Skip to main content
sharethis

สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล เสวนาปฏิญญาหน้าศาล เสนอ รบ.ช่วยคนคุกเร่งด่วนอันดับ 1 ยินดีกราบเปรม เลิกพูดปรองดอง หันมามองประชาธิปไตยและความเป็นธรรม ปัจจุบันมันเป็นการเมืองระดับมวลชน เพื่อไทย-นปช.ต้องคิดใหม่ทำใหม่



 

13.20 น. วานนี้(10 มิ.ย.) บริเวณหน้าศาลอาญารัชดา กลุ่มปฏิญญาหน้าศาล จัดกิจกรรมเสวนา "นักโทษการเมือง ศาล และทุกเรื่องที่กล้าถาม กับ สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล" และรำลึกครบรอบ 1 เดือนการเสียชีวิตในเรือนจำของ “อากง SMS” หรือนายอำพล (ขอสงวนนามสกุล) ผู้ต้องขังคดี 112 ได้เสียชีวิตลงแล้วในเช้าของวันที่ 8 พ.ค.53 ที่สถานพยาบาลภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพ โดยกิจกรรมดังกล่าวมีผู้เข้าร่วมเสวนาประมาณ 400 คน โดยหลังจากจบเสวนาได้มีกิจกรรมแสดงดนตรีและการปราศรัย รวมทั้งจุดเทียนรำลึกการครบรอบ 1 เดือนการเสียชีวิตของอากง SMS ในช่วงค่ำบริเวณดังกล่าว

000

“..ปรองดองทิ้งไปเลยลงขยะไปเลย วันนี้เลิกพูดครับ เรามาพูดความจริงว่าประเทศไทยมันมีปัญหาความขัดแย้งก็ยอมรับล่ะปรองดองไปไม่มีประโยชน์ มาพูดทำยังไรจะปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยและจะให้แฟร์สำหรับทุกฝ่าย..”



สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล นักวิชาการทางด้านประวัติศาสตร์ ปัจจุบันเป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์


ที่เตรียมมามี 3 ประเด็นใหญ่ๆ เรื่องเฉพาะหน้าเรื่องนักโทษการเมือง ไปถึงเรื่องที่ 2 จะพูดเรื่องสถานการณ์ปัจจุบัน เรื่องที่มันเกิดขึ้นร้อนๆ เรื่อง พรบ.ปรองดอง ที่มันยังไม่จบสิ้นสักที เรื่องแก้รัฐธรรมนูญ กับเรื่องศาลรัฐธรรมนูญ และสุดท้ายจะพูดถึงภาพกว้างไปอีกนิดว่า ตอนนี้เราจะมองอย่างไรดีการต่อสู้ของเรา จะยังไงต่อไป  


นักโทษการเมืองมันทำให้ความเป็นมนุษย์ของคุณมันเหมือนผักปลาเข้าไปทุกวันๆ

นักโทษการเมือง อันหนึ่งที่ผมเสียใจมากเลย พรบ.ปรองดองที่ล้มเหลว มันทำให้คนที่อยู่ในคุกไม่ได้ออก ตอนนี้สถานการณ์ประเทศไทยมันผิดปกติมาก การออกนิรโทษกรรมหรือการปล่อยนักโทษการเมืองมันทำมาโดยตลอดในประเทศไทย 2495, 2500 ก็มีการปล่อยออกมา ปี 19 พวกผม 6 ตุลา ติดคุกไป 2 ปีนี่ก็มี พรบ.นิรโทษกรรมออกมา ปกติเวลาเขาออก พรบ.นิรโทษกรรรม เขาจะเข็น 3 วาระรวดภายในวันเดียวเลย ถ้าเกิดคิดจะปล่อยจริงๆนี่ มันไม่มีความจำเป็นที่จะต้องยืดเยื้อ คิดจะปล่อยก็คือผลักออกมาเลย 

ทีนี้ครั้งนี้ที่มันหนักหนาสาหัส แล้วที่ผมเสียใจคิดว่า คนที่อยู่ในคุกป่านนี้เขาคงรู้ว่า พรบ.ปรองดอง มันล้มเหลว  แล้วอยากให้เรารองจินตนาการว่าเราอยู่ในคุกนี่ พรบ.ปรองดองมันเข้าสภาแล้ว 4 ฉบับ อย่างน้อยมันน่าจะคลอดมาสัก ฉบับนี่ เราอาจจะได้ออกจากคุกวันนี้ พรุ่งนี้ พอมันล้มไปแล้วมันตั้งความหวังไว้มันวูบ ซึ่งอันนี้เป็นอะไรบางอย่างที่คิดวั่นโหดร้ายในแง่อารมณ์ความรู้สึกของคนที่อยู่ในคุก

พูดจากประสบการณ์คนที่อยู่ในคุก 2 ปีนี่ คุกนี่เอาเข้าจริงๆพอถึงจุดหนึ่งนี่คุณปรับตัวได้ ความลำบาก มันลำบากแน่ มันไม่สบายเรื่องอาหารการกิน เรื่องชีวิตความเป็นอยู่ แต่พอถึงจุดหนึ่ง มันปรับตัวได้ แต่พอระยะมันผ่านไปเป็นปี เป็น 2 ปีนี่ สิ่งที่มันจะลำบากมากที่สุดสำหรับคนติดคุก คนติดคุกที่ติดเข้าไปในเรื่องการเมืองนี่อย่างเพื่อนๆของเรา คือติดเข้าไปเรื่องความคิด มีความคิดทางการเมืองอยากต่อสู้ทางการเมือง ความลำบากที่สุดของคนเหล่านี้คือคุณจะถูกเอาเข้าไปเหมือนคนเป็นผัก อยากรู้ว่าลำบากยังไงคุณลองขังตัวเองไว้ในบ้าน บังคับตัวเองว่าจะไม่ออกจากตัวบ้านเลย ลองทำอย่างนี้สักวันหนึ่งเต็มๆหรือ 2 วันเต็มๆแล้วคุณจะรู้สึกเลยว่ามันอึดอัดมาก นานๆเข้าสิ่งที่มันแย่สำหรับคนคุก โดยเฉพาะที่เป็นนักโทษการเมืองมันทำให้ความเป็นมนุษย์ของคุณมันเหมือนผักปลาเข้าไปทุกวันๆ จากที่คุณอยู่ข้างนอก คุณคิดคุณแสดงออกทางการเมืองตลอดเวลา แล้วไม่ได้ทำอะไรผิดในแง่นี้ ประเทศทั่วโลกก็ยอมรับความคิดทางการเมืองก็แสดงออกมา คุณกลับถูกจับให้ไปอยู่ห้องแคบๆแบบนี้ วันแล้ววันเล่าวันแล้ววันเล่า ไปนานๆเข้า ความเสื่อมถอยทางด้านจิตใจกำลังใจ 

ผมอยากให้คนทุกฝ่าย แม้ฝ่ายประชาธิปัตย์เองก็ตาม และโดยเฉพาะฝ่ายเสื้อแดงฝ่าย นปช. ฝ่ายพรรคเพื่อไทยเองก็ตาม ซึ่งมีหลายคนเคยติดคุก แกนนำเคยติดคุกเมื่อ 2 ปีก่อนประมาณ 7-8 เดือนนี่ ผมอยากให้ลองคิดถึงความรู้สึกแบบนี้ขึ้นมาเยอะๆ ลองนึกดูเราถูกขังขนาดนั้น 2 ปี ผมว่ามันไม่ยุติธรรมมาก มันทำร้ายจิตใจทำร้ายจิตวิญญาณของคนมาก 

คนที่ติดคุกอยู่ทุกคดีมันเป็นคนระดับคนเล็กคนน้อย เอากรณีทำอย่างไรกับรัฐบาลที่แล้วที่มีการฆ่าคนตาย กับเรื่องยกเลิกคำสั่ง คมช. คตส. นี่ ไปผูกด้วยกันไม่ได้ เพราะมันไม่แฟร์

ผมเสนอมาหลายเดือนแล้วว่า พรรคเพื่อไทยกับ นปช.จะต้องแยกเรื่องนี้ออกมาจากเรื่องอื่นๆ ตอนนี้มีประเด็นใหญ่อยู่ 3 ประเด็นในเรื่อง พรบ.ปรองดอง 

ประเด็นแรก คือนักโทษการเมือง ตอนนี้มีสี่ถึงห้าสิบคน รวมทั้งคดี 112 ด้วย

ประเด็นที่ 2 มันมีปัญหาเรื่องรัฐบาลชุดที่แล้ว เป็นรัฐบาลที่มีการฆ่ากันตาย ประชาชนโดนฆ่าเป็นร้อยและบาดเจ็บเป็นพันนี่ อันนี้จะจัดการอย่างไร พูดในภาษาเสื้อแดง จะจัดการอย่างไรกับฆาตกร

ประเด็นที่ 3 คือประเด็นที่ใหญ่ออกไปอีก คือประเด็นที่ว่า สิ่งที่เป็นคำสั่งต่างๆของรัฐประหาร คตส. โดยเฉพาะคดีคุณทักษิณ ที่ดินรัชดาทั้งหลายจะทำอย่างไร มันมี 3 ประเด็นใหญ่ๆ 

ที่นี้สิ่งที่พรรคเพื่อไทยทำ ผมวิจารณ์มาโดยตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา คือเอา 3 ประเด็นนี้บวกเข้าไปด้วยกัน ทีนี้เอา 3 ประเด็นมาบวกเข้าด้วยกัน ซึ่งประเด็นที่ 1 ผมเห็นว่ามันไม่แฟร์กับคนติดคุก คือตอนนี้คนติดคุกมันเป็นคนธรรมดาทั้งนั้น เราก็รู้แกนนำทั้งหลายแหล่ไม่มีใครติดคุก แม้กระทั้งคดี 112 แกนนำที่โดนก็ไม่ติดคุก แม้กระทั้งคนที่ใกล้ชิดแกนนำ คนที่ได้ประกันผมไม่ได้ได้บอกว่าควรจะกลับมาติดคุกนะ ประเด็นคือว่าตอนนี้คนที่ติดคุกอยู่ทุกคดีมันเป็นคนระดับคนเล็กคนน้อย ถ้าคุณเอากรณีแบบนี้ไปรวมกับ 2 เรื่องหลังเรื่องทำอย่างไรกับรัฐบาลที่แล้วที่มีการฆ่าคนตาย กับเรื่องยกเลิกคำสั่ง คมช. คตส. นี่ ซึ่งทำให้คุณทักษิณโดนคดีรัชดาและคดีอื่นๆ 3 เรื่องนี้คุณไปผูกด้วยกันไม่ได้ เพราะมันไม่แฟร์สำหรับเรื่องนักโทษการเมืองซึ่งเป็นคนธรรมดา พอคุณไปผูกกับเขา นั่นหมายความว่าถ้ามันช่วยได้ก็ช่วยได้ ถ้าช่วยไม่ได้ก็พังพร้อมกัน

คุณทักษิณ น่าจะบอกให้พรรคเพื่อไทย บอกให้รัฐบาลช่วยคนในคุกออกมาก่อน เป็นเรื่องเร่งด่วนอันดับ 1

คุณทักษิณเอ่ยชื่อผมที่ธันเดอร์โดม ก็ดีครับที่อ่านงานผม ผมก็เสียดายความจริงแกน่าจะทำก่อนหน้านี้ น่าจะบอกให้พรรคเพื่อไทย บอกให้รัฐบาลช่วยคนในคุกออกมาก่อน เป็นเรื่องเร่งด่วนอันดับ 1 เลย ส่วนเรื่องช่วยคุณทักษิณได้ไม่ได้กับเรื่องอภิสิทธิ์เรื่องอะไรมันเป็นเรื่องระยะยาว คือมันไม่ใช่เรื่องที่คุณทำได้ง่ายๆภายในเวลาสั้นๆ ผมคิดว่าต้องมีทางเลือกทางอื่นก็คือว่า ก่อนอื่นคือต้องตัด 3 เรื่องนี้ออกจากกัน เพื่อไทย นปช. ต้องตัด 3 เรื่องนี้ออกจากกัน

รัฐบาลประชาธิปไตยนี่อันแรกสุดคุณต้องไม่มีนักโทษการเมือง

ผมขอเลย เรียกว่ายินดีไปกราบนายกยิ่งลักษณ์ คุณณัฐวุฒิ หรือใคร ตั้งเรื่องนี้เป็นความจำเป็นเร่งด่วน เอาคนคุกออกมา มันไม่มีประเทศไหนเราบอกว่ามีขบวนการประชาธิปไตย นปช.หรือขบวนการประชาธิปไตย และรัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลที่บอกว่าเป็นรัฐบาลประชาธิปไตยนี่ มันไม่มีประเทศไหนในโลกที่มีนักโทษการเมืองสี่ห้าสิบคน แล้วรัฐบาลหรือขบวนการประชาธิปไตยที่ว่ายังเอ้อระเหยลอยชายอยู่ ถ้าคุณเป็นขบวนการประชาธิปไตย รัฐบาลประชาธิปไตยนี่อันแรกสุดคุณต้องไม่มีนักโทษการเมือง ต่อให้มีนักโทษการเมืองเสื้อเหลืองตอนนี้ สมตินะ ความจริงก็รู้ประเทศไทยไม่มีนักโทษการเมืองเสื้อเหลือง ต่อให้มีแล้วถ้าคุณเป็นรัฐบาลประชาธิปไตยก็ต้องปล่อยพวกนี้เหมือนกัน 

คดีทางการเมืองมันเกิดมาจากความขัดแย้งทางความคิด คุณก็เถียงกันทางความคิดไป อย่างน้อยที่สุดต้องมีประกันตัว นี่มันพื้นที่สุด แต่เรื่องประกันผมว่ามันเกินเลยเรื่องนั้นไปแล้ว ยืนไป 10 ครั้งก็ไม่ได้แล้ว ข้อเสนอผมต่อรัฐบาล ต่อ นปช. ต่อผู้รักประชาธิปไตยทุกคนว่า ต่อไปนี้เอาเรื่องนักโทษการเมืองเป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วน ยินดีไปกราบรัฐมนตรีทุกคน กราบแกนนำทุกคน เอาเรื่องนี้ให้เป็นเรื่องสำคัญ ทำอย่างไรให้ออกมาให้ได้

วิธีที่ง่ายที่สุดคือออกเป็น พรบ.

วิธีที่ง่ายที่สุดคือออกเป็น พรบ. มีกลุ่มคุณเบญจมินเสนอให้รัฐบาลออกเป็น พรก. เข้าใจว่าตามรัฐธรรมนูญอาจจะลำบากออกเป็น พรก. ตามกฎหมาย พรก.เป็นกฎหมายที่ออกโดยเหตุฉุกเฉิน คือถ้าถามผมมันก็ฉุกเฉิน คนมันติดคุก 2 ปีกว่า แต่ในทางปฏิบัติถึงเวลาเขาเอาเรื่องนี้ไปท้าทายศาลรัฐธรรมนูญอะไรอีกอาจจะลำบาก เพราะฉะนั้นข้อเสนอคุณเบญจมินที่ออกเป็น พรก.เลยก็ดี แต่ว่าผมคิดในทางปฏิบัติไม่ได้ ผมคิดว่าออกเป็นพระราชบัญญัติ คนที่ออกได้คือ ส.ส. แล้ววิธีง่ายๆ ส.ส.เซนต์ชื่อ 20 คนก็เสนอพระราชบัญญัติเข้าไปได้แล้ว มันง่ายมาก 

การร่างกฎหมายออกเป็นนิรโทษกรรม ถ้าเอานักโทษการเมือง ตัดคดี คตส. ตัดคดี เรื่องรัฐบาลที่แล้วออกไป ผมว่ามันไม่ยากเท่าไหร่ แต่ว่าทุกวันนี้สถานการณ์มันไม่ใช่เรื่องกฎหมายล้วนๆ มันเป็นเรื่องการเมือง อยู่ที่ฝ่ายนั้นเขาจะตัดแข้งตัดขาคุณหรือปล่าว เขาจะหาเรื่องหรือปล่าว อย่างศาลรัฐธรรมนูญมันเหลือเชื่อมาก เหตุผลทางกฎหมายไม่มีเลย 

ประเด็นเรื่องพรบ.นิรโทษกรรมนักโทษการเมืองซึ่งเป็นคนทั่วไปนี่ ผมยังมีความหวังว่ามันมีความเป็นไปได้อยู่ที่อย่างน้อยไปต่อรองหรือไปกดดันให้พวกพรรคฝ่ายค้านเขาไม่ขัดขวางเรื่องนี้ อภิสิทธิ์เคยท้าในสภาว่า เอาไหม 2 ต่อ 1 เอาเขากับสุเทพไว้แล้วเอาทักษิณไว้คนหนึ่ง เราไม่ต้องถึงขนาดนั้น แต่อย่างน้อยท้าคุณอภิสิทธิ์ว่าในเมื่อคุณเคยพูดอย่างนี้ คุณก็ไม่น่าไปแคร์อะไรกับการที่คนเล็กคนน้อย ชาวบ้านธรรมดาที่โดนคดีทั้งหลาย รวมทั้งกรณี 112 ที่ติดคุกมาแล้ว 2 ปีกว่านี่ ยอมให้ผ่าน พรบ.นิรโทษกรรม  ทีนี้ประเด็นนี้ต้องเริ่มต้นที่ฝ่ายเพื่อไทยและ นปช.เอง ตรงนี้สำคัญ ผมผิดหวังที่เพื่อไทย นปช. ไม่เอาเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่อีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าคณะนิติราษฎร์จะเสนอวิธีการช่วยนักโทษการเมือง เขาจะเสนอให้เป็นการแก้กฎหมายรัฐธรรมนูญเลย จริงๆหลักการมันก็ดีนะ ผมคิดว่ามันยากเกินไป ผมคิดว่าเรื่องแก้รัฐธรรมนูญมันเป็นอะไรบางอย่างซึ่งเข็นครกขึ้นภูเขาแล้วตอนนี้ เอาแค่ พรบ.นิรโทษกรรมธรรมดา เขียนมันตรงๆเลย พรบ.นิรโทษกรรมผู้ต้องหาทางการเมือง แล้วก็รวมเอาไว้ด้วยกรณี 112

ถ้าคุณยินดีที่จะยกโทษให้โทษประหารชีวิต(จากการรัฐประหาร)คุณต้องยกโทษให้ 112 ด้วย

รัฐบาลปอดแหกเกินกว่าเหตุ อย่างกรณีอากง เราเห็นได้ชัด โดยตัดสิน 20 ปี คนทั้งโลกนี่ช๊อคมาก รัฐบาลนี้ไม่กล้าพูด แม้กระทั้ง นปช.ก็ไม่กล้าพูด รอกระทั้งอากงตายก็พูดแบบกระมิดกระเมี้ยน แล้วผลเป็นอย่างไร อย่างกรณีอากง เห็นได้ชัดว่า พ่อแม่พี่น้องระดับมวลชนธรรมดาโกรธมาก เรียกว่ามีปฏิกิริยาต่อเรื่องอากงอย่างรุนแรง จนกระทั้งแกนนำกระมิดกระเมี้ยนมาโผล่หน้าที่งานศพ ถ้าการที่คุณเอาตัวเองไปเกี่ยวข้องกับ 112 แล้วมันจะมีปัญหา แค่คุณมาโชว์ตัวในงานศพมันก็มีปัญหาทั้งนั้น มันต้องเลิกปอดแหก

ถึงเวลา เกินเวลาแล้วที่ ส.ส.เพื่อไทย นปช. จะบอกว่า 1 นิรโทษกรรมนักโทษการเมืองทันที แล้วนั้นโทษการเมืองนี่ต้องรวม 112 เข้าไปด้วย อย่าลืมว่าแม้กระทั้งร่างของคุณณัฐวุฒิ ไม่รวม 112 นะครับ ที่เสนอเข้าไปป้องกันไม่ให้อภิสิทธิ์หลดคดีนี่ในที่สุดแล้วถ้าคุณจะยอมยกโทษให้การทำรัฐประหาร รัฐประหารมันโทษประหารชีวิต 112 อย่างมากสุดคือมันแย้โทษ 20 ปี แต่มันโทษ 10-20 ปีมันเทียบอะไรกับโทษประหารชีวิต ถ้าทุกฝ่ายในสังคมไทยยินดียกโทษให้กับโทษประหารชีวิต มันไม่มีเหตุผลทางกฎหมายเลยที่จะไม่ยกโทษ 112 เพราะฉะนั้นมันมีเหตุผลทางกฎหมายล้วนๆเลย ถ้าคุณยินดีที่จะยกโทษให้โทษประหารชีวิตคุณต้องยกโทษให้ 112 ด้วย

อย่างแย้ที่สุดขอให้การเปิดสมัยประชุมสภาครั้งต่อไปประมาณต้นเดือนสิงหามี พรบ.นี้เป็นเรื่องเร่งด่วน เราควรต้องช่วยกันเรียกร้องรัฐบาล รวมถึงฝ่ายค้านด้วย คือพูดกันอย่างง่ายๆเลย อย่าเอาคนแบบนี้ไว้ มันไม่มีประโยชน์ เอาไว้ทำไม ผมเองยังไม่รู้จักชื่อเลย คุณอภิสิทธิ์รู้จักชื่อไหม ไม่รู้จัก ถามนายกยิ่งลักษณ์ แม้กระทั้งแกนนำผมก็ว่าก็จำชื่อไม่ได้ เป็นคนระดับรากหญ้า เป็นคนระดับทำมาหากินทั้งนั้น บางคนก็มาจากต่างจังหวัด

ยินดีไปกราบทุกคนเลย ถ้าการกราบผมให้พวกท่านใจถึงหรือเห็นแก่มนุษยธรรมผลัก พรบ.นี้ไป ให้ไปกราบคุณเปรมยังยินดี

ยินดีไปกราบทุกคนเลย ถ้าการกราบผมให้พวกท่านใจถึงหรือเห็นแก่มนุษยธรรมผลัก พรบ.นี้ไป ผมไปกราบเป็นรายคนเลย คุณอภิสิทธิ์ ใครต่อใครผมกราบหมด ให้ไปกราบคุณเปรมยังยินดีกราบเลยนี่พูดจริงๆ มันเป็นอะไรบางอย่างที่ไม่แฟร์และไม่มีเหตุผลด้วย คือคุณทะเลาะกันอย่างในสงครามถ้าต้องการเล่นงานกันเขาก็เล่นงานพวกนายพล มีใครบ้างไปเล่นระดับพลเดินเท้าแบบนี้บ้าง แม้พวกที่ติด 112 ตอนนี้ก็ระดับตัวเล็ก ไม่มีที่ไหนในโลก ถ้าเป็นประเทศป่าเถื่อนผมไม่นับ แต่ไม่มีประเทศอารยะที่ไหนในโลกปล่อยให้สถานการณ์แบบนี้ดำรงอยู่มาตั้ง 2 ปีกว่า

สถานการณ์ทางการเมืองปัจจุบัน 

ผมเข้าใจว่าคุณทักษิณอยากจะกลับบ้าน แต่ว่าพอคุณทักษิณตั้งเป้าจะกลับปีนี้ให้ได้ ปัญหาคือว่าพอตั้งเป้าว่าจะกลับปีนี้ให้ได้ มันเลยกลายเป็นว่าเรื่องอื่นๆคลายๆปล่อยไปได้ ยุทธศาสตร์ของคุณทักษิณหรือคนที่พยายามเอาคุณทักษิณกลับบ้านเขาจะมองอย่างนี้ มันเกิดอะไรผิดพลาดขึ้น การพูดของคุณทักษิณที่ธันเดอร์โดม บอกว่าเป็นเพราะแกโดนหลอก แกบอกว่าอ่านบทความผมแล้วแกเห็นด้วย ความจริงผมว่าบทความผมที่คุณทักษิณอ่านนี่ ไม่ใช่บทความที่ผมเสนอให้เลิกม.8 หรือเสนอให้เลิก 112 หรืออะไร ผมคิดว่าไม่ใช่เรื่องพวกนี้แน่ ทักษิณไม่ได้เห็นด้วยกับเรื่องพวกนี้แน่ บางคนบอกว่าคุณทักษิณกลายเป็นแดงก้าวหน้าแล้ว ไม่ถึงขนาดนั้นนะครับ  

แต่บทความที่ผมเขียนที่คิดว่าคุณทักษิณได้อ่านนั้น ข้อเสนอผมคืออย่างนี้ แล้วเป็นเรื่องของความเข้าใจการเมืองปัจจุบันด้วย สิ่งที่คุณทักษิณพยายามจะทำในยุทธศาสตร์ปรองดอง พูดอย่างตรงไปตรงมาคือพยายามที่จะส่งสัญญาแบบทอดไมตรี พูดถึงคุณเปรม ว่าพลเอกเปรมเป็นผู้ใหญ่ที่ดีไม่ยุ่งการเมือง คุณยงยุทธก็ออกมาพูดว่าคุณเปรมไม่ยุ่งการเมือง นี่คือการทอดไมตรี คุณยิงลักษณ์ก็ไปบ้านสี่เสา นี่คือความพยายามที่จะทอดไมตรี พยายามที่จะเอาใจ เรื่องอื่นไม่สนใจ แล้วก็พูดอะไรไม่ค่อยจะดีนัก เรื่อง 112 ก็เช่นกัน ทำไมรัฐบาลหรือ นปช.ไม่กล้าที่จะแตะ 112 อย่างเรื่องอากงนี่ เพราะแม้ถ้าพูดเรื่อง 112 ขึ้นมาเดียวฝ่ายนั้นเกิดไม่พอใจ เรื่องปรอดงดองเรื่องกลับบ้านก็จะไม่ได้

ปัจจุบันมันมี Power Bloc กลุ่มก้อนหรือเครือข่ายที่รวมศูนย์อยู่ที่สถาบันกษัตริย์

ทีนี้ความผิดพลาดในเรื่องวิธีคิดของคุณทักษิณผมไม่คิดว่าเป็นเรื่องของการถูกหลอก มันมีนักวิชาการคนหนึ่งเมื่อหลายปีที่ผ่านมา เขาคิดคำๆหนึ่งขึ้นมา เขาใช้ว่า “Network Monarchy” จะเรียกเป็นเครือข่าวสถาบันกษัตริย์ มีนักทฤษฎีฝรั่งคนหนึ่งเขาเรียก Power Bloc คำว่า Power คืออำนาจ Bloc ก็คือกลุ่มก้อนของคน ปัจจุบันมันมี Power Bloc กลุ่มก้อนหรือเครือข่ายที่รวมศูนย์อยู่ที่สถาบันกษัตริย์ ถ้าพูดกันจริงๆแล้วมันมีทั้งหมด 5 ลำดับชั้น(ดูภาพแผนภูมิด้านล่างประกอบ)

แผนภูมิประกอบการอธิบาย แผยแพร่ใน facebook สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล 

ความผิดพลาดคือว่า การเมืองปัจจุบันเครือข่ายใดเครือข่ายหนึ่งมันไม่ได้มีชั้นเดียว .. Power Bloc แบบนี้ มันไม่จำเป็นว่าข้างบนเขาต้องสั่ง ข้างล่างสามารถทำได้ คือทำเอาใจ 

เขามีถึง 5 ระดับแบบนี้ ผมคิดว่าเป็นความผิดพลาดคุณทักษิณคืออะไร คุณทักษิณเป็นคนที่โตมาในแวดวงการเมืองแบบเดิม เป็นการเมืองแบบชนชั้นนำ ชนชั้นสูง ก็นึกว่าถ้าคุณเพียงแต่เอาใจระดับบนๆเข้าไว้เรื่องมันก็โอเคจบ ก็ผลักเข้าไปเลยมี พรบ.ปรองดอง ความผิดพลาดคือว่า การเมืองปัจจุบันเครือข่ายใดเครือข่ายหนึ่งมันไม่ได้มีชั้นเดียว อย่างที่เราเสนอที่ผมเรียก Power Bloc หรือเป็น Network ที่ล้อมรอบอยู่ที่สถาบันกษัตริย์มีถึง 5 ชั้น แล้ว 5 ชั้นอันหนึ่งที่หลายฝ่ายบางทีไม่เข้าใจ พ่อแม่พี่น้องก็ไม่รู้ว่าใครสั่งๆแบบนี้ประจำ ลักษณะของ Power Bloc แบบนี้ มันไม่จำเป็นว่าข้างบนเขาต้องสั่ง ข้างล่างสามารถทำได้ คือทำเอาใจ 

ที่คุณทักษิณว่าโดนหลอกๆมันไม่เชิงการโดนหลอก เป็นเรื่องของว่าคุณทักษิณอ่านการเมืองทั้งหมดแคบเกินไป ในทางปฏิบัติการเมือปัจจุบันมันเป็น มันมีเป็น Bloc ทั้ง Bloc ที่เป็น Bloc ขัดขวางประชาธิปไตย หรือ Bloc ที่รวมศูนย์อยู่ที่สถาบันกษัตริย์นี่มันมีถึง 5 ชั้นแบบนี้ พอผลักเข้าไป พันธมิตรจัดชุมนุมทันที ประชาธิปัตย์ตัดสินใจระดมคนมาช่วยพันธมิตร ปัญหาที่ว่าทำไมประชาธิปัตย์หรือพันธมิตรทำแบบนี้ แม้กระทั้งทำไมศาลรัฐธรรมนูญจึงมีการตัดสินเรื่องของรัฐธรรมนูญ ถามว่าเป็นเพราะคุณทักษิณโดนหักหลังโดนหลอกหรือปล่าว ข้อเสนอของผมคือจริงๆแล้วความสัมพันธ์ในกลุ่มของเขาเองมันไม่ใช่ความสัมพันธ์ที่ต้องสั่งเสมอไป มันเป็นอิสระระดับหนึ่ง 

ถ้าคุณไปอ่านวิกิลีคส์ ประเด็นที่ 1 คือในหมู่ชนชั้นสูงก็ไม่ได้เป็นเอกภาพ 100% อันนี้เป็นเรื่องสำคัญเหมือนกัน ไม่ได้แปลว่าเขาขัดแย้งชนิดที่แปลว่าทะเลาะกัน อาจจะทะเลาะกันบ้างบางส่วน แต่ว่าในทางการเมืองไม่ได้แปลว่าขัดแย้งขนาดนั้น แต่มันมีปัญหาเรื่องเขาไม่ได้เป็นเอกภาพล้วนๆ กับ 2 พันธมิตรมีลักษณะที่เรียกว่าทำของมันเองก็มี เพราะฉะนั้นถ้าอธิบายว่าทำไมครั้งนี้ พรบ.ปรองดองเสนอเข้าไปแล้วจึงเจอลูกไม้พันธมิตรกับพรรคประชาธิปัตย์ แปลว่าคุณทักษิณโดนหักหลังไหม ผมคิดว่าไม่เชิงเสียทีเดียว มันเพียงแค่ว่าต่อไปนี้การเมืองมันไม่ใช่คุณทักษิณไปเจรจากับคนระดับบนๆแล้วเรื่องมันจบ เรื่องมันไม่จบง่ายๆ ถ้าเรื่องมันจบง่ายๆมันคงยืดเยื้อมา 6-7 ปี

การเมืองปัจจุบันมันเป็นการเมืองระดับมวลชนแล้ว

การเมืองปัจจุบันมันเป็นแบบนี้ เหมือนเราทำเราไปปรึกษาคุณทักษิณไหมไม่ได้ปรึกษา ปรึกษา นปช.ไหม ไม่ได้ปรึกษา เราต้องยอมรับความจริงว่าการเมืองปัจจุบันมันเป็นแบบนี้จริงๆ ภาษาฝรั่งเรียกว่าเป็น Mass Politics เป็นการเมืองระดับมวลชนแล้ว ไม่ว่าจะอยู่ฝ่ายไหนทุกฝ่ายสามารถมีบทบาทได้เอง

พอประชาธิปัตย์และพันธมิตรมาร่วมคัดค้านมันมีปัญหาอันหนึ่งต้องคิดระยะยาว คือพวกนี้เลือกตั้ง ไล่ดู 5 ลำดับชั้นทั้ง 5 ลำดับชั้นเลือกตั้งแพ้ค่ายคุณทักษิณเด็ดขาด เลือก 2 ครั้ง 3 ครั้งก็แพ้หมด แต่ว่าในทางการเมืองนี่ ถ้าหากระดับชั้นล่างๆของพวกเขาเอามวลชนกลุ่มพันธมิตรและกลุ่มอื่นๆ บวกกับมวลชนจัดตั้งของพรรคประชาธิปัตย์ เขาสามารถแบคเมย์ได้ อย่างเหตุการณ์ที่พันธมิตรไปล้อมสภานี่ ถามจริงๆล้อมจริงๆทำอะไรได้ไหม ไม่ได้ใช่ไหม แต่คนพวกนี้เหมือนกับปี 51 เขาไม่แคร์จะเกิดความรุนแรง ไปดันๆตำรวจนี่แล้วตำรวจเผลอหน่อยไปตีขึ้นมาทีหนึ่งคราวนี้เอาเรื่องแล้ว และพอเกิดสถานการณ์ขึ้นมาเดี๋ยวก็เรียกทหารเรียกอะไรเข้ามา

ถ้าคุณไปรื้อถอนโครงสร้างที่เกิดจาก 19 ก.ย.เขาเสียประโยชน์ เพราะฉะนั้นต่อให้เขาไม่มีคำสั่งมาจากข้างไหนต่อไหนเขาก็ลงมือทำของเขาเองได้

ในกรณีรัฐธรรมนูญผมคิดว่าก็อธิบายเหมือนกัน สถานการณ์ปัจจุบัน การเมืองปัจจุบันมันเป็นแบบนี้ ประเด็นใหญ่คือว่าฝ่ายหนึ่งต้องการถอดถอนสิ่งที่เกิดจากการรัฐประหาร 19 ก.ย. คตส. ศาลรัฐธรรมนูญ รัฐธรรมนูญ 50 ฝ่ายพรรคเพื่อไทย ฝ่ายนปช.หรือว่าพวกเรามวลชนทั้งหลายที่อาจจะไม่ได้เป็นพรรคเพื่อไทยต้องการถอดถอนพวกนี้ Dismantle รื้อถอนออกมา ขณะที่อีกฝ่ายที่บอกว่าเป็น Bloc เหมือนกันนี้เขาก็ต้องการรักษาอันนี้ให้ได้มากที่สุด เพราะฉะนั้นประเด็นที่เราเถียงกัน ประเด็นเรื่อง พรบ.ปรองดอง กับเรื่องรัฐธรรมนูญ 50 ก็ดีฝ่ายนั้นก็ทำทุกวิธีการ มันไม่จำเป็นว่าฝ่ายนั้นจะสั่งมาจากข้างบน ต่อให้คุณทำการตกลงกับข้างบนได้ ระดับล่างเขาก็อาจไม่เอาก็ได้ ประชาธิปัตย์ไม่เอา พันธมิตรไม่เอา บางคนบอกว่าประชาธิปัตย์สั่งได้ มันไม่เชิงอย่างนั้นเสียการเมืองมันไม่ใช่อย่างนั้นเสียทีเดียว พวกนี้เขามีผลประโยชน์ของเขาส่วนตัวเหมือนกัน ศาลเองก็เหมือนกัน ถ้าคุณไปรื้อถอนโครงสร้างที่เกิดจาก 19 ก.ย.เขาเสียประโยชน์ เพราะฉะนั้นต่อให้เขาไม่มีคำสั่งมาจากข้างไหนต่อไหนเขาก็ลงมือทำของเขาเองได้ เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น การเมือง 10-20 ปีหลังมันยุ่งยากมากขึ้นเพราะอย่างนี้

กล่าวในแง่สถานการณ์ปัจจุบันเราจะทำอย่างไร ผมเชื่อว่าวันอังคารนี้ เพื่อไทยก็ไม่กล้าชน ผมดูกระแสแล้ว ซึ่งอันนี้ผมเสียดาย ในทางกฎหมายเรื่องกรณีเรื่องรัฐธรรมนูญ ฝ่ายรัฐบาลได้เปรียบล้านเปอร์เซ็นต์ ขณะที่ฝ่ายเขาต้องมาอ้างดิกชันนารีอ้างโน้นอ้างนี่ แสดงว่าไม่มีเหตุผลทางกฎหมายอ้างแล้ว แม้กระทั้งนักกฎหมายที่ไม่ได้เชียร์เสื้อแดงมาก่อน เขาก็รู้ว่าคำตัดสินครั้งนี้มันผิดจนไม่รู้จะผิดอย่างไร ผมเองคิดว่าน่าจะชน แต่ผมประเมินว่าเขาคงไม่ชนแน่

คือตอนนี้มี 2 วาระที่ค้างอยู่ คือวาระรับทราบกับอีกวาระคือวาระ 291 โดยตรง ผมว่าวาระ 291 ซึ่งประชาธิปัตย์ชอบมาพูดทุกวันๆว่าเดี๋ยวเพื่อไทยจะลักไก่ ผมกล้าพนันเลยว่าอย่าว่าแต่ลักไก่เลย ผมว่าเพื่อไทยไม่กล้าเสนอเรื่องนี้แน่ ตอนนี้เหลือแค่ประเด็นแรกประเด็นเดียว ไอ้วาระที่ค้างมาเรื่องรับทราบเขาจะกล้าเสนอให้มีการลงมติไม่เห็นด้วยกับคำสั่งหรือไปล่าว ไม่ได้แปลว่าผลักดันวาระ 3 รัฐธรรมนูญเข้าไป ผลักดันวาระ 3 รัฐธรรมนูญผมว่าคงจบแล้ว เหมือนกับ พรบ.ปรองดอง พูดง่ายๆภายในหนึ่งอาทิตย์ผ่านมาฝ่ายเพื่อไทยแพ้ติดกัน 2 เรื่องใหญ่ๆ

เพื่อไทยหรือ นปช. ต้อง คิดใหม่ ทำใหม่ การแพ้แต่ละครั้งที่ระดับนำทำคนที่เดือดร้อนจริงๆ คนที่ลำบากจริงๆคือคนระดับพวกเรา

เพื่อไทยหรือ นปช. ต้อง Re-Think หรือว่าคิดใหม่ ทำใหม่ ว่าคุณทำแบบนี้มันไม่ได้ มันไม่มีปัญหาเรื่องคุณทักษิณแพ้หรือเพื่อไทยแพ้ แต่เวลาที่พวกคุณแพ้แต่ละทีมันทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนด้วย มันทำให้คนที่อยู่ในคุกมันได้ออกช้าลง มันทำให้คนที่เขาทุมเทลงแรงมาชุมนุมแต่ละครั้งมันเฮิร์ทด้วย ปัญหาการแพ้แต่ละครั้งที่ระดับนำทำคนที่เดือดร้อนจริงๆ คนที่ลำบากจริงๆคือคนระดับพวกเรา เพราะฉะนั้นพวกคุณแพ้บ่อยๆมันเดือดร้อนพวกผมนะ 

เฉพาะหน้าผมว่าโดยสถานการณ์ฝ่ายนี้ที่มีผลระดับมวลชนด้วย 2 เรื่องใหญ่ๆผมว่าฝ่ายนั้นเขาบล็อก เขาแบล็คเมลล์ได้สำเร็จ ซึ่งที่เขาทำได้สำเร็จ ผมพยายามบอกว่า เพราะว่าการเมืองมันซับซ้อนมากกว่านั้น มันไม่ใช่เรื่องที่คุณทักษิณไปเจรจาต๊ะอวย หรือไปทำดีๆ ไม่แตะเลยเรื่อง 112 ไม่ปฏิรูปประเทศไทย วันดีคืนดีนิติราษฎร์เสนอก็มาด่านิติราษฎร์อีก มันไม่เวิร์ค ต่อให้คุณไปประจบแทบตาย พวกนี้ไม่เอา มันไม่มีประโยชน์ ผมคิดว่าต้องคิดใหม่

เป็นไปได้สุดต้องยุให้รัฐบาลรับข้อเสนอของ คอป.เรื่อง แก้ไข ม.112

ผมเสียดายมากๆข้อเสนอของ คอป.(คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ)เรื่อง 112 เสนอไม่มีอะไรเลย ข้อเสนออันหนึ่งให้กลับไปใช้ก่อน 6 ตุลา 112 ปัจจุบันจริงๆแล้วเหตุผลทางกฎหมายมันแย่เพราะมันเกิดจากรัฐประหาร 6 ตุลา รัฐประหารนองเลือกที่ไม่มีใครยอมเห็นด้วยแล้วปัจจุบัน 112 ปัจจุบันมันเกิดจากรัฐประหาร 6 ตุลา ก่อนหน้านั้นความผิดสูงสุดแค่ 7 ปีเองและไม่มีโทษขั้นต่ำ คอป.ก็เสนอให้กลับไปก่อน 6 ตุลา และให้เปลี่ยนเป็นสำนักราชวังเป็นคนพิจารณา ข้อเสนอนี้จริงๆมันต่ำมาก เสนอโดย คอป.ซึ่งตั้งโดยคุณอภิสิทธิ์ เสนอไปถึงรัฐบาล เสนอไปรัฐบาลกลับไม่ยอม ผมไม่เคยคาดหวังข้อเสนอของผมข้อเสนอของนิติราษฎร์เลย ผมว่าเป็นไปได้สุดต้องยุให้รัฐบาลรับข้อเสนอของ คอป.

ปรองดองทิ้งไปเลยลงขยะไปเลย มาพูดทำยังไรจะปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยและจะให้แฟร์สำหรับทุกฝ่าย

ผมเสนอรูปธรรมเฉพาะหน้าคือ ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป เพื่อไทย นปช.ทิ้งคำว่าปรองดองไปเลย เลิกพูดได้เลย มันไม่มีความหมายแล้วเรื่องปรองดอง หันมาพูดว่าจะปฏิรูปประเทศไทยให้มีประชาธิปไตยอย่างไร ให้แฟร์ให้มีความยุติธรรมยังไง ปรองดองทิ้งไปเลยลงขยะไปเลย วันนี้เลิกพูดครับ เรามาพูดความจริงว่าประเทศไทยมันมีปัญหาความขัดแย้งก็ยอมรับล่ะปรองดองไปไม่มีประโยชน์ มาพูดทำยังไรจะปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยและจะให้แฟร์สำหรับทุกฝ่าย แล้วแต่ละประเด็นค่อยๆว่ากันไป ยุทธศาสตร์และประเด็นเฉพาะหน้าจะทำอย่างไรเฉพาะหน้าสุดให้ย้ายนักโทษ 112 จากเรือนจำคลองเปรมมาที่บางเขน เฉพาะหน้าเลยไปอีกหน่อยนักโทษการเมือง ร่างพรบ. นิรโทษกรรมได้เลย อยากย้ำอีกครั้งว่าคนระดับธรรมดาเขาลงทุนลงแรงลงใจไปเยอะ

VDO Clip เสวนา(บางส่วน) :

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net