Skip to main content
sharethis

สหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ส่งตัวแทนเข้าพบหัวหน้าป่าไม้จังหวัดสุราษฏร์ธานีทวงถามกรณีนายทุนรุกป่า รุกถามตั้งกรรมการตรวจสอบแต่ไร้ความคืบหน้า ก่อนเข้าเจรจากรอบการจัดสรรที่ดินกับ ส.ป.ก.ยืนยันหลักการโฉนดชุมชน วันที่ 30 พ.ย.54 เมื่อเวลา13.00 น.ตัวแทนสมาชิกสหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ (สกต.) จำนวน 30 คน จาก 5 ชุมชนได้ขอเข้าพบนายคนิต สังขนิตย์ หัวหน้าป่าไม้จังหวัดสุราษฏร์ธานีเพื่อถามกรณีบริษัท สหอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมัน จำกัด เข้าไปยึดครองพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันในพื้นที่ป่าในเขต ต.บางสวรรค์ อ.พระแสง จ.สุราษฏร์ธานี มาเป็นเวลากว่า 30 ปี สมาชิกสหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ ชี้แจงว่าหน่วยงานป่าไม้ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบพื้นที่ไม่ได้เข้าตรวจสอบหรือดำเนินการใดๆ กับบริษัท ทั้งที่ก่อนหน้านี้กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ตรวจสอบแล้วว่าบริษัทได้เอกสารสิทธิ น.ส.3ก.มาโดยมิชอบ และเอกสารสิทธิ์มีเนื้อที่เพียงแค่ 300 ไร่แต่อีก 1,100 ไร่ยังเป็นสิทธิของป่าไม้อยู่ แต่เมื่อชาวบ้านเข้าไปตรวจสอบและขอใช้สิทธิทำประโยชน์ในพื้นที่ทำการเกษตรกลับถูกฟ้องร้องดำเนินคดีอาญาข้อหาบุกรุกอสังหาริมทรัพย์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อถูกตั้งคำถามจากกลุ่มตัวแทนสมาชิก สกต.ถึงเรื่องการตั้งคณะกรรมการเข้าตรวจสอบพื้นที่นายคนิตได้แสดงท่าทีไม่พอใจ และบอกว่าไม่ทราบว่าตอนนี้เรื่องไปถึงไหนแล้ว ให้ไปถามกับผู้ว่าราชการจังหวัดเพราะเป็นประธานกรรมการตรวจสอบ ตนเองไม่สามารถบอกอะไรได้ ทำให้กลุ่มตัวแทน สกต.ต้องพากันกลับโดยไม่ได้รับความกระจ่างใดๆ ทั้งนี้ คดีดังกล่าวที่ชาวบ้านถูกฟ้องร้อง ศาลชั้นต้นได้ตัดสินจำคุก 1 ปี 6 เดือนโดยไม่รอลงอาญา และขณะนี้กำลังอยู่ในชั้นของการอุทธรณ์ หลังจากนั้นเวลา 14.00 น.ตัวแทนสมาชิก สกต.ชุดเดียวกันได้เดินทางไปเข้าพบ นายฉลอง มณีโชติ หัวหน้า ส.ป.ก.จังหวัดสุราษฏร์ธานี เพื่อเจรจาเรื่องกรอบการจัดสรรที่ดินและคุณสมบัติของเกษตรกรที่จะได้รับการจัดสรรพื้นที่ทั้ง 3 ชุมชนซึ่งตัวแทนสมาชิกสหพันธ์ได้ยืนยันหลักการโฉนดชุมชน สิทธิและผลประโยชน์ของสมาชิกเป็นหลักสำคัญ อีกทั้ง เสนอแนวทางในการแก้ปัญหาระหว่างคนกับพื้นที่ว่า ส.ป.ก. ควรหาพื้นที่ว่างเปล่า หรือพื้นที่ที่ถูกกลุ่มทุนเข้าครอบครองทำประโยชน์โดยมิชอบเข้าทำการตรวจสอบ แล้วนำกลับมาปฏิรูปให้กับเกษตรกรผู้ไร้ที่ดินทำกินต่อไป ผู้สื่อขาวรายงานว่า ผลจากการเจรจาทางหน่วยงาน ส.ป.ก.รับปากจะจัดตั้งคณะกรรมการชุดใหญ่ และคณะอนุกรรมการเข้าดำเนินการจัดสรรพื้นที่โดยคัดเลือกจากบุคคลที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ในที่ดิน “เราไม่ได้เอาที่ดินเป็นของเราแต่ให้เป็นของชุมชนเราแค่ขอใช้ประโยชน์ในที่ดินเท่านั้น” นายบุญฤทธิ์ ภิรมณ์ หนึ่งในตัวแทนสมาชิกกล่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net