Skip to main content
sharethis

ค้นปอเนาะพ่อมิ่งรอบสอง หาหลักฐานโยง 7 อุตสาซที่ถูกคุมตัว ยึดมอเตอร์ไซด์ 5 คัน อุปกรณ์มือถือและปุ๋ยยูเรีย ผู้บริหารแจง คนบริจาครถจักรยานยนต์ให้เด็กใช้สอนตาดีกา ส่วนศิษย์เก่าที่ก่อเหตุร้ายไม่เกี่ยวข้องกับโรงเรียน 

 

 

เมื่อวันที่ 08.00 น. วันที่ 26 เมษายน 2555 ทหารพรานจากกรมทหารพรานที่ 44 ร่วมกับ ตำรวจสถานีตำรวจภูธรปะนาเระ จังหวัดปัตตานี และเจ้าหน้าที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน. ภาค4 สน.) รวมกว่า 300 นาย เข้าตรวจค้นโรงเรียนวัฒนธรรมอิสลามพ่อมิ่ง ตำบลน้ำบ่อ อำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นอาคารทุกหลังภายในโรงเรียนอย่างละเอียด โดยเฉพาะหอพักนักเรียนทั้งชายและหญิง อีกทั้งมีการเก็บลายนิ้วมือ ตัวอย่างเนื้อเยื่อเพื่อตรวจดีเอ็นเอและน้ำลาย ของบุคคลกรของโรงเรียนทุกคน โดยเริ่มเข้าตรวจค้นตั้งแต่เวลาประมาณ 05.00 น.

พ.ต.อ.มานิตย์ ยิ้มซ้าย ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรปะนาเระ เปิดเผยว่า ผลการตรวจค้นในเบื้องต้น มีการตรวจยึดอุปกรณ์หลายรายการ เช่น เครื่องชาร์จโทรศัพท์มือถือ รถจักยานยนต์ 5 คันสภาพชำรุด และปุ๋ยยูเรียจำนวนหนึ่ง เป็นต้น ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้สามารถประกอบเป็นวัตถุระเบิดได้ ทางสถาบันนิติวิทยาศาสตร์จะนำไปตรวจพิสูจน์อีกครั้ง และการตรวจค้นครั้งนี้ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากโรงเรียน

พ.ต.อ.มานิตย์ เปิดเผยว่า การเข้าตรวจค้นครั้งนี้ เนื่องจากสายข่าวของ กอ.รมน. ภาค 4 สน. แจ้งว่า เหตุไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ผู้ก่อเหตุส่วนใหญ่เป็นนักเรียนที่จบจากโรงเรียนวัฒนธรรมอิสลามพ่อมิ่ง เช่น กรณีผู้ก่อเหตุรายวันปะทะกับทหารพรานเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2555 ณ จุดตรวจทหารพราน หมู่ที่ 2 ตำบลปะนาเระ มีผู้ก่อเหตุเสียชีวิต 3 ราย

พ.ต.อ.มานิตย์ เปิดเผยว่า ทั้ง 3 คน เรียนจบจากที่นี่ ส่วนอีก 2 คนหลบหนีไปได้ และมีการออกหมายจับแล้ว ซึ่งจากการตรวจสอบประวัติพบว่า เรียนจบจากโรงเรียนวัฒนธรรมอิสลามพ่อมิ่งเช่นกัน ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบดีเอ็นเอที่พบจากรองเท้าที่ตกในที่เกิดเหตุ พบว่า เป็นบุคคลที่มีบ้านอยู่ด้านหลังโรงเรียนและเคยถูกดำเนินคดี

พ.ต.อ.มานิตย์ เปิดเผยก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2555 เจ้าหน้าที่ 3 ฝ่าย ได้สนธิกำลังเข้ามีการปิดล้อมโรงเรียนวัฒนธรรมอิสลามพ่อมิ่งมาแล้ว และเชิญตัวอุสตาซ(ครูสอนศาสนาอิสลาม) 7 คนไปซักถาม ขณะนี้อยู่ระหว่างการควบคุมตัวตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ในค่ายอิงคยุทธบริหาร อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี

พ.ต.อ.มานิตย์ เปิดเผยว่า การตรวจค้นครั้งนี้ ใช้พยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ หากพบสิ่งผิดกฎหมายที่สามารถเชื่อมโยงถึงบุคคลทั้ง 7 คนได้ เจ้าหน้าที่ก็จะสามารถรวบรวมพยานหลักฐานและออกหมายจับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจาณาความอาญา (ป.วิอาญา) ได้ทันที หากไม่มีหลักฐานเจ้าหน้าที่ต้องปล่อยตัวทันที

นายอิบรอฮีม หะ ประธานมูลนิธิโรงเรียนวัฒนธรรมอิสลามพ่อมิ่ง เปิดเผยว่า การเข้าตรวจค้นครั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้แจ้งมาล่วงหน้า จากนั้นได้เรียกผู้บริหารโรงเรียนทุกคนมาประชุมและมีมติให้อนุญาตตรวจค้นได้

นายอิบรอฮีม ชี้แจงว่า สิ่งของที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดไป เช่น รถจักรยานยนต์ 5 คัน เป็นของโต๊ะอิหม่ามในหมู่บ้านต่างๆ บริจาคให้โรงเรียนเพื่อให้นักเรียนใช้เดินทางไปสอนในโรงเรียนตาดีกาในหมู่บ้าน แต่เมื่อชำรุดไม่มีใครนำไปซ่อมจึงถูกจอดทิ้งไว้

นายอิบรอฮีม ชี้แจงอีกว่า ส่วนโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์ชารจ์ เป็นของนักเรียนที่ทางโรงเรียนยึดไว้ เพราะโรงเรียนออกกฎห้ามไม่ให้นักเรียนนำโทรศัพท์มาใช้ในโรงเรียน ซึ่งที่ผ่านมามีการยึดหลายรอบแล้ว แต่นักเรียนก็ยังนำมาอีก ส่วนปุ๋ยยูเรียเป็นของบุคคลกรโรงเรียนที่อาศัยอยู่ภายในโรงเรียน ใช้ใส่ปุ๋ยต้นยางพาราและปลูกแตงโ

นายอิบรอฮีม กล่าวด้วยว่า ส่วนกรณีบุคคลที่ผู้เกี่ยวข้องกับเหตุไม่สงบ ส่วนใหญ่เป็นศิษย์เก่าของโรงเรียนวัฒนธรรมอิสลามพ่อมิ่งนั้น ทางโรงเรียนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ เพราะไม่อยู่ในความรับผิดชอบของโรงเรียนแล้ว โรงเรียนนำหลักสูตรการเรียนการสอนของรัฐมาใช้ ส่วนนักเรียนทั้งหมดให้เป็นนักเรียนประจำ พักอยู่ในหอพัก มีกิจกรรมการเรียนการสอนตั้งแต่เช้ามืด จนถึงเวลาประมาณ 22.00 น. อยู่ในสายตาของโรงเรียนตลอด และไม่มีผู้บริหารโรงเรียนไหนต้องการให้โรงเรียนได้รับผลกระทบเช่นนี้

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net