Skip to main content
sharethis

"โอบามา" เรียกร้องทุกฝ่ายดำเนินการมากกว่านี้เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิสหรัฐ หลังตัวเลขการจ้างงานทรงตัวที่ระดับ 8.2%

 7 ก.ค. 55 - นายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐ กล่าวว่า สหรัฐอเมริกาต้องทำมากกว่าการกระตุ้นการจ้างงานเพื่อชดเชยตำแหน่งงานที่หดหายไปในช่วงเศรษฐกิจถดถอย โดยทุกฝ่ายต้องดำเนินการมากกว่านี้เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจสหรัฐ

"ภารกิจของเราไม่ใช่แค่การทำให้คนมีงานทำอีกครั้ง แต่เราต้องฟื้นฟูเศรษฐกิจเพื่อให้ทำงานแล้วได้เงิน เพื่อให้ทุกคนที่ทำงานหนักมีโอกาสเจริญก้าวหน้า" นายโอบามา กล่าวปราศรัย

นายโอบามา ออกมาแสดงความคิดเห็นหลังจากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 80,000 ตำแหน่ง ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 90,000-100,000 ตำแหน่งโดยประมาณ ขณะที่อัตราว่างงานทรงตัวที่ระดับ 8.2% ซึ่งทำให้ตลาดเกิดความกังวลระลอกใหม่เรื่องการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

ข้อมูลการจ้างงานที่น่าผิดหวังทำให้แนวโน้มที่นายโอบามา จะได้รับการเลือกตั้งอีกครั้งมืดมนกว่าเดิม เนื่องจากเศรษฐกิจเป็นประเด็นหลักในการหาเสียงตั้งแต่เริ่มต้น ขณะที่นายมิทท์ รอมนีย์ ผู้ลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกัน ก็อาศัยโอกาสนี้ในการโจมตีนายโอบามาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยกล่าวว่าอัตราว่างงาน 8.2% ถือว่า "สูงเกินจะรับไหว" และรัฐบาลจำเป็นต้องผ่อนปรนข้อบังคับต่างๆและลดภาษีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

สหภาพแรงงานเซ็กส์เวิร์คเกอร์ฝรั่งเศสประท้วงแนวคิดลงโทษผู้ซื้อบริการทางเพศ

7 ก.ค. 55 - ที่ผ่านมากลุ่มชนชาวฝรั่งเศสรวมทั้งผู้ประกอบอาชีพขายบริการทางเพศรวมตัวกันประท้วงแนวคิดของ Najat Vallaud-Belkacem รัฐมนตรีสิทธิสตรีของฝรั่งเศสหลังจากเสนอนโยบายสะกัดการเติมโตของอุตสาหกรรมค้าเซ็กส์ ด้วยแนวคิดลงโทษผู้ที่จ่ายเงินซื้อบริการทางเพศ เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

Morgane Merteiul เลขาธิการทั่วไปของสหภาพแรงงานเซ็กส์เวิร์คเกอร์ ระบุว่า Vallaud-Belkacem ควรไปทำการบ้านศึกษาดูก่อนว่าอาชีพขายบริการนั้นเป็นอย่างไรและการต่อต้านการบังคับใช้แรงงานก็ถือเป็นหลักการเดียวกับการให้สิทธิเสรีภาพแก่ผู้ที่เต็มใจจะทำงานแบบนี้

มูลนิธิ Scelles ประมาณการว่าในฝรั่งเศสมีผู้ประกอบอาชีพขายบริการทางเพศ 18,000-20,000 คนในปี ค.ศ. 2012 ถึงแม้ว่าอาชีพนี้จะไม่ผิดกฎหมาย แต่ก็มีการห้ามให้มีลักษณะตัวกลางในการจัดหาหญิงค้าบริการให้ผู้ซื้อ มีการห้ามการบังคับให้ค้าประเวณี และการเชื้อเชิญให้ซื้อบริการทางเพศในที่สาธารณะ

แต่ปัจจุบันเริ่มมีผู้สนับสนุนให้มีกฎหมายจำกัดการค้าบริการทางเพศ เนื่องจากปัจจุบันมีคนขายบริการเดินหาลูกค้าตามที่สาธารณะ และเกิดกลุ่มมาเฟียที่ลักลอบนำหญิงขายบริการจากเอเชีย, แอฟริกา และประเทศยุโรปอื่นๆ เข้ามาในฝรั่งเศส

แต่ทั้งนี้กลุ่มผู้ขายบริการทางเพศกลับมองว่าหากมีกฎหมายจำกัดการค้าบริการทางเพศขึ้นมาจริง ยิ่งจะทำให้กลุ่มมาเฟียก่ออาชญากรรมแบบนี้เพิ่มมากขึ้น

ขุนคลังกรีซเสนอแผนแปรรูปรัฐวิสาหกิจเพื่อส่งเสริมการขยายตัวของเศรษฐกิจ

7 ก.ค. 55 - ยานนิส สตูร์นาราส รัฐมนตรีคลังคนใหม่ของกรีซ เสนอแผนของรัฐบาลชุดผสมในการแปรรูปกิจการรัฐเป็นเอกชน ซึ่งเป็นโครงการเก่า ที่มีการนำเสนอตั้งแต่ปี 2553 แต่ต้องหยุดชะงักลงท่ามกลางปัญหาทางตันทางการเมือง และการประท้วงของสหภาพแรงงานภายในประเทศ โดยหวังส่งเสริมการขยายตัวของเศรษฐกิจ และฟื้นปัญหาภาวะเศรษฐกิจถดถอยติดต่อกันเป็นปีที่ 5 แล้ว

สตูร์นาราส บอกในวันที่ 2 ระหว่างการอภิปรายนนาน 3 วันว่า โครงการการแปรรูปรัฐวิสาหกิจถึง 28 โครงการ จะเป็นการสร้างงาน เพิ่มการแข่งขันและการพัฒนาของประเทศ ซึ่งแผนนี้จะเปลี่ยนมุมมองกรีซ ในช่วงทื่ประเทศต้องเผชิญกับการแข่งขันของนานาชาติ และทำให้กรีซมีเสถียรภาพและเรียกความมั่นใจกลับคืนมา

เป้าหมายของรัฐบาลคือ ลดตัวเลขขาดดุลให้ได้ตามเป้า ต่อการขยายตัวของจีดีพี รัฐบาลมีแผนที่จะให้ความสำคัญกับทั้ง 28 โครงการ ไม่ว่าจะเป็นก๊าซธรรมชาติ น้ำ บริษัทเพื่อการพนัน  เรือยอร์ช การรถไฟ และการขายและให้เช่าของอสังหาริมทรัพย์

ด้านพรรคฝ่ายค้าน ออกมาบอกว่า รัฐบาลผสมจากทั้ง 3 พรรค ต้องการที่จะขายทรัพยากรและบริษัทของภาครัฐ โดย นายอเล็กซิส ซิปรัส หัวหน้าพรรคซิริซา ออกมาค้าน และบอกว่า กิจการของรัฐอาจจะล้มละลายหรือถูกดำเนินคดี

รัฐบาลชุดใหม่ จะต้องผ่านการลงมติไว้วางใจจากสภานิติบัญญัติ ในเวลาเที่ยงคืนของวันนี้ ซึ่งก็คาดว่ารัฐบาลผสมจะได้รับการไว้วางใจจากสภานิติบัญญัติ

บรรดาเจ้าหนี้ต่างชาติ มองว่า กรีซยังคงขาดวิธีการปฏิรูปที่ชัดเจนในการดำเนินมาตรการของเงื่อนไขเงินกู้   เจ้าหนี้กรีซย้ำชัดว่าต้องการเห็นความคืบหน้าที่ชัดเจนในการปฏิรูป โดยมองว่าในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา โครงการและมาตรการปฏิรูปต่างๆ ต้องหยุดชะงักลง  หลังประเทศเผชิญปัญหาทางตันทางการเมือง และการเลือกตั้งถึงสองครั้ง ทำให้ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ก่อนหน้านี้

ILO เตือนวิกฤตยูโรโซนกระทบแรงงาน 4.5 ล้านคนเสี่ยงตกงาน

10 ก.ค. 55 - องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) เตือนว่า เศรษฐกิจยูโรโซนซึ่งตกอยู่ในวิกฤตทางการเงิน อาจมีจำนวนแรงงานที่ตกงานกว่า 4.5 ล้านคนภายในสี่ปีข้างหน้า หากไม่มีการดำเนินการปรับเปลี่ยนนโยบายเศรษฐกิจขนานใหญ่อย่างรวดเร็ว

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า รายงาน "วิกฤตการจ้างงานยูโรโซน: แนวโน้มและการสนองตอบด้านนโยบาย" ระบุว่า มาตรการรัดเข็มขัดที่ประเทศยุโรปใช้เพื่อจัดการกับวิกฤตอยู่ในปัจจุบันจะส่งผลกระทบต่อการจ้างงานและเสี่ยงที่จะ "ทำให้เกิดความวุ่นวายทางสังคมและบั่นทอนความมั่นใจของประชาชนที่มีต่อรัฐบาลของประเทศต่างๆ ระบบการเงิน และสถาบันต่างๆของยุโรป"

ทั้งนี้ อัตราการว่างงานในแถบยูโรโซนแตะ 11% เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา หรือมีคนว่างงานกว่า 17.4 ล้านคน ซึ่งเพิ่มขึ้น 3.5 ล้านจากระดับก่อนวิกฤตการเงินโลกในปี 2551

รายงานชี้ว่า การยับยั้งวิกฤตโดยคงเอกภาพของเงินสกุลเดียวเอาไว้นั้นเป็นไปได้ "โดยรวมกลยุทธ์การเติบโตของยูโรโซนพร้อมกับการจ้างงานไว้เป็นส่วนสำคัญ" แต่เวลากำลังจะหมดลง

นายฮวน โซมาเวีย ผู้อำนวยการ ILO กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า "โอกาสกำลังจะหมดไป ทุกคนจำเป็นต้องร่วมมือกันอย่างเร่งด่วน"

เปอโยต์ลดคนงาน 8,000 คน

13 ก.ค. 55 - บริษัทผลิตรถยนต์ PSA เปอโยต์-ซีตรองที่มีปัญหาของฝรั่งเศส กำลังเผชิญกับปัญหายอดขายที่ลดต่ำลงอย่างมากในทวีปยุโรปใต้ ประกาศแผนลดค่าใช้จ่ายกะทันหันและร้ายแรง ด้วยการปรับลดตำแหน่งงานลงถึง 8,000 ตำแหน่งในฝรั่งเศส และปิดโรงงานผลิตสำคัญโรงหนึ่งทางตอนเหนือของกรุงปารีส

พนักงานที่โรงงานผลิตในเมืองโอลแน-ซู-บัวส์ พร้อมใจกันผละงาน และจัดการประท้วงขึ้นที่หน้าโรงงานซึ่งเป็นหนึ่งในโรงงานผลิตรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดของฝรั่งเศส และเป็นป้อมปราการของการผลิตรถยนต์และสหภาพแรงงานของพนักงานผลิตรถยนต์

ฝ่ายบริหารของบริษัทประกาศปรับลดตำแหน่งงานและปิดโรงงานนี้ระหว่างการประชุมร่วมกับตัวแทนของพนักงานเมื่อวานนี้

บริษัท PSA เปอโยต์-ซีตรอง ซึ่งอาจเผชิญกับการขาดทุนถึง 700 ล้านยูโร หรือประมาณ 27,100 ล้านบาท ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ กำลังพยายามประหยัดเงิน 1,000 ล้านยูโร ขณะที่บริษัทกำลังต่อสู้เพื่อแข่งขันในตลาดรถยนต์ยุโรป ที่มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด บริษัทได้รับผลกระทบหนักจากยอดขายที่ดิ่งลงเหวในยุโรปใต้ที่กำลังเผชิญกับภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจ บริษัทได้เห็นยอดขายตกลง 20 % ในยุโรปในช่วงไตรมาสแรก

แผนปรับปรุงโครงสร้างยังรวมถึงการปรับลดตำแหน่งงาน 1,400 ตำแหน่งที่โรงงานผลิตรถยนต์ในเมืองแรน และปรับลดตำแหน่งงานอีก 3,600 ตำแหน่ง ตามโรงงานผลิตอื่นๆ ทั่วฝรั่งเศส ปัจจุบันบริษัทว่าจ้างพนักงานประมาณ 100,000 คนในฝรั่งเศส และอีกประมาณ 209,000 คนทั่วโลก

การประกาศปรับปรุงโครงสร้างมีขึ้นหลังบริษัทประกาศแผนเมื่อปีที่แล้วว่าจะลดตำแหน่งงานลง 6,000 ตำแหน่ง

นายฟิลิป วาแร็ง ประธานคณะกรรมการบริหารของบริษัทแถลงต่อสื่อมวลชนในกรุงปารีสว่า ขณะนี้บริษัทกำลังขาดทุนเดือนละประมาณ 100 ล้านยูโร แต่เขาให้คำมั่นว่า บริษัทจะไม่ทอดทิ้งใครไว้ข้างทางเด็ดขาด

บริษัทยังหวังว่าการร่วมเป็นพันธมิตรใหม่กับบริษัทเจเนอรัลมอเตอร์สของสหรัฐฯ จะช่วยให้บริษัทกลับมามีกำไรในระยะยาว พนักงานที่นัดหยุดงานประมาณ 250 คน มาชุมนุมหน้าโรงงานโอลไน-ซู-บัว หลังมีคำประกาศ

หุ้นของบริษัท PSA เปอโยต์-ซีตรอง เพิ่มขึ้น 0.45 % ไปอยู่ที่ 7.17 ยูโร ในการซื้อขายภาคบ่าย

หนุ่มอิสราเอลเผาตัวประท้วงวิกฤตค่าครองชีพแพง โวยรัฐ"ปล้นคนจน-ช่วยคนรวย"

15 ก.ค. 55 - สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 15 ก.ค.ว่า เกิดเหตุระทึก หนุ่มอิสราเอลรายหนึ่งได้ก่อเหตุจุดไฟเผาตัวเอง ระหว่างการชุมนุมรำลึกเหตุการณ์ 1 ปีผู้คนประท้วงรัฐบาลอิสราเอลต่อปัญหาค่าครองชีพและปัญหาสังคมต่าง ๆ ในกรุงเทล อาวีฟ เมืองหลวง โดยหนุ่มรายนี้มีอาการสาหัสก่อนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ขณะที่สื่อมวลชนอิสราเอลรายงานว่า หนุ่มรายนี้ได้ทิ้งจดหมายในที่เกิดเหตุ มีข้อความว่า"รัฐอิสราเอลได้ขโมยตัวตนของผมและปล้นผม พวกเขาทำให้ผมไร้ความช่วยเหลือ พร้อมทั้งตำหนิรัฐบาลว่า กระทำย่ำยีปชช.และนำผลประโยชน์ของคนจนไปให้กลุ่มคนรวย

รายงานระบุว่า การชุมนุมเมื่อวันเสาร์เป็นความพยายามที่จะกระตุ้นให้ประชาชนอิสราเอลจดจำเหตุการณ์ประท้วงเมื่อเดือนก.ค.ปีที่แล้ว ต่อปัญหาราคาบ้านแพง ก่อนลุกลามไปสู่การประท้วงค่าครองชีพแพง ค่าแรงต่ำ และการขาดการศึกษาที่ดีให้แก่เยาวชน และการประท้วงมีขึ้นหลังจากรัฐบาลอิสราเอลได้คณะกรรมการเพื่อศึกษาว่าจะสามารถหาทางออกในการแก้ปัญหาสังคมเหล่านี้ได้อย่างไร โดยผู้นำกลุ่มประท้วงบอกว่า คณะกรรมการดังกล่าวไม่ได้ช่วยให้มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ เกิดขึ้น

ไม่ยอมให้ลูกจ้างหญิงลาก่อนคลอดโทษปรับสูงสุด3แสนเหรียญไต้หวัน

17 ก.ค. 55 - คณะกรรมการการแรงงานไต้หวัน (CLA) ได้เปิดเผยว่า ลูกจ้างซึ่งเป็นหญิงมีครรภ์มีสิทธิที่จะขอลาคลอดก่อนการคลอดเพื่อดูแลครรภ์ได้ตามที่ระบุไว้ในกฎหมายมาตราที่ 4 ของกฎหมายการขอลาหยุดของแรงงาน และมาตราที่ 15 ของกฎหมายความเท่าเทียมกันทางเพศในการทำงาน ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนพ.ค.2553 และ เดือนมกราคม 2554 ตามลำดับโดยหากนายจ้างไม่ยินยอมปฏิบัติตามกฎหมายมีโทษปรับสูงสุด 300,000 เหรียญไต้หวัน

สำนักงานมาตรฐานแรงงาน คณะกรรมการการแรงงานชี้ว่า ขอเพียงลูกจ้างหญิงได้รับการตรวจวินิจฉัยจากแพทย์ว่ามีความจำเป็นต้องลาหยุดเพื่อดูแลครรภ์ ซึ่งการลาหยุดนี้สามารถนับรวมกับการลาหยุดกรณีป่วยหนัก

และต้องรับการรักษาในโรงพยาบาลได้ (สูงสุดไม่เกิน 1 ปี) โดยหากนายจ้างไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับดังกล่าวมีโทษปรับตามกฎหมายตั้งแต่ 20,000-300,000 เหรียญไต้หวันนอกจากนี้ ตามกฎหมายความเท่าเทียมกันทางเพศในการทำงาน ได้มีการระบุเกี่ยวกับการขอลาก่อนคลอดเพื่อดูแลครรภ์ของลูกจ้างหญิงไว้อย่างชัดเจนเช่นกันว่า นายจ้างห้ามปฏิเสธ และนายจ้างไม่สามารถอ้างการลาหยุดนี้เพื่อนำมาหักเงินโบนัสประจำปี หรือนำมาประเมินการทำงานที่ไม่เป็นผลดีต่อลูกจ้างได้

ลอนดอน จนท.ตม.โหวตสไตร์คงาน หลังโดนลอยแพ-ลดค่าจ้าง

19 ก.ค. 55 -  ลอนดอน เกมส์ ยังต้องรับมือกับปัญหาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด รายงานข่าวเผยว่า สหภาพผู้จ้างงานตรวจพาสปอร์ต ผ่านเข้าเมืองในกรุงลอนดอน ลงคะแนนโหวตหนุนหลังสไตร์คงาน เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมา จากความไม่พอใจที่โดนตัดเงินค่าจ้างและมีการลดการจ้างงานด้วย ซึ่งอาจส่งผลก่อให้เกิดปัญหาการบริหารจัดการ ทำให้ผู้เดินทางต้องรอคิวตรวจเอกสารผ่านเข้าเมืองยาวเหยียด

สำนักข่าวรอยเตอร์เผยว่า เจ้าหน้าที่ผู้ทำหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองในกรุงลอนดอนมีจำนวนไม่เพียงพอส่งผลทำให้ผู้เดินทางเข้าเมืองในช่วงการแข่งขันโอลิมปิกบางกลุ่มต้องเข้าแถวรอตรวจเอกสารเข้าเมืองกันนานนับชั่วโมง ล่าสุด สหภาพการบริการการค้า และบริการสาธารณะ (พีซีเอส) เปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า สมาชิกของสหภาพที่ทำหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง จำนวน 57 เปอร์เซ็นต์ลงคะแนนเสียงหนุนการสไตร์คงานสืบเนื่องมาจากปัญหาความขัดแย้งกับกระทรวงมหาดไทยเรื่องการจ้างงานและการลดเงินค่าจ้างอันส่งผลให้มีจำนวนแรงงานน้อยลงจนเกิดความล่าช้า และทางสหภาพจะทำการประกาศรูปแบบการเคลื่อนไหวสไตร์คงาน และวันที่จะดำเนินการอีกครั้งในวันนี้ (19 กรกฎาคม)

อย่างไรก็ดี รายงานข่าวจากรอยเตอร์ระบุว่า สมาชิกจำนวน 20 เปอร์เซ็นต์ของสหภาพเข้าร่วมการโหวตครั้งนี้ โดย 75 เปอร์เซ็นต์ ของผู้เข้าโหวตหนุนหลังการดำเนินการรูปแบบอื่น

ขณะที่ทางฝ่ายรัฐบาล ซึ่งได้คัดเลือกสต๊าฟฟ์พิเศษเพื่อช่วยงานในช่วงโอลิมปิกแล้ว อ้างว่า จำนวนผู้เข้าโหวตมีน้อยเกินกว่าที่จะทำให้สหภาพมีสิทธิ์ชอบธรรมในการสไตร์คงาน

ที่ผ่านมา การบริหารจัดการระหว่างที่นักกีฬาเริ่มทยอยเดินทางเข้ามาในกรุงลอนดอนแสดงให้เห็นช่องโหว่ และเริ่มเห็นปัญหาบ้าง เมื่อมีรายงานข่าวว่า ผู้เดินทางบางคนอาจต้องรอคิวตรวจเข้าเมืองนานหลายชั่วโมง

การแข่งขันโอลิมปิก เกมส์ ที่ลอนดอน เริ่มต้นวันที่ 27 กรกฎาคม โดยคาดการณ์ว่าจะมีผู้เดินทางเข้าลอนดอนจำนวนแตะหลักหมื่นต่อวัน และเชื่อว่าช่วงปิดการแข่งขันโดยเฉพาะวันที่ 13 สิงหาคมจะเป็นวันที่สนามบินฮีทโธรว์ ในลอนดอนต้องรับมือกับผู้โดยสารมากที่สุดวันหนึ่ง

จลาจลโรงงาน'ซูซูกิ'อินเดีย คนงานรุมทำร้ายผู้จัดการบาดเจ็บนับร้อย

19 ก.ค. 55 - มารูติ ซูซูกิ ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของอินเดีย ต้องระงับการผลิต ณ โรงงานแห่งหนึ่งใกล้นิวเดลีเมื่อวันพฤหัสบดี(19) หลังผู้จัดการรายหนึ่งถูกไฟครอกจนเสียชีวิตและอีกจำนวนมากได้รับบาดเจ็บในเหตุจลาจลโดยฝีมือของเหล่าพนักงานผู้โกรธกริ้ว

บริษัทมารุติ ระบุว่าผู้เสียชีวิตคือนายอัฟนิช คูมาร์ เดฟ ผู้จัดการฝ่ายบุคคลของโรงงาน โดยซากไหม้เกรียมของเขาถูกพบหลังเกิดเหตุจลาจลเมื่อช่วงค่ำวันพุธ(18) ซึ่งระหว่างนั้นหัวหน้าแผนกหลายคนก็ถูกเล่นงานและอาคารสำนักงานโดนวางเพลิง

"เราตกอยู่ในความสับสนอลหม่านจากความรุนแรงฝีมือม็อบ" มารุติระบุในถ้อยแถลง พร้อมยกย่อง เฟด สำหรับความทุ่มเททำงานด้านอุตสาหกรรมสัมพันธ์ด้วยความรัก" ณ โรงงานมณีสาร์ ห่างจากเมืองหลวงราว 50 กิโลเมตร

หุ้นของมารุติ ดิ่งลงเกือบร้อยละ 9 เหตุนักลงทุนกังวลว่าบริษัทแห่งนี้อาจต้องปิดโรงงานเป็นเวลานาน หลังจากเมื่อปีที่แล้ว ปฏิบัติการของ มารุติ ก็เผชิญความยุ่งเหยิงนานหลายเดือนจากปัญหาเกี่ยวกับค่าจ้างและรับรองสหภาพ

บริษัทซึ่งมี ซูซูกิ มอเตอร์ ของญี่ปุ่นเป็นเจ้าของ เปิดเผยว่าอาคารสำนักงานต่างๆของโรงงานถูกไฟเผาผลาญเสียหายร้ายแรงเกินกว่าที่จะซ่อมแซม ขณะที่เหล่าผู้จัดการเกือบ 100 คน ต้องถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ในนั้นบางรายอาการสาหัส

พวกคนงาน บางส่วนใช้แท่งเหล็กรุมทำร้ายเหล่าผู้จัดการฝ่าย ทั้งทุบตีบริเวณศีรษะ ขาและหลัง เป็นผลให้เหยื่อเลือดอาบ กระดูกหักและบางรายก็ถึงขั้นหมดสติ นอกจากนี้บริหารระดับสูงชาวญี่ปุ่น 2 คน ในนั้นคือผู้จัดการโรงงานมณีสาร์ ก็ถูกนำส่งโรงพยาบาลเช่นกัน แต่ไม่มีการเปิดเผยถึงอาการบาดเจ็บของพวกเขา

มารูติ ใช้โรงงานแห่งนี้เป็นฐานการผลิตรถยนต์ราว 550,000 คันต่อปี คิดเป็น 1 ใน 3 ของการผลิตทั้งหมดของบริษัท และพวกเขาแถลงว่าจะตัดสินใจเร็วๆนี้ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไปในเรื่องของการกลับคืนสู่ปฏิบัติการ

"นี่คือเหตุความไม่สงบของคนงานครั้งเลวร้ายที่สุดที่ผมเคยเห็นมาในรอบหลายปีนี้" ตรีเพส ราธอร์ กรรมการผู้จัดการบริษัทที่ปรึกษา ไอเอชเอส ออโตโมทีฟ อินเดีย บอกกับเอเอฟพี "สถานการณ์เลวร้ายมาก พวกผู้จัดการระดับอาวุโสอาจไม่อยากทำงานให้มารูติ ณ โรงงานดังกล่าวอีกแล้วในอนาคต เนื่องจากหวั่นกลัวด้านความปลอดภัย"

ด้าน มเหสวรา ดายัล รองผู้บัญชาการตำรวจเปิดเผยว่ามีคนงานอย่างน้อย 88 คนถูกจับกุมและมีความเป็นไปได้ที่เหล่านั้นจะถูกตั้งข้อกาฆาตกรรมด้วยการก่อจลาจลและวางเพลิง

มารูติ เปิดเผยว่าเหตุวุ่นวายเริ่มขึ้นในตอนเช้าวันพุธ(18) เมื่อพนักงานฝ่ายผลิตรายหนึ่งทำร้ายผู้จัดการฝ่าย และกล่าวหาว่าสหภาพคนงานพยายามขัดขวางการลงโทษทางวินัยต่อพนักงานรายนี้ จากนั้นก็ปิดกั้นห้ามเหล่าผู้จัดการออกจากโรงงาน

"ไม่ว่าเหตุผลใดๆ นี่ไม่ใช่ปัญหาความสัมพันธ์อุตสาหกรรม ในธรรมชาติความเห็นต่างระหว่างผู้จัดการและคนงานเกี่ยวกับประเด็นค่าจ้างหรือเงื่อนไขการทำงาน แต่มันคือความรุนแรงที่ไม่ได้เกิดจากแรงยั่วยุและน่าขยะแขยงสิ้นดี"

แต่ทางสหภาพแรงงานอ้างเหตุผลที่ต่างกัน โดยบอกว่าผู้จัดการคนดังกล่าวข่มเหงคนงานรายนี้ที่เป็นวรรณะต่ำที่สุดของอินเดีย แถมเขายังถูกพักงานหลังจากยื่นร้องเรียนอีกด้วย

โรงงานมณีสาร์ มีพนักงานราว 2,000 คน และทำหน้าที่ผลิตรถยนต์ "สวิฟท์" ที่มียอดขายสูงสุดของบริษัท รวมถึง A-star และ SX4 ซีดาน

คนงานชาวกรีกเดินขบวนประท้วงมาตรการรัดเข็มขัด

27 ก.ค. 55 - คนงานจากภาคต่าง ๆ ในกรีซรวมตัวประท้วงในกรุงเอเธนส์ เพื่อต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัดของรัฐบาลที่ต้องดำเนินการตามพันธกรณีกับสหภาพยุโรป หรือ อียู และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ ประธานสหภาพคนงานต่อเรือแห่งหนึ่ง ระบุว่า พวกเขาจะเดินหน้าต่อสู้ไปจนกว่าจะได้รับความยุติธรรม โดยรัฐบาลและบริษัทจะต้องคำนึงว่าพวกเขาคือคนงานไม่ใช่ทาส

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้บริษัทหลายแห่งต้องปลดคนงาน ลดชั่วโมงการทำงาน และลดเงินเดือนลูกจ้าง การประท้วงดังกล่าวมีขึ้นในช่วงที่คณะผู้ตรวจสอบจากอียูและไอเอ็มเอฟ อยู่ระหว่างการเยือนกรีซเพื่อประเมินความคืบหน้าว่ากรีซได้ดำเนินการตามพันธกรณีในการขอรับเงินช่วยเหลือหรือไม่ ซึ่งรัฐบาลกรีซได้ยื่นเสนอมาตรการลดรายจ่ายเป็นเงินถึง 12,000 ล้านยูโร ในระยะ 2 ปีต่อคณะผู้ตรวจสอบ

หมู่เกาะเคย์แมนเสนอ "เก็บภาษีแรงงานต่างชาติ" ครั้งแรกในประวัติศาสตร์

30 ก.ค. 55 - หมู่เกาะเคย์แมนซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะแหล่งฟอกเงินของมหาเศรษฐีทั่วโลก เสนอแผนเก็บภาษีโดยตรงจากแรงงานต่างชาติเพื่อบรรเทาปัญหาขาดดุลงบประมาณข้อเสนอเก็บ ค่าธรรมเนียมทำนุบำรุงชุมชนดังกล่าวนับเป็นสิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ของหมู่เกาะแห่งนี้ และหมายความว่า แรงงานต่างชาติที่มีรายได้เกิน 24,000 ดอลลาร์สหรัฐจะถูกหักภาษีโดยตรงร้อยละ 10

มณฑลกว่างตงกวาดล้างเอ็นจีโอครั้งใหญ่

31 ก.ค. 55 - เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ -องค์กรพัฒนาเอกชน หรือเอ็นจีโอ ซึ่งทุ่มเททำงานในการพิทักษ์สิทธิของแรงงานอพยพถูกทางการมณฑลกว่างตง (กวางตุ้ง) สั่งปิดไปแล้วอย่างน้อย 7 แห่ง สวนทางกับที่เคยประกาศว่า จะผ่อนคลายข้อกำหนด ที่เข้มงวดในการอนุญาตให้เอ็นจีโอจดทะเบียน

นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิแรงงานระบุว่า การสั่งกวาดล้าง ที่ดำเนินมานาน 5 เดือนเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งที่ทางการเคยประกาศว่า กว่างตงจะเป็นมณฑลแห่งแรกบนแผ่นดินใหญ่ ที่มีการผ่อนคลายข้อกำหนด ในการจดทะเบียนสำหรับเอ็นจีโอตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. เป็นต้นไป

นักเคลื่อนไหวหลายรายกล่าวว่า พวกตนถูกขับไล่ออกจากสำนักงาน หลังจากเจ้าของอาคารถูกเจ้าหน้าที่รัฐกดดัน โดยเจ้าหน้าที่เหล่านี้มักมาตรวจสอบอาคารสำนักงานอยู่บ่อย ๆ

เอ็นจีโอด้านสิทธิแรงงานบนแผ่นดินใหญ่มักรายงานเรื่อง ที่ถูกทางการคุกคามรังควาน เนื่องจากทางการหวาดกลัวว่า กลุ่มเอ็นจีโอ ซึ่งได้รับเงินทุนจากต่างชาติและคอยเคลื่อนไหวกดดันรัฐบาลอาจเป็นแกนนำจัดการผละงานประท้วงครั้งใหญ่ ปลุกปั่นให้มีการเดินขบวนประท้วง หรือการสร้างความวุ่นวายในสังคม

นายจาง จื่อหรู ผู้อำนวยการของศูนย์ให้บริการด้านข้อพิพาทแรงงานเซินเจิ้น สปริง บรีซ ( Shenzhen Spring Breeze Labour Disputes Service Centre) ซึ่งให้ความช่วยเหลือด้านกฎหมายแก่แรงงานกล่าวว่า เขาเช่าอาคารสำนักงาน 7 แห่ง ซึ่งถูกสั่งปิดหมด และสำนักงานของนายจางเป็นเอ็นจีโอรายแรก ที่ถูกสั่งปิดเมื่อเดือนก.พ. ที่ผ่านมา โดยเจ้าของอาคารได้รื้อป้าย และตัดน้ำตัดไฟ แม้มีการทำสัญญานาน 3 ปี โดยจ่ายค่าเช่าครบทุกงวดก็ตาม

ด้านนายเฉิน เหมา เจ้าหน้าที่เอ็นจีโอ ซึ่งทำงานกับศูนย์แรงงานผู้อพยพเซินเจิ้น (Shenzhen Migrant Worker Centre) มานาน 13 ปี รู้สึกตกใจกับการกวาดล้างขนานใหญ่ของทางการ ซึ่งเขาไม่เคยพบเห็นมาก่อน โดยสำนักของเขาถูกสั่งปิดเมื่อเดือนพ.ค ที่ผ่าน

อย่างไรก็ตาม นายเฉินได้ยื่นคำร้องต่อทางการนครเซินเจิ้นเมื่อเดือนที่แล้ว เพื่อขอทราบเหตุผลของการสั่งปิด โดยนายเฉินยังระบุว่า เจ้าของอาคาร ซึ่งเป็นที่ตั้งสำนักงานของเขาถูกเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นคุกคามข่มขู่มาตั้งแต่เมื่อเดือนพ.ย. ปีที่แล้ว แต่นายเฉินมองว่า ไม่น่าจะมีสาเหตุมาจากที่ทางการกลัวว่า แรงงานอพยพจะก่อความวุ่นวายทางสังคม ก่อนหน้าการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์ ซึ่งจะมีขึ้นในปีนี้แต่อย่างใด

ที่มาเรียบเรียงจาก: มติชนออนไลน์, ASTV ผู้จัดการออนไลน์, ประชาไท, สำนักข่าวไทย, สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์, กรุงเทพธุรกิจ, โพสต์ทูเดย์

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net