข้อกำหนด 5 ข้อ ตาม ม.18 ของ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ พร้อมให้อำนาจเจ้าพนักงานใช้กฎหมาย 18 ฉบับ 

หมายเหตุ: เมื่อวันที่ 8 ก.พ. 2554 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศใช้ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ในพื้นที่ 7 เขตของ กทม. ระหว่างวันที่ 9 ถึง 23 ก.พ. 2554 โดยมีการออกประกาศทั้งสิ้น 3 ฉบับ ได้แก่ หนึ่ง “ประกาศเรื่อง พื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร” สอง “ข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 18 แห่งพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551”

และสาม “ประกาศ เรื่อง การให้พนักงานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 เป็นเจ้าพนักงานหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย” โดยให้อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ตาม พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรฯ เป็นเจ้าพนักงานหรือพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย ทั้งสิ้น 18 ฉบับ โดยคำสั่งทั้ง 3 ฉบับที่นายอภิสิทธิ์ประกาศ มีรายละเอียดดังนี้

 

ประกาศ
เรื่อง พื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร

ด้วยสถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองของกลุ่มพลังต่าง ๆ ที่จัดชุมนุมอยู่ในปัจจุบันก่อให้เกิดความเดือดร้อน มีการปิดกั้นการจราจร และประกาศจะยกระดับการชุมนุม โดยอาจมีการเคลื่อนไหวตามเส้นทาง รวมทั้งขู่ปิดล้อมและบุกยึดสถานที่ราชการที่สำคัญในเขตกรุงเทพมหานคร ถ้าไม่ได้ตามข้อเรียกร้อง รวมถึงมีบางกลุ่มที่ประกาศว่าจะจัดชุมนุมใหญ่ในพื้นที่สำคัญในกรุงเทพมหานคร ประกอบกับการชุมนุมของกลุ่มพลังต่าง ๆ ดังกล่าว มีเจตนาดำเนินการในลักษณะยืดเยื้อ และยั่วยุให้เกิดความรุนแรง ซึ่งอาจมีการกระทบกระทั่งระหว่างผู้ชุมนุมด้วยกัน หรือกับประชาชนผู้สุจริต และอาจมีกลุ่มผู้ไม่หวังดีบางกลุ่มก่อเหตุระหว่างการชุมนุม ขยายลุกลามจนเกิดสถานการณ์ความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเป็นการละเมิดกฎหมายและสิทธิส่วนบุคคล หากไม่มีมาตรการป้องกันและควบคุมอย่างเหมาะสม จะเกิดผลเสียหายต่อการปฏิบัติราชการแผ่นดินของรัฐบาล เกิดผลเสียหายต่อเศรษฐกิจ และผลประโยชน์ของชาติโดยรวม

ดังนั้น เพื่อให้การบริหารจัดการในการรักษาความสงบและความปลอดภัยมีเอกภาพและเป็นไป ด้วยความเรียบร้อย จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องกำหนดมาตรการป้องกันและแก้ไขมิให้ สถานการณ์ขยายตัวลุกลาม เป็นเหตุการณ์ก่อความไม่สงบหรือหากเกิดสถานการณ์ขึ้นเจ้าหน้าที่ของรัฐ สามารถแก้ไขปัญหาให้ยุติโดยเร็ว โดยไม่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 15 แห่งพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการ เกี่ยวกับการจำกัดสิทธิ และเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา 29 และมาตรา 31 ประกอบกับมาตรา 32 มาตรา 33 มาตรา 34 มาตรา 36 มาตรา 41 มาตรา 43 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 บัญญัติให้กระทำได้ โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย คณะรัฐมนตรีจึงมีมติเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554 ดังต่อไปนี้

 1. ในเขตพื้นที่ เขตพระนคร เขตป้อมปรามศัตรูพ่าย เขตดุสิต เขตปทุมวัน เขตวังทองหลาง เขตวัฒนา และเขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร เป็นพื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร

 2. ให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เป็นผู้รับผิดชอบในการป้องกัน ปราบปราม ระงับ ยับยั้ง และแก้ไขหรือบรรเทาเหตุการณ์ที่กระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร และจัดทำแผนการดำเนินการในการบูรณาการ กำกับ ติดตาม และเร่งรัดหน่วยงาน ของรัฐและเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้อง ให้ดำเนินการให้เป็นไปตามแผนที่กำหนด รวมทั้งจัดตั้งศูนย์อำนวยการหรือหน่วยงานที่เรียกชื่ออื่น เพื่อปฏิบัติภารกิจนี้เป็นการเฉพาะ

 ทั้งนี้ ให้มีผลบังคับใช้ระหว่างวันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554 ถึงวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

 ประกาศ ณ วันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

 

 (นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ)

 นายกรัฐมนตรี

 

 

ข้อกำหนด
ออกตามความในมาตรา 18 แห่งพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551

ตามที่ได้ประกาศให้เขตพื้นที่ เขตพระนคร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เขตดุสิต เขตปทุมวัน เขตวังทองหลาง เขตวัฒนา และเขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร เป็นพื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ระหว่างวันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554 ถึงวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554 และมอบหมายให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรเป็นผู้รับผิดชอบ ดำเนินการนั้น

เพื่อให้สามารถป้องกัน ควบคุม และแก้ไขเหตุการณ์ในพื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราช อาณาจักรดังกล่าวเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเกิดประสิทธิภาพ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 18 แห่งพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของ บุคคล ซึ่งมาตรา 29 และมาตรา 31 ประกอบกับมาตรา 32 มาตรา 33 มาตรา 34 มาตรา 36 มาตรา 38 มาตรา 41 มาตรา 43 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 บัญญัติให้กระทำได้ โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราช อาณาจักร โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554 ออกข้อกำหนดดังนี้

1. ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องปฏิบัติการหรืองดเว้นการปฏิบัติการอย่าง หนึ่งอย่างใด เพื่อช่วยเหลือหรือสนับสนุนการดำเนินการในอำนาจหน้าที่ของ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร และพนักงานเจ้าหน้าที่ของ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ทั้งนี้ ตามที่ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจาก ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการ มีคำสั่ง หรือเป็นการปฏิบัติตามแผนการดำเนินการ เพื่อป้องกัน ปราบปราม ระงับ ยับยั้ง และแก้ไขหรือบรรเทาเหตุการณ์ที่กระทบต่อความมั่นคงในราชอาณาจักร

2. ห้ามบุคคลใดเข้าหรือต้องออกจากบริเวณพื้นที่ อาคาร หรือสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ของ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร และภายในระยะเวลาการปฏิบัติหน้าที่ของ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ทั้งนี้ ตามที่ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจาก ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการ ประกาศกำหนด เว้นแต่เป็นบุคคลที่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือเป็นบุคคลที่มีประกาศของบุคคลดังกล่าวว่าเป็นบุคคลที่ได้รับการยกเว้น

3. ห้ามนำอาวุธออกนอกเคหสถาน

4. ห้ามการใช้เส้นทางคมนาคมหรือการใช้ยานพาหนะ หรือต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขการใช้เส้นทางคมนาคมหรือการใช้ยานพาหนะ ทั้งนี้ ตามที่ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจาก ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการ ประกาศกำหนด

5. ให้บุคคลปฏิบัติหรืองดเว้นการปฏิบัติอย่างใดอันเกี่ยวกับเครื่องมือหรือ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ตามชนิด ประเภท ลักษณะการใช้หรือภายในเขตบริเวณพื้นที่ที่ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ราชอาณาจักร ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจาก ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการ ประกาศกำหนด เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดแก่ชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สินของประชาชน

ในการนี้ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจาก ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการ จะกำหนดเงื่อนเวลาในการปฏิบัติตามข้อกำหนด หรือเงื่อนไขในการปฏิบัติงานของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามที่เห็นสมควร เพื่อมิให้มีการปฏิบัติที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ประชาชนเกินสมควรแก่ เหตุได้

ทั้งนี้ ให้มีผลบังคับใช้ระหว่างวันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554 ถึงวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ประกาศ ณ วันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

 

 (นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ)

 นายกรัฐมนตรี

 

 

ประกาศ
เรื่อง การให้พนักงานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 เป็นเจ้าพนักงานหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย

ตามที่ได้มีประกาศพื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราช อาณาจักรในเขตพื้นที่ เขตพระนคร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เขตดุสิต เขตปทุมวัน เขตวังทองหลาง เขตวัฒนา และเขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554 ถึงวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554 และมอบหมายให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรเป็นผู้รับผิดชอบ ดำเนินการนั้น 

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 16 วรรคสี่ แห่งพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของ บุคคล ซึ่งมาตรา 29 และมาตรา 31 ประกอบกับมาตรา 32 มาตรา 33 มาตรา 34 มาตรา 36 มาตรา 41 มาตรา 43 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 บัญญัติให้กระทำได้ โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย คณะรัฐมนตรี จึงมีมติเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554 ให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรมีอำนาจดำเนินการในส่วนที่ เกี่ยวข้องกับ การอนุญาต อนุมัติสั่งการ บังคับบัญชา หรือช่วยในการป้องกัน แก้ไข ปราบปราม ระงับ ยับยั้ง ในสถานการณ์ฉุกเฉินหรือฟื้นฟูหรือช่วยเหลือประชาชนในเขตท้องที่ที่มีการ ประกาศพื้นที่ และห้วงเวลาปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ดังต่อไปนี้

1. พระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการ กระทรวงกลาโหม พ.ศ. 2551 

2. พระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 

3. พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522

4. พระราชบัญญัติควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ. 2530

5. พระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 

6. พระราชบัญญัติควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง พ.ศ. 2493 

7. พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 

8. พระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 

9. พระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 

10. พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490

11. พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 

12. พระราชบัญญัติการแพทย์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2551 

13. พระราชบัญญัติควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2542 

14. พระราชบัญญัติวิทยุโทรคมนาคม พ.ศ. 2498 

15. พระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ. 2456 

16. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์เฉพาะบทบัญญัติที่เกี่ยวกับมูลนิธิและสมาคม 

17. ประมวลกฎหมายอาญา

18. ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา เฉพาะบทบัญญัติที่เกี่ยวกับการใช้อำนาจสืบสวนและสอบสวน และการใช้อำนาจของพนักงานฝ่ายปกครอง หรือตำรวจ

ทั้งนี้ ให้รวมถึงกฎหมายแก้ไขเพิ่มเติมดังกล่าวข้างต้นด้วย

ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัติการรักษาความ มั่นคง ภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 เป็นเจ้าพนักงานหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าว ทั้งนี้ ให้มีอำนาจดำเนินการโดยให้ถือเสมือนเป็นเจ้าพนักงานหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ ผู้มีอำนาจตามกฎหมายนั้น โดยการใช้กฎหมายดังกล่าวให้ดำเนินการเท่าที่จำเป็นและไม่ก่อให้เกิดความ เดือดร้อนแก่ประชาชนเกินสมควรแก่เหตุ ในการนี้ การดำเนินการตามกฎหมายดังกล่าว มิได้เป็นการทำให้การบังคับใช้กฎหมายของผู้รับผิดชอบเดิมหมดไป ซึ่งยังครอบคลุมหน้าที่ตามปกติ

ทั้งนี้ ให้มีผลบังคับใช้ระหว่างวันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554 ถึงวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ประกาศ ณ วันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

 

(นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ)

นายกรัฐมนตรี

 

 

ที่มา: รวบรวมจาก ศูนย์สื่อทำเนียบรัฐบาล

[1] ประกาศ พื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร, ศูนย์สื่อทำเนียบรัฐบาล, 8/2/2011 

[2] ข้อกำหนดเพื่อป้องกัน ควบคุม และแก้ไขเหตุการณ์ในพื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงฯ, ศูนย์สื่อทำเนียบรัฐบาล, 8/2/2011

[3] การให้พนักงานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ตามพ.ร.บ.ความมั่นคงภายในราชอาณาจักร, ศูนย์สื่อทำเนียบรัฐบาล, 8/2/2011

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท