Skip to main content
sharethis

กรรมการสิทธิฯ ร่วมเครือข่ายประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ แลกเปลี่ยนข้อมูลการต่อสู้เพื่อพิทักษ์สิทธิชุมชน หมอนิรันดร์ แจงกรรมการสิทธิฯ ดูแลไม่ทันสถานการณ์ความความเดือดร้อนในพื้นที่ ต้องอาศัยอาสาสมัครพิทักษ์สิทธิชุมชนทั่วประเทศมาช่วยกันทำงาน

 
 
วันที่ 16 กรกฎาคม 2555 ที่โรงแรมไดอิชิหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา อนุกรรมการด้านสิทธิชุมชนและฐานทรัพยากร ในคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ร่วมกับกลุ่มเครือข่ายประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ จัดเวทีสัมมนาอาสาสมัครพิทักษ์สิทธิชุมชน เป็นวันที่ 2 เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้กระบวนการต่อสู้ในการพิทักษ์สิทธิชุมชนของประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ในภาคใต้ โดยมีเครือข่ายปฏิรูปที่ดินเทือกเขาบรรทัด เครือข่ายพิทักษ์สิทธิชุมชนเขาคูหา,เครือข่ายคัดค้านโรงไฟฟ้าบ่อนอก – หินกรูด,เครือข่ายคัดค้านท่อส่งก๊าซ – โรงแยกก๊าซและอุตสาหกรรมต่อเนื่องไทย – มาเลย์, เครือข่ายติดตามแผนพัฒนาจังหวัดสตูล,เครือข่ายรักษ์ละแม,เครือข่ายคัดค้านการพัฒนาลุ่มน้ำตาปี-พุมดวง เป็นต้น เข้าร่วมจำนวน 140 คน
 
เวทีเสวนามีการระดมข้อเสนอต่อกระบวนการยุติธรรมในการต่อสู้พิทักษ์สิทธิชุมชนและฐานทรัพยากร เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมมากขึ้น โดยมีข้อเสนอคือประชาชนต้องมีส่วนร่วมในทุกระดับ ร่วมเป็นหูเป็นตา ตรวจสอบในทุกระดับตั้งแต่ระดับท้องถิ่น เช่น ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน อบต. นายอำเภอ ผู้ว่าราชการจังหวัด และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งนี้ ในระดับนโยบายมีข้อเสนอให้มีการแยกการพิจารณาคดีให้มีความชัดเจน ระหว่างคดีทั่วไป กับคดีสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ประชาชนที่ลุกขึ้นมาปกป้องสิ่งแวดล้อมได้รับความเป็นธรรมในกระบวนการยุติธรรมมากขึ้น
 
 
นายแพทย์นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ ประธานอนุกรรมการสิทธิมนุษยชนฯ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ชี้แจงว่า ปัจจุบันมีความรุนแรงเกิดขึ้นกับประชาชน โดยมีสาเหตุมาจากรัฐในประเด็นการละเมิดสิทธิด้านต่างๆ ดังนี้ การละเมิดสิทธิมนุษยชน การไม่ยอมรับเสรีภาพพลเมือง การละเมิดสิทธิทางการเมือง การละเมิดสิทธิคนงาน การละเมิดสิทธิชุมชน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ประชาชนตกเป็นเหยื่อของการพัฒนา หากเคารพรัฐธรรมนูญต้องใช้รัฐธรรมนูญไปประกบกับคดีอาญา คดีแพ่ง ไม่ใช่ดำเนินการเหมือนคดีทั่วไป เช่นเดียวกัน สิทธิก็เป็นเรื่องของประชาชนที่ต้องดำเนินการเพื่อบ้านเมืองปกครองด้วย รัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดนั้นเอง
 
นายแพทย์นิรันดร์ กล่าวด้วยว่า ปัญหาการละเมิดสิทธิต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั่วประทศ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนไม่สามารถดำเนินการได้ทั่วถึงและรวดเร็วทันกับสถานการณ์ความความเดือดร้อนในพื้นที่ จึงต้องมีการสร้างอาสาสมัครในพื้นที่ภูมิภาคต่างๆ โดยให้อาสาสมัครมีบทบาทหน้าที่ในการรับเรื่องร้องเรียน ค้นหาข้อเท็จจริงเบื้องต้นก่อนส่งเรื่องต่อ เพื่อให้เกิดการแก้ปัญหาและติดตามอย่างต่อเนื่อง รวมถึงให้ข้อมูลให้คำปรึกษากับประชาชนในพื้นที่
 
การมาร่วมกันในครั้งนี้ถือเป็นสร้างอาสาสมัครในพื้นที่ภาคใต้ ในขณะเดียวกันในภูมิภาคต่างๆ ทั้งภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง อยู่ระหว่างการสร้างกระบวนการอาสาสมัครพิทักษ์สิทธิชุมชนเช่นเดียวกัน เพื่อให้มีอาสาสมัครพิทักษ์สิทธิชุมชนทั่วประเทศต่อไป
 
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net