Skip to main content
sharethis

ดร.สุเมธถามสื่อนอกตีข่าว "กษัตริย์ไทย" รวยสุดในโลกเจตนาอะไร ยันทรัพย์สินไม่ใช่ของพระองค์แต่เป็นของสถาบัน ตอกฝรั่งก็โง่

เมื่อวันที่ 23 ก.พ. 54 ที่ผ่านมามติชนออนไลน์รายงาน ว่าที่ งานวันเกี่ยวข้าวธรรมศาสตร์ (ปีที่ 5) ณ แปลงนา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีข่าวที่เว็บไซต์แวนคูเวอร์ซัน ของประเทศแคนาดา รายงานพระมหากษัตริย์ไทยครองอันดับหนึ่งผู้นำที่รวยที่สุดในโลก ว่า คนที่ไปแพร่ข่าวอะไรต่ออะไร ถามจริงๆ มีเจตนาอะไรหรือเปล่า เจตนาของสื่อคืออะไร ตนอยากตั้งคำถามกลับไปด้วย ถ้ารายงานด้วยความปกติก็ไม่มีปัญหาอะไร เข้าใจข้อมูลที่ได้รับไหมว่า คืออะไร เพราะฝรั่งบางทีอย่าคิดว่าฉลาดเสมอไป ฝรั่งโง่กันก็เยอะ

"ผมก็เรียนจบเมืองนอกมาก็โง่เหมือนกัน คำว่าสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ (The Crown Property Bureau) น่ะมันคืออะไร ถ้าจะดูว่าท่านรวยจริงหรือไม่จริง ต้องดูที่ทรัพย์สินส่วนพระองค์ อันนั้นใช่ของพระองค์จริงๆ เขาสืบทอดกันมาอย่างไร เหมือนอย่างเราสมบัติตกทอดมาถึงลูกถึงหลาน อันนั้นล่ะใช่ แต่ทำให้มันยุ่งปนเปกันหมด"

"ของหลวง หมายความว่า ของรัฐ แต่ฝรั่งมาเห็นตราเข้าก็ตาย (ล่ะ) ของพระเจ้าแผ่นดิน แน่นอนที่สุด จริงๆ กระทรวงการคลังดูแล ประธานของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ นั่นคือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ไม่ใช่สมบัติของพระองค์ มันเป็นของสถาบัน มีการตั้งคณะกรรมการ มีอะไรต่างๆ อย่างนี้ขยายความหรือเปล่า แพร่ไปอย่างนี้ หลายคนก็มันส์มือล่ะ พูด เขียนไปต่างๆ นานา รู้อยู่แก่ใจว่าอะไรเป็นอะไร ทรัพย์สินส่วนพระองค์อันนี้ของท่าน แล้วไปดูสิบ้านช่อง (วัง) ของท่าน อย่าว่าแต่มหาเศรษฐีต่างประเทศเลย มหาเศรษฐีในเมืองไทยรวยกว่าท่านเยอะ แล้วบอกรวยที่สุดในโลกได้อย่างไร สติไม่ดี" ดร.สุเมธกล่าว

เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนากล่าวว่า จากที่ตนได้มีโอกาสถวายงานส่วนพระองค์ ก็เห็นอยู่ว่าทรงใช้จ่ายน้อยที่สุด แล้วเวลาพูดถึงเรื่องประหยัด อะไรต่ออะไร เราก็นึกและพูดถึงท่านกันทุกที

"ในมุมกลับนี่ก็แปลกนะ กับข่าวที่บอกรวยที่สุด ดูชีวิตพระองค์ท่านสิ ท่านอยู่วังเล็กๆ ใช้ของประหยัด กลายเป็นต้นแบบความพอเพียง ข่าวสองข่าวมันขัดกันในตัวเองอยู่แล้ว อันนี้ก็ต้องฝากสื่อไปเหมือนกัน สื่อเข้าใจบทบาทของตัวเองผิด ข่าวเป็นอย่างนี้ อย่างนั้นก็สื่อกันไป ในเมืองไทยข้อมูลก็รู้อยู่แก่ใจ ตนไม่เชื่อว่าสื่อเป็นคนโง่ เพราะถ้าโง่จะเป็นสื่อมวลชนไม่ได้"

ส่วนกรณีที่ปัจจุบัน มีคนนำเรื่องสถาบันมาพูดวิพากษ์วิจารณ์ตามที่สาธารณะมากขึ้น โดยเฉพาะกับทางสังคมออนไลน์ อย่างเช่นเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์กันอย่างเปิดเผยและโจ่งแจ้งมากขึ้นนั้น ดร.สุเมธกล่าวว่า "ไอ้พวกนี้มีตัวตนที่ไหน อยากด่าใครก็ด่า เพราะฉะนั้น ในโลกออนไลน์จะสื่ออะไรก็ได้ทั้งนั้น ขืนเราเอามาเป็นสาระ ผมว่ารกสมอง"

เมื่อถามว่าได้เข้าเฝ้าฯพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ล่าสุดเมื่อไหร่ ดร.สุเมธกล่าวว่า เมื่อสองเดือนที่แล้ว ท่านก็ทรงพระเกษมสำราญดี แต่อาจจะมีพระอาการของหลังที่ยังคงไม่ปกติ ทำให้พระราชดำเนินไม่สะดวก แต่ท่านก็ยังทรงงานอยู่ตลอด มิเคยได้หยุด เรื่องน้ำ ดิน อากาศ และทุกข์สุขของประชาชน

ที่มาข่าว: มติชนออนไลน์

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net