Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

ยังมีหน่วยงานลับๆ อยู่แห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ลับมาก ลับเสียจนไม่ถูกระบุไว้ในรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายใด ลับจริงๆ จนน้อยคนนักที่จะรู้ถึงความมีจริงของหน่วยงานนี้ หน่วยงานที่เกิดขึ้นพร้อมกับความเบื่อหน่ายในบรรดาหน่วยงาน คณะกรรมการ และองค์กรอิสระทั้งหลายที่แทบจะจำชื่อจำตัวย่อไม่ได้แล้วของประเทศไทย เช่น กกต. ป.ป.ช. ป.ป.ท. กอ.รมน. กบข. กทช. สพฐ. สลค. กกน. ก.ก.ง. ฯลฯ (อันหลังแปลว่า กูก็งง) หน่วยงานนี้ มีหน้าที่ให้คำตอบและชี้ขาดในทุกเรื่องที่เกิดขึ้นในประเทศไทยโดยไม่เลือกหน้า กล่าวคือใครสงสัยอะไรตอบให้หมด ประมาณนั้น มีชื่อเรียกว่า “คณะกรรมการวินิจฉัยข้อยุ่งยาก” หรือชื่อย่อว่า … อ้ะ อย่าดีกว่า, แค่นี้ตัวย่อก็จะท่วมประเทศอยู่แล้ว – หน้าที่ของคณะกรรมการนี้คือ เมื่อเกิดเรื่องยุ่งยากขึ้น องค์กรนี้จะเป็นผู้ชี้ขาด โดยว่ากันว่า คณะกรรมการนี้ได้ครอบครองหนังสือเล่มหนึ่ง มีชื่อว่า “ตำรารู้แจ้ง (แห่งประเทศไทย)” ทุกคำถาม มีคำตอบอยู่ในตำรารู้แจ้งเล่มนี้ หน่วยงานนี้เป็นหน่วยงานลับจริงๆ ให้ดิ้นตาย แต่บังเอิญข้าพเจ้าไปได้เอกสารบันทึกความเห็นที่หลุดรอดมาได้จากองค์กรนี้โดยความเผอเรอของกรรมการคนหนึ่ง ที่เผลอเอาเอกสารสำคัญไปชั่งกิโลขายซาเล้ง เราจึงได้รู้ถึงการมีอยู่และการทำงานของคณะกรรมการดังกล่าว ผ่านเอกสาร ที่มีชื่อเรียกว่า “Sa-Leang leak” หรือ “ซาเล้งหลีก” โดยอาเฮียที่ชื่อ จูเลียง รับเซ้ง ที่ท่านจะได้อ่านต่อไปนี้ คือเอกสารหลุดดังกล่าว ข้อหารือที่ 010/2554 จาก รัฐบาล เนื่องด้วยศาลโลกสั่งให้ทางเราและเขมรถอนทหารออกจากพื้นที่ที่ได้ขีดเส้นใต้ไว้ที่แนบมานี้ อยากทราบว่า ทางเราควรดำเนินการต่อไปอย่างไร - ขอแสดงความนับถืออย่างสูงปรี๊ด ตอบ : ทางคณะกรรมการของเราได้เปิดตำรารู้แจ้งแล้ว พบว่า ทหาร นั้น ตำราท่านกล่าวไว้ว่า “...[ทะหาน] น. ผู้มีหน้าที่ในเรื่องรบ, นักรบ.” พอไปดูคำว่านักรบท่านว่าหมายถึง “....น. ผู้ชํานาญในการรบ, ทหาร.” (สาดดดด) เลยต้องไปเปิดดูต่อว่า การรบ นั้นคือ “...ก. สู้กัน, ต่อสู้ในทางศึก, เช่น ไปรบกับข้าศึกที่ชายแดน, สู้ เช่น รบกับหญ้าไม่ชนะ; เร้าจะเอาให้ได้ เช่น ลูกรบแม่ให้ซื้อตุ๊กตา.” ดังนั้น ศาลโลกจึงให้ถอนเฉพาะ ผู้มีหน้าที่ในการรบ สู้กัน หรือต่อสู้ในทางศึก ส่วน ตำรวจ นั้นท่านว่าหมายถึง “[–หฺรวด] น. เจ้าหน้าที่ของรัฐ มีหน้าที่ตรวจตรารักษาความสงบ จับกุมและปราบปรามผู้กระทําผิดกฎหมายเรียกชื่อตามหน้าที่ที่รับผิดชอบ เช่น ตํารวจสันติบาล ตํารวจกองปราบ ตํารวจดับเพลิง ตํารวจนํ้า ตํารวจรถไฟ ตํารวจป่าไม้. (ข. ฎํรวต, ตมฺรวต).” จะเห็นว่าตามตำรารู้แจ้งแล้ว “ตำรวจ” มีหน้าที่รักษาความสงบ แต่ไม่ได้มีหน้าที่รบ ดังนั้น ตำรวจจึงไม่ใช่ทหาร เราจึงมีสิทธิเอาตำรวจเข้าไปในพื้นที่ โดยไม่ขัดกับคำสั่งของศาลโลก อนึ่ง เราได้พบว่า คำว่า “ตำรวจ” นั้นมีรากศัพท์มาจากคำเขมร ดังนั้น ถ้าเป็นไปได้ เราควรหาคำอื่นมาใช้เรียกเจ้าหน้าที่ของรัฐ มีหน้าที่ตรวจตรารักษาความสงบ จับกุมและปราบปรามผู้กระทําผิดกฎหมายเรียกชื่อตามหน้าที่ที่รับผิดชอบ ฯลฯ นี้เถิด ลงนาม - คณะกรรมการ ว.ย. ข้อหารือที่ 4545/2554 จาก กลุ่มเรียกร้องความเสมอภาคทางเพศ เราขอให้ท่านชี้ขาดว่า กลุ่มคนรักเพศเดียวกัน เกย์ เลสเบี้ยน หรือคนข้ามเพศอื่นๆ ควรมีสิทธิแต่งงานกันได้ตามกฎหมายหรือยัง - ขอแสดงความนับถืออย่างแรวงงง ตอบ [1] : เราได้เปิดตำรารู้แจ้งแล้ว “แต่งงาน” คือ “...ก. ทําพิธีเพื่อให้ชายหญิงอยู่กินเป็นผัวเมียกันตามประเพณี.” “ชาย” คือ “...น. คนที่ไม่มีมดลูก, ผู้ชาย ก็ว่า.” ส่วน “หญิง” คือ “...น. คนที่มีมดลูก, ผู้หญิง ก็ว่า.” ดังนั้น การแต่งงาน คือ การทำพิธีเพื่อให้คนไม่มีมดลูกกับคนมีมดลูกมาอยู่กินเป็นผัวเป็นเมียกันตามประเพณี ดังนั้น ถ้าเป็นคนไม่มีมดลูกด้วยกันอยู่กินกัน หรือคนมีมดลูกสองคนมาอยู่ด้วยกัน จึงไม่ถือว่าเป็นการแต่งงานไปได้ ตามที่ตำรารู้แจ้งท่านได้กำหนดไว้ อนึ่ง ใครเป็นมะเร็งแล้วผ่าตัดเอามดลูกออกไป มันผู้นั้นมิใช่ผู้หญิงอีกต่อไป ตามที่ตำรารู้แจ้งท่านกล่าว ลงนาม - คณะกรรมการ ว.ย. ข้อหารือที่ 168,501,828,300/2554 จาก หน่วยงานความมั่นคง เราอยากทราบสั้นๆ เท่านั้นแหละว่า ทำไม ฮ. ของเราจึงตกบ่อยนัก - ขอแสดงความนับถืออย่างเข้มแข็ง ตอบ : เราได้เปิดตำรารู้แจ้งดูแล้ว ตก ท่านว่าคือ “...ก. กิริยาที่ลดลงสู่ระดับตํ่าในอาการอย่างพลัดลง หล่นลงเช่น ตกบันได ตกต้นตาล เครื่องบินตก; ไหลลง, หยดลงมา, เช่น นํ้าตก ฝนตก เหงื่อตก” เราจึงตอบท่านได้อย่างมั่นใจว่า การที่ ฮ. ของท่านตก ไม่ว่าจะกี่ลำ นั้นเป็นเพราะว่า ฮ. ของท่านนั้นได้ลดลงสู่ระดับต่ำอย่างพลัดหลง ซึ่งเป็นความผิดของแรงดึงดูดที่มากระทำ ไม่ใช่ความผิดของท่านเป็นอันขาด ตอบโต้พวกผู้สื่อข่าวหรือพวกขี้สงสัยได้เลย ลงนาม - คณะกรรมการ ว.ย. ข้อหารือที่ 09210/2554 จาก เบิ้ม ลูกพระอาทิตย์ ในนามของ สภาสมาคมสหภาพองค์กรเครือข่ายคนไทยหัวใจรักและเชิดชูชาติไทยทนุบำรุงให้รุ่งเรืองต่อต้านการทุจริตและติดตามคนผิดมาลงโทษ (กลุ่มคนเสื้อสีขนมซ่าหริ่ม) การที่ “มัน” ใช้คำว่า “มหาราษฎร์” ถือว่าหมิ่นหรือไม่ - ตอบเร็วกูจะไปแจ้งความ ตอบ : อันว่า “มหา” นั้น คือ “...ใหญ่, ยิ่งใหญ่, หรือ น. สมณศักดิ์ที่ใช้นําหน้าชื่อภิกษุผู้ที่สอบไล่ได้ตั้งแต่เปรียญธรรม ๓ ประโยคขึ้นไป.” ส่วน “ราษฎร์” นั้นคือ “... น. พลเมืองของประเทศ. (ส.).” ดังนั้น มหาราษฎร์จึงมีสองความหมายคือ พลเมืองใหญ่ของประเทศ หรือ พลเมืองของประเทศที่สอบได้เปรียญธรรมสามประโยคขึ้นไป ดังนั้น หากมันผู้ใดอวดอ้างว่าเป็นมหาราษฎร์ มันผู้นั้นควรจะเป็นพลเมืองใหญ่ของประเทศ หรือไม่ก็สอบได้เปรียญธรรมสามประโยค ดังนั้น ทางคณะกรรมการ ว.ย. ว่า เราแจ้งความมันข้อหาหลอกลวงประชาชนดีกว่า เพราะ “มัน” ไม่น่าจะสอบได้เปรียญ หรือไม่น่าจะใหญ่มากหากมองจากรูปร่างภายนอก อนึ่ง ขอความกรุณาอย่าแตะต้อง บริษัทสุรามหาราษฎร์ เป็นอันขาด หาไม่แล้ว คณะกรรมการ ว.ย. ของเราหลายคนคงลงแดงตายแน่ ลงนาม - คณะกรรมการ ว.ย. ข้อหารือที่ (ด่วนมากที่สุดของที่สุด) 737/2554 จาก รัฐบาล สถานทูตเยอรมันออกแถลงการณ์เป็นทางการขอให้เรา ชำระหนี้ 36 ล้านยูโรเพื่อความสัมพันธ์อันดี เราเอาอย่างไรดีท่าน - T_T ตอบ : ท่านตอบไปเลยว่า เรายินดีชำระเงินให้ 36 ล้านยูโร หรือจะกี่ร้อยล้านยูโรก็ได้ เพราะ “ชำระ” นั้น ตำรารู้แจ้งท่านหมายถึง “...ก. ชะล้างให้สะอาด เช่น ชําระร่างกาย; สะสาง, ปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น” ดังนั้น เรายินดีรับชำระเงินให้ท่าน ไม่ว่าเงินนั้นจะเปื้อนคราบเลือดหรือแป้งมันที่ไหนก็ตาม อนึ่ง ทางประเทศเรามีผู้เชี่ยวชาญด้านการชำระเงินให้เอี่ยมอ่องอยู่มาก เรื่องนี้หาใช่ปัญหาอันใดเลย และขอย้ำให้ท่านมั่นใจว่า หากมีปัญหาอะไรยุ่งยาก คิดไม่ตก ไปไม่เป็น ท่านไม่ต้องนึกให้หนักสมอง เพียงถามหาพวกเราที่ คณะกรรมการวินิจฉัยข้อยุ่งยาก และ ตำรารู้แจ้ง ที่เรียกว่า “พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตสถาน [2] ” ลงนาม - คณะกรรมการ ว.ย. ประทับตราศรีธนญชัยขี่สลิ่มโบกธง มาเป็นสำคัญ - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - 1. เคยมีคำพิพากษาศาลฎีกาเช่นนี้จริงๆ ถือเป็นหนึ่งในฎีกาคลาสสิกที่คนเรียนกฎหมายน่าจะเคยผ่านตามาแล้ว คำพิพากษาฎีกาที่ 157/2524 “ผู้ร้องเป็นชายโดยกำเนิด แต่ได้รับการผ่าตัดเป็นหญิงแล้ว ขออนุญาตเปลี่ยนคำนำหน้าชื่อเป็นนาง ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เพศของบุคคลนั้นกฎหมายรับรองแล้วถือเอาตามเพศที่กำเนิดมา คำว่า “หญิง” ตามพจนานุกรมราชบัณฑิตยสถาน หมายความว่า คนที่ออกลูกได้ ผู้ร้องถือกำเนิดเป็นชาย ถึงจะมีเสรีภาพในร่างกายผ่าตัดไปเป็นหญิง แต่ผู้ร้องก็คลอดบุตรไม่ได้ ฉะนั้นโดยธรรมชาติและตามที่กฎหมายรับรอง ผู้ร้องก็ยังเป็นเพศชายอยู่ ไม่มีกฎหมายรับรองให้สิทธิผู้ร้องขอเปลี่ยนเพศที่ถือกำเนิดมาได้ ทั้งมิใช่เป็นกรณีที่จะใช้สิทธิตามมาตรา 55 (ถูกโต้แย้งสิทธิ) จึงสั่งยกคำร้อง” (นิยามคำว่า “หญิง” น่าจะถือตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตสถาน 2493 ที่ใช้อยู่ในสมัยนั้น) 2. ท่านสามารถ “ปรึกษา” ตำรารู้แจ้งแห่งประเทศไทยได้ ผ่านทางเวบไซต์ http://rirs3.royin.go.th/dictionary.asp การเปิดพจนานุกรมตอบอาจจะใช้ได้ในบางวงการ แต่ถ้าใช้กับเพื่อนฝูงหรือเจ้าหนี้ ระวังโดนเตะหรือพาไปเลี้ยงจระเข้

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net