Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

ช่วงต้นปี 2555 ได้เกิดข่าวครึกโครมขึ้น เมื่อหนังสือพิมพ์ชื่อดังฉบับหนึ่งได้เผยแพร่ข่าวกรณีเด็กถูกตัดลิ้นไก่จนพิการ ก่อนถูกนำไปเป็นเครื่องมือในการขอทานในพื้นที่จังหวัดชลบุรี จนเกิดเป็นกระแสสังคมที่พูดถึงประเด็นดังกล่าวอย่างกว้างขวาง พร้อมกับคำถามที่ว่า “ปัญหาเด็กขอทานในประเทศไทยในปัจจุบันได้ทวีความรุนแรงไปถึงเพียงนี้แล้วจริงหรือ”

ขบวนการนายหน้าที่จับเด็กมาตัดแขน – ขาเด็กหรือทำให้สูญเสียอวัยวะเพื่อนำมาเป็นเครื่องมือในการขอทาน ในประเทศไทยมีอยู่จริงหรือไม่และแท้จริงแล้วเด็กขอทานที่พิการมาจากที่ใด โครงการรณรงค์ยุติธุรกิจเด็กขอทาน มูลนิธิกระจกเงา ขอหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาบอกเล่ากับสังคมได้รู้ถึงเบื้องหลังของปัญหานี้กัน

“การตัดแขน – ขา ในทางการแพทย์จะใช้คำว่า “การตัดรยางค์”  ซึ่งการตัดรยางค์นี้ ต้องเกิดจากการที่แพทย์ทำการตรวจ รักษา ประเมินผู้ป่วย และเห็นว่ารยางค์หรือแขน - ขาของผู้ป่วยดังกล่าวในทางการแพทย์ไม่อาจที่จะเก็บรักษาไว้ได้ต่อไป ทั้งนี้ เนื่องจากการเก็บอวัยวะดังกล่าวไว้เป็นส่วนของร่างกายของผู้ป่วยต่อไปจะทำให้ผู้ป่วยได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ เช่น การที่มีเลือดออกจำนวนมาก การเน่าและติดเชื้อกระจายทั่วร่างกาย จึงจำเป็นที่จะต้องตัดรยางค์คือแขนขาของผู้ป่วยออก ซึ่งก่อนที่จะทำการตัดรยางค์จะต้องได้รับการยินยอมจากผู้ป่วยเสมอ เนื่องจากอวัยวะดังกล่าวถือเป็นอวัยวะที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก รวมถึงการดำเนินการดังกล่าวจะต้องเป็นไปตามระบบกฎเกณฑ์หรือมาตรฐานอีกมากมายในทางการแพทย์”  จากข้อเท็จจริงดังกล่าวนี้ จะเห็นได้ว่าการตัดแขน – ขา ในแต่ละครั้งมีความยุ่งยากและสลับซับซ้อนพอสมควรเลยทีเดียว ทั้งยังต้องอาศัยทักษะ ความสามารถ รวมถึงความชำนาญเฉพาะทาง ที่มิใช่ใครๆ ก็สามารถทำได้

เมื่อการตัดแขน – ขา มิใช่เรื่องที่กระทำได้โดยง่าย แล้วทำไมจึงมักปรากฏข่าวขบวนการตัดแขนขาเด็ก เพื่อนำมาเป็นเครื่องมือในการขอทาน ตามสื่อแขนงต่างๆ ได้อยู่เป็นประจำ 

จากการติดตามสถานการณ์ปัญหาเด็กขอทานของโครงการรณรงค์ยุติธุรกิจเด็กขอทาน มูลนิธิกระจกเงา เกี่ยวกับข่าวการตัดแขน – ขาเด็กเพื่อนำมาเป็นเครื่องมือในการขอทานอย่างต่อเนื่อง พบว่าหลายต่อหลายครั้งการให้ข้อมูลเกี่ยวกับขบวนการจับเด็กมาตัดแขน – ขา มักเป็นข้อมูลที่ “เลื่อนลอย”  และ “ปราศจากข้อเท็จจริง” เนื่องจากข้อมูลเหล่านั้นมักเป็นข้อมูลที่มิได้กลั่นกรองหรือมีการตรวจร่างกายเด็กอย่างละเอียดแล้ว ก่อนที่จะให้ข้อมูลกับสื่อมวลชน ยกตัวอย่างเช่น กรณีการตัดลิ้นไก่เด็กที่เป็นข่าวครึกโครมนั้น หากวิเคราะห์จากข่าวที่นำเสนอ จะพบว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นเพียงการสอบถามเบื้องต้นจากเด็กที่คาดว่าจะถูกทำร้ายจนสูญเสียอวัยวะเท่านั้น  มิใช่จากการตรวจร่างกายเด็กที่ตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์อย่างละเอียดจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยตรง ซึ่งภายหลังเมื่อมีการตรวจร่างกายเด็กแล้ว ก็พบว่าเด็กคนดังกล่าวมีความพิการมาแต่กำเนิด หาใช่ถูกทำร้ายร่างกายจนพิการไม่ ดังนั้นการให้ข้อมูลดังกล่าวจึงเป็นเพียงการนำเสนอข่าวเพื่อสร้าง “ความหวือหวา” แค่เพียงชั่วคราว และทำให้วาทกรรม “นายหน้าจับเด็กมาตัดแขน – ขา หรือทำให้พิการ”  ก่อนนำมาขอทาน กลายเป็นเรื่องที่ถูกหยิบยกมาเป็นประเด็นทางสังคมอย่างมิรู้จบ

นอกจากการนำเสนอข่าวที่สร้างความหวือหวาแล้ว ยังมีภาพยนตร์หรือละครบางเรื่องที่มีฉากการนำเด็กมาทำร้ายร่างกายจนพิการก่อนพาไปขอทาน ซึ่งกรณีดังกล่าวอาจเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ผู้ที่ได้รับชม เกิดการติดตั้งฐานความคิดที่ว่า “เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริงในประเทศไทย และคงมีเด็กจำนวนมากที่ตกเป็นเหยื่อของขบวนการนำเด็กมาตัดแขน – ขา อย่างแน่นอน”  

จากการนำข้อมูลต่างๆ มาวิเคราะห์ ประกอบกับข้อมูลจากการดำเนินการของโครงการรณรงค์ยุติธุรกิจเด็กขอทาน มูลนิธิกระจกเงา ตั้งแต่ปี 2547 จนถึงปัจจุบัน ทางโครงการฯ ยังมิเคยพบกรณีการทำร้ายเด็กจนสูญเสียอวัยวะ เพื่อนำมาเป็นเครื่องมือในการขอทานแม้แต่กรณีเดียว จึงอาจเป็นข้อยืนยันได้ว่า ปัญหาการนำเด็กมาตัดแขน – ขา ให้พิการก่อนนำเด็กมาขอทานยังไม่เกิดขึ้นจริงในประเทศไทย แต่อย่างไรก็ตามเชื่อว่าคนในสังคมอาจมีข้อสงสัยว่า “เช่นนั้นแล้วทำไมจึงสามารถพบเห็นเด็กขอทานที่มีความพิการได้เป็นจำนวนมากตามท้องถนน”

เด็กขอทานที่พบตามข้างถนนในประเทศไทยนั้น ร้อยละ 80 มักจะเป็นเด็กที่มาจากประเทศกัมพูชา  ซึ่งในประเทศกัมพูชานั้น มีกับระเบิดบางส่วนที่ทางการยังเก็บกู้ไม่หมด จึงทำให้เด็กบางคนสูญเสียอวัยวะเพราะไปเหยียบกับระเบิดเหล่านั้น นอกจากนี้ยังมีเด็กที่มีความพิการมาตั้งแต่กำเนิดหรือประสบอุบัติเหตุอื่นๆ จนสูญเสียอวัยวะอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งนายหน้าก็มักเลือกเด็กที่พิการเหล่านี้ เพื่อเข้ามาเป็น “เครื่องมือในการขอทาน” เพราะสามารถเรียกร้องความน่าสงสารให้กับผู้คนที่เดินผ่านไป – มา ได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งนั่นหมายถึง รายได้ที่จะเทเข้าสู่กระเป๋าของนายหน้าค้ามนุษย์ก็จะเพิ่มมากยิ่งขึ้นไปด้วยเช่นกัน          

อย่างไรก็ตามแม้ว่าขบวนการตัดแขน – ขาเด็กจะไม่ปรากฏข้อเท็จจริงในประเทศไทย แต่ในเรื่องการทำร้ายร่างกายเด็กขอทานอย่างรุนแรง เพื่อบังคับให้เด็กทำการขอทานนั้น ถือเป็นกรณีที่สามารถพบได้อยู่จริง ไม่ว่าจะเป็นการใช้บุหรี่จี้ , ใช้ไม้หรือสายไฟ , ตบ , ตี , ชกต่อย ฯลฯ ตามร่างกายของเด็ก เป็นต้น โดยมีเหตุผลอยู่หลายประการ อาทิ เด็กไม่สามารถขอทานได้ตามที่นายหน้าตั้งเป้าไว้ หรือ เด็กมีความดื้อ , ซน , ส่งเสียงดังจึงถูกทำร้ายร่างกายจนบอบช้ำ ฯลฯ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ได้จากการสอบถามเด็กที่สามารถช่วยเหลือเด็กออกจากขบวนการค้ามนุษย์มาได้แล้วและเด็กที่ตกเป็นเหยื่อมักบอกเล่าถึงเหตุการณ์ที่ทำให้ตนเองได้รับบาดแผลหรือรอยฟกช้ำนั้นๆ มา

แม้ว่าประเทศไทยอาจไม่มีขบวนการนำเด็กมาตัดแขน – ขา อยู่จริง แต่ตราบใดที่เด็กขอทานยังสามารถสร้างรายได้ระดับมหาศาลให้กับกลุ่มขบวนการนายหน้าค้ามนุษย์ ไม่แน่ว่าการนำเด็กมาตัดแขน – ขา ที่เราพบเห็นในฉากหนึ่งในละครหรือภาพยนตร์ อาจกลายเป็นเรื่องที่น่าหดหู่ในโลกแห่งความจริงก็เป็นได้...

 

 

 

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net