Skip to main content
sharethis
“มาร์ค” ระบุเสียงของประชาชนจะเป็นสิ่งที่ชี้อนาคตของบ้านเมืองได้ ด้าน “สดศรี” เคาะวันหย่อนบัตรปลาย มิ.ย.ห่วง กม.ลูก 3 ฉบับ อยากให้เสร็จก่อนเลือกตั้ง หากไม่ทันเตรียมประกาศ กกต.รองรับแล้ว
วานนี้ (11 มี.ค.54) เมื่อเวลา 16.15 น.ที่ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการหารือกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เกี่ยวกับการจัดเตรียมการเลือกตั้งทั่วไปภายหลังที่จะประกาศยุบสภา ว่า เป็นการหารือสอบถามเรื่องของเทคนิคและปัญหาข้อกฎหมาย ทั้งนี้ กกต.สามารถเสนอร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทน ราษฎรได้ในสัปดาห์หน้า แต่ถ้ามีความจำเป็นหรือมีความเหมาะสมจริงๆ ว่าต้องมีการเลือกตั้งโดยเร็ว เรื่องของการออกระเบียบตามบทเฉพาะกาลหรือตามมาตรา 7 ของรัฐธรรมนูญ ก็สามารถทำได้
 
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ใน 2 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลชุดนี้ได้ดำเนินนโยบายหลายด้านและมาคลี่คลายปัญหาต่างๆ ของบ้านเมือง ซึ่งเราได้เห็นความพึงพอใจของประชาชนต่อนโยบายสำคัญๆ ของรัฐบาล และเศรษฐกิจมีความมั่นคงมากขึ้น แต่ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองยังมีอยู่ ซึ่งสิ่งที่รัฐบาลทำมาในช่วง 2 ปีกว่าที่ผ่านมาคือการรักษาความเป็นนิติรัฐ และพร้อมจะพิจารณาการคืนอำนาจให้กับประชาชนในเวลาที่เห็นว่าเหมาะสม ซึ่งวันนี้ตนคิดว่าตอนนี้สภาปัญหาเปลี่ยนไป โดยเป็นเรื่องปัญหาปากท้อง สินค้าราคาแพง ซึ่งตนต้องการเห็นประเทศเดินหน้าเมื่อมีคำตอบสำหรับประชาชน โดยตนไม่ต้องการให้ปัญหาของการเมืองมาเป็นอุปสรรคให้บ้านเมืองมีความอึมครึม ดังนั้น การเลือกตั้งจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ เสียงของประชาชนจะเป็นสิ่งที่ชี้อนาคตของบ้านเมืองได้ ซึ่งตนมั่นใจว่าเสียงดังกล่าวเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดและดังที่สุด มากกว่าการปล่อยให้สภาพการเมืองเป็นเรื่องของคนจำนวนน้อยแต่ส่งเสียงดัง
 
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนจะนำเรื่องการยุบสภา ขึ้นทูลเกล้าฯ ไม่เกินสัปดาห์แรกของเดือน พ.ค.นี้ เพื่อให้มีการตราพระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้งเป็นลำดับต่อไป ซึ่งเป็นกรอบเวลาที่ตนมั่นใจว่าความชัดเจนเรื่องของกฎหมายและกฎระเบียบ เกี่ยวกับการแบ่งเขตการเลือกตั้งจะมีความเรียบร้อย ทั้งนี้ ตนได้เคยหารือเรื่องนี้กับพรรคร่วมรัฐบาล ทั้งจากการที่ตนหารือเองโดยตรงหรือผ่านทางนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ตนก็ทราบดีว่ามีพรรคร่วมรัฐบาลหรือเพื่อน ส.ส.ที่ไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของตนในเรื่องนี้ แต่ตนตัดสินใจเพื่อเป็นการยืนยันเจตนารมณ์ทั้งหมดว่าเราควรมีการเลือกตั้ง ก่อนที่สภาฯจะครบวาระเพื่อขจัดความไม่ชัดเจนและความอึมครึมต่างๆ
 
 
กกต.เคาะเลือกตั้งปลายเดือน มิ.ย.
 
ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 11 มี.ค.54 นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวถึงกรณีนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวเตรียมทูลเกล้าฯยุบสภาภายในสัปดาห์แรกของเดือน พ.ค.ว่า หากนายกฯ ประกาศเช่นนี้ก็ต้องจัดการเลือกตั้งในเวลาไม่น้อยกว่า45 วันแต่ไม่เกิน 60ตามรัฐธรรมนูญ คาดว่าการเลือกตั้งน่าจะเกิดขึ้นภายใน มิ.ย.ซึ่ง กกต.พร้อมจัดการเลือกตั้งอยู่แล้ว แต่ห่วงเพียงกฎหมายลูกทั้ง 3 ฉบับเท่านั้นที่ต้องการให้เสร็จก่อนการเลือกตั้ง เพราะต้องการให้ทุกอย่างโปร่งใส ไม่เป็นที่ครหาให้เกิดการโต้แย้งในภายหลัง ซึ่งจากการรับฟังความคิดเห็นของพรรคการเมืองต่างๆ ก็เห็นด้วยที่จะให้มีกฎหมายลูกมาบังคับใช้ในการเลือกตั้ง มากกว่าการออกประกาศ กกต.มาบังคับใช้
 
“เรื่องการประกาศยุบสภาถือเป็นสัจจะของลูกผู้ชายคนหนึ่ง นายกฯ คงไม่ได้มีการยื้อเวลาอะไร เพราะภายหลังการหารือกับ กกต.แล้ว นายกฯ คงไปถามฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เช่น รัฐสภา ว่าจะพิจารณากฎหมายลูกได้ทันหรือไม่ เชื่อว่านายกฯ คงไม่ได้ฟัง กกต.แต่เพียงฝ่ายเดียว จากนั้นจึงประกาศวันยุบสภาออกมา และแต่หากสภาพิจารณากฎหมายลูกเสร็จเพียง 2 ฉบับคือ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย กกต.และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วย พรรคการเมือง กกต.และหากมีการยุบสภาก่อนที่ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว.แล้วเสร็จ กกต.ก็ยังสามารถออกกฎหมายนี้ได้ตามที่มาตรา 7 วรรคท้ายของ พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมเขียนไว้ แต่การออกประกาศนั้นกกต.ก็อาจจะต้องเขียนบทบัญญัติที่เหมือนกับมาตรา 309 ของรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมลงไปในท้ายประกาศ ว่า ‘การกระทำใดๆ ไม่ว่าก่อนหรือหลังประกาศฉบับนี้ประกาศใช้ ให้การกระทำนั้นชอบด้วยกฎหมาย’ ”นางสดศรี กล่าว
 
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net