23 กุมภาพันธ์ มติชนออนไลน์ รายงานว่า เวลา 13.00 น. ที่ สน.ลุมพินี นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย พร้อมนายพิชิฏ ชื่นบาน และนายสมหมาย กู้ทรัพย์ ทีมทนายความพรรคเพื่อไทย เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี กรณี ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ออกมากล่าวหาวิพากษ์วิจารณ์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่เดินทางไปโรงแรมโฟซีซั่นส์ โดยนำหลักฐานเป็นข่าวการให้สัมภาษณ์ และซีดีบันทึกรายงานให้สัมภาษณ์รายการแห่งหนึ่งทางช่องทีวีดาวเทียมบลูสกายนิวส์ โดยมี พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รอง ผบช.น. พ.ต.อ.ศรัญญู ชำนาญราช รอง ผบก.น.5 พ.ต.อ.ชนิน วชิรปราณีกุล ผกก.สน.ลุมพินี ร่วมรับเรื่องร้องเรียน นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้มอบหมายให้ตนพร้อมทีมทนายมาแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อดำเนินคดีจำนวน 3 คดี โดยคดีแรกเป็นกรณีที่ นายศิริโชค โสภา นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ และเจ้าของทีวีดาวเทียมบลูสกายนิวส์ ที่มีการสัมภาษณ์หมิ่นประมาทในรายการ \สายล่อฟ้า\" เมื่อวันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา กล่าวหานายกรัฐมนตรีกรณีเดินทางไปโรงแรมโฟซีซั่นส์ว่าผิดจริยธรรม คดีที่ 2 กรณีที่นายชวนนท์ ที่ออกมาให้สัมภาษณ์ตามสื่อต่างๆ ตั้งแต่วันที่ 15-21 ก.พ. กล่าวหาว่าการเดินทางไปโรงแรมโฟซีซั่นส์ของนายกรัฐมนตรีนั้นมีผลประโยชน์ทับซ้อนในการบริหารงานแผ่นดิน และคดีที่ 3 น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่ออกมากล่าวหา หมิ่นนายกรัฐมนตรีว่าไม่มีความเหมาะสมในการดำรงตำแหน่งนายกฯ และในฐานะผู้เป็นแม่ซึ่งทั้งหมดถูกแจ้งในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ปรากฏในสื่อสิ่งพิมพ์และโทรทัศน์ ทั้งนี้เมื่อเวลา 15:27 น. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความตอบคำถามกรณีการเดินทางไปพบกลุ่มบุคคล ณ โรงแรม โฟร์ซีซั่นส์ เมื่อวันพุธที่ ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ ผ่านทางเฟสบุ๊ค Yingluck Shinawatra ระบุเป็นการเดินทางไปเพื่อการรับฟังสภาพปัญหาที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจและสถานการณ์บ้านเมือง ทั้งเป็นการรับฟังข้อเสนอแนะและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอันจะเป็นประโยชน์สูงสุดต่อการบริหารราชการแผ่นดิน โดยมีรายละเอียด ดังนี้... ขอชี้แจงกรณี การเดินทางไปโรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ เมื่อวันที่ ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ จากที่มีการโจมตีกล่าวหาดิฉันกรณีการเดินทางไปพบกลุ่มบุคคล ณ โรงแรม โฟร์ซีซั่นส์ เมื่อวันพุธที่ ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ นั้น ดิฉันขอโอกาสชี้แจงข้อเท็จจริงดังนี้ ๑. ประเด็นต่อข้อกล่าวหาเรื่อง “หนีการประชุมสภา ไม่รับผิดชอบต่องานสภา” ดิฉันขอเรียนชี้แจงว่า ดิฉันทราบดีและภูมิใจเสมอที่พี่น้องประชาชนได้ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งให้ดิฉันเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แต่ด้วยอีกสถานะหนึ่งประชาชนก็ได้ให้ความไว้วางใจภายใต้ระบอบประชาธิปไตยในระบบรัฐสภาให้ดิฉันเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ดังนั้นในแง่ของการทำงานดิฉันถือเป็นหัวหน้าฝ่ายบริหารราชการแผ่นดิน ที่ต้องทำหน้าที่บริหารให้ได้รับประโยชน์สูงสุดตามหลักการของการบริหารราชการที่ดี การใดที่เป็นประโยชน์ต่อการบริหารราชการแผ่นดินเป็นเรื่องที่ต้องกระทำ แต่ใช่ว่าจะไม่เคารพสภาผู้แทนราษฎรซึ่งเป็นประกอบด้วยตัวแทนประชาชนเช่นเดียวกับดิฉัน สำหรับข้อกล่าวหาต่อดิฉันว่าหนีการประชุมสภาฯและไม่รับผิดชอบต่องานสภาฯนั้น ไม่เป็นความจริง ดิฉันขอชี้แจงว่าการประชุมสภาฯ เมื่อวันพุธที่ ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ ทราบว่าในวันดังกล่าวมีวาระรับทราบในเรื่องต่างๆ แต่ไม่มีประเด็นที่นายกรัฐมนตรีต้องเข้าประชุมเพื่อชี้แจงต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร และในวันดังกล่าว เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจในฐานะนายกรัฐมนตรีที่มีการนัดหมายไว้ก่อนหน้าแล้ว ดิฉันก็ได้เดินทางมาที่อาคารรัฐสภา เพื่อร่วมรับฟังและสอบถามเกี่ยวกับประเด็นที่มีการอภิปรายอยู่ในสภาผู้แทนราษฎร ทั้งยังได้ลงชื่อในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในเวลาประมาณ ๑๖.๑๖ น. ด้วย ๒. ประเด็นต่อข้อกล่าวหาเรื่อง “ไม่มาตอบกระทู้ของ ส.ส.รังสิมา รอดรัศมี” กระทู้ถามของ ส.ส.รังสิมา รอดรัศมี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ เป็น การตั้งกระทู้ถามสดซึ่งในวันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ เวลา ๑๑.๐๐ น. ดิฉันอยู่ในระหว่างการปฏิบัติภารกิจในพื้นที่จังหวัดลพบุรี ต่อเนื่องจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นพื้นที่ประสบปัญหาอุทกภัย และการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวมีความต่อเนื่องในการปฏิบัติหน้าที่มาตั้งแต่วันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ ดังที่สื่อมวลชนได้ติดตามรายงานอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้น อย่างไรก็ดี เมื่อทราบว่ามีผู้ตั้งกระทู้ถามสดเกี่ยวกับตัวดิฉันในฐานะนายกรัฐมนตรี ดิฉันได้มอบหมายให้ พลเอกยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ตอบกระทู้ถามสดแทนตัวดิฉัน ซึ่งเป็นสิ่งที่พึงกระทำได้ตามข้อบังคับของสภาฯ ๓. ประเด็นต่อข้อกล่าวหาเรื่อง “การเดินทางไปโรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ เป็นเรื่องส่วนตัว กระทำผิดจริยธรรม และมีเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน” ดิฉันขอเรียนว่าในวันดังกล่าวดิฉันได้ไปพบกับกลุ่มนักธุรกิจภาคเอกชนจำนวนหลายคนที่ชั้น ๗ ซึ่งเป็น Executive Club ของโรงแรมดังกล่าว เป็นสถานที่เปิดเผย และเป็นการเดินทางไปเพื่อการรับฟังสภาพปัญหาที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจและสถานการณ์บ้านเมือง ทั้งเป็นการรับฟังข้อเสนอแนะและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอันจะเป็นประโยชน์สูงสุดต่อการบริหารราชการแผ่นดิน โดยในการเดินทางไปครั้งนี้มีผู้พบเห็นเหตุการณ์จำนวนมากไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ของโรงแรม พนักงานบริการ หรือหน่วยรักษาความปลอดภัย อย่างไรก็ตามด้วยผู้ที่มาพบหารือไม่ต้องการที่จะปรากฏเป็นข่าว กำหนดการนี้จึงไม่มีการแจ้งสื่อมวลชนแต่ประการใด ในวันนั้น ไม่มีการพูดจาเรื่องธุรกิจส่วนตัว ไม่มีการพูดถึงการเวนคืนที่ดินเพื่อเป็นที่รับน้ำหรือเป็นพื้นที่น้ำผ่าน ที่เรียกว่า ฟลัดเวย์ (Flood Way) พื้นที่แก้มลิงและอ่างเก็บน้ำ การชะลอการประเมินราคาที่ดิน หรือเรื่องอื่นเรื่องใดที่จะเป็นการเอื้อประโยชน์ต่อผู้ใดโดยเฉพาะตามที่มีการกล่าวหา ดิฉันใคร่ขอชี้แจงด้วยว่า ที่ดิฉันไม่ได้โต้ตอบข้อกล่าวหาที่ไร้สาระนี้แต่ต้น เพราะดิฉันเห็นว่าเป็นเกมการเมืองซึ่งดิฉันไม่ถนัด ดิฉันอาสาประชาชนมาเพื่อทำงาน และดิฉันเป็นนักบริหารที่เชื่อว่าผลงานจะเป็นบทพิสูจน์ความจริงใจ ทั้งนี้ขอยืนยันอีกครั้งว่า ดิฉันจะไม่ทำการใดๆอันเป็นการหาผลประโยชน์ส่วนตน เอื้อประโยชน์ใครคนใดคนหนึ่ง หรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ทุกอย่างที่ดิฉันทำก็เพื่อความผาสุกที่ยั่งยืนของพี่น้องประชาชนทุกคน นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕"
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)