นักปรัชญาชายขอบ: ขันติธรรมระหว่างศาสนา (Religious Tolerance)

ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ

มองจากความคิดเสรีนิยม “ขันติธรรม” (tolerance) ความอดทน ความมีใจกว้าง (รวมทั้งการมีสปิริตให้อภัย) ต่อความเห็นต่าง เป็นสิ่งจำเป็นในสังคมพหุนิยมทางศาสนาและวัฒนธรรม ขันติธรรมที่ว่านี้มีความจำเป็นทั้งในแง่ว่า เราจะไม่ใช้เสรีภาพของตนเองไปละเมิดคนอื่น หรือไม่ใช้ความเชื่อในศาสนาของตัวเองไปตัดสินความเชื่อในศาสนาอื่น หรือไม่ใช้เสรีภาพในนามเสรีนิยมไปละเมิดความเชื่อ/หลักการของศาสนาต่างๆ ดังเช่นการสร้างภาพยนตร์ เขียนหนังสือดูหมิ่นศาสดาของศาสนาอื่น หรือการกระทำดังภาพหญิงสาวคร่อมพระพุทธรูปดังภาพข้างล่างนี้ โดยอาจจะคิดว่าตนเองอ้างเสรีภาพตามหลักเสรีนิยม (ซึ่งไม่ใช่)   

(ภาพจาก Snook)

แต่ความหมายที่สำคัญกว่านั้นของขันติธรรมก็คือ การตอบโต้ต่อการถูกดูหมิ่นซึ่งเรามีความจำเป็นต้องตอบโต้ต่อการหมิ่นประมาทตัวเรา หรือการหมิ่นศาสดา ศาสนา ความเชื่อของเราภายใต้ขอบเขตของกฎหมายเท่านั้น เช่น การประณาม การเรียกร้องให้ขอโทษ การประท้วงอย่างสันติ หรือการแจ้งความเอาผิดตามกฎหมาย (ที่เป็นประชาธิปไตย) เราไม่มีสิทธิ์ใช้กำลังหรือความรุนแรงทำร้ายชีวิตและทรัพย์สินของผู้อื่น เพื่อระบายความโกรธแค้นอย่างไร้มนุษยธรรม

กรณีชาวมุสลิมในบังคลาเทศเผาวัดพุทธ 5 แห่ง สะท้อนการขาดขันติธรรมระหว่างศาสนา (Religious Tolerance) อย่างน่าวิตก เริ่มจากการขาดขันติธรรมของชาวพุทธคนหนึ่งที่โพสต์ภาพตนเองเหยียบคัมภีร์ของศาสนาอิสลามขึ้นเฟซบุ๊ก เป็นเหตุให้เกิดการโต้ตอบที่ขาดขันติธรรมยิ่งกว่าของชาวมุสลิมกลุ่มหนึ่งที่เผาวัดพุทธ 5 แห่งและก่อจลาจลทำลายบ้านเรือนร่วม 100 หลัง

(ภาพจากคม ชัด ลึก)

ไม่ว่าเราจะมองจากหลักมนุษยธรรม หลักเสรีนิยม สิทธิมนุษยชน หรือหลักการของแต่ละศาสนาเอง เราไม่มีทางจะยอมรับการการหมิ่นศาสนาว่าเป็นสิ่งที่ควรทำ และยิ่งไม่อาจยอมรับการตอบโต้ที่รุนแรงของกลุ่มศาสนิกบางกลุ่มของศาสนาใดๆ ว่าเป็นสิ่งที่ควรทำ

ผมเข้าใจว่าหลักขันติธรรมตามความคิดเสรีนิยมนั้น นอกจาจะวางอยู่บนพื้นฐานของการเคารพความแตกต่างทางความคิด ความเชื่อ ฯลฯ แล้ว ยังเป็นหลักการที่ยอมรับสมมติฐานว่า เป็นไปได้ที่ในโลกของความเป็นจริงจะมีการด่า การประณาม นินทาว่าร้าย ฯลฯ เกิดขึ้นได้เสมอ อาจจะเรียกได้ว่านี่เป็นธรรมชาติของสังคมมนุษย์ก็ว่าได้ อย่างที่พูดกันว่า “ห้ามไฟไม่ให้มีควัน...ให้ได้ก่อน ค่อยห้ามคนด่าหรือนินทา”

แน่นอน การแสดงออกในลักษณะต่างๆ ที่ถูกมองว่าเป็นการหมิ่นศาสดา หมิ่นศาสนา เช่น ผู้หญิงโพสต์ท่าถ่ายรูปคร่อมพระพุทธรูป การสร้างพระพุทธรูปในรูปลักษณ์แปลกๆ เอาพระพุทธรูปไปเป็นเครื่องตกแต่งประดับในโรงแรม สปา ฯลฯ หรือการแต่งนิยาย เขียนหนังสือ สร้างภาพยนตร์ที่สะท้อนภาพของพุทธะในด้านตรงข้ามกับที่ชาวพุทธเชื่อคงจะมีต่อไปเรื่อยๆ และอันที่จริงการด่าประณาม กระทั่งการลอบทำร้าย ลอบฆ่าพุทธะก็มีมาแล้วในสมัยพุทธกาล แต่พุทธะก็วางหลักให้ชาวพุทธตอบโต้การกระทำเหล่านั้นด้วยขันติธรรม

ดังในโอวาทปาฏิโมกข์ซึ่งเป็นหลักการในการเผยแผ่พุทธศาสนาในระยะเริ่มแรกนั้น พุทธะให้ชาวพุทธมีขันติธรรม ไม่กล่าวร้าย ทำร้าย หรือฆ่าใคร แต่ให้ตอบโต้การกระทำของฝ่ายอื่นๆ ด้วยการมีสติ ไม่โกรธ ใช้เหตุผล และที่จริงแล้วขันติธรรมตามคำสอนพุทธศาสนานั้นเข้มงวดมากถึงขนาดว่า “ผู้ที่ยังจิตให้โกรธคนที่กำลังใช้เลื่อยตัดร่างกายของตนให้ขาดเป็นสองท่อน ย่อมไม่ชื่อว่าปฏิบัติตามคำสอนของตถาคต” นี่แสดงให้เห็นว่าพุทธศาสนามองว่า สิ่งที่เรียกว่าศีลธรรมหรือความถูกต้องมีค่าในตัวมันเอง ไม่ได้เอาผลมาตัดสิน ในกรณีนี้ความไม่โกรธมีค่าในตัวมันเอง การถูกฆ่าไม่ใช่ผลอันเป็นเงื่อนไขที่ทำให้ความไม่โกรธกลายเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องไปได้

ถามว่า หากชาวพุทธไม่ทำตามหลักขันติธรรมของพุทธศาสนา การตอบโต้ใครก็ตามด้วยวิธีรุนแรงต่างๆ เช่น การเรียกร้องให้ออกกฎหมายเอาผิดคนที่หมิ่นศาสดา การตอบโต้ด้วยความโกรธ ความเกลียดชัง ความแค้น การตั้งค่าหัว การฆ่า ฯลฯ วิธีการแบบนี้จะมีประสิทธิภาพขจัดคนที่หมิ่นศาสดาให้หมดไปจากโลกนี้จริงๆ หรือ

ในทำนองเดียวกันอะไรที่สังคมเราทำให้เป็นศาสนา เช่น “อุดมการณ์ราชาชาตินิยมศักดิ์สิทธิ์” ที่อาจารย์เกษียร เตชะพีระ เรียกว่า “ศาสนาทางโลก” (secular religion) ที่อิงความศักดิ์สิทธิ์ของสมมติเทพหรือพระสยามเทวธิราช ก็ต้องเผชิญกับคำถามอย่างที่อาจารย์สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ตั้งคำถามว่า

(ภาพจาก fb นิธิวัต วรรณศิริ)

เราจำเป็นต้องพูดกันให้ชัดๆ ว่าอะไรที่สวม “เสื้อคลุมศาสนา” (ทำ/แสดงออกในนามศาสนา) มันไม่ใช่ "ศีลธรรม" เสมอไป การทำการตลาดหากินกับศรัทธาของชาวบ้าน การใช้อำนาจปิดกั้นเสรีภาพในการแสดงความเห็น วิพากษ์วิจารณ์ การตอบโต้คนที่ดูหมื่นศาสดาของตนด้วยวิธีรุนแรง ฯลฯ สิ่งพวกนี้มันไม่ใช่เรื่องศีลธรรม มันคือการทำลายศีลธรรม เพราะศีลธรรมต้องเคารพความเป็นมนุษย์ ต้องมีขันติธรรมต่อความเห็นต่าง มีขันติธรรมแม้กระทั่งต่อการดูหมิ่นเหยียดหยาม ไม่ใช้เพื่อนมนุษย์เป็นเครื่องมือแสวงผลประโยชน์ หรือระบายความเคียดแค้น

ว่าตามจริง นักเสรีนิยมไม่ได้อ้างหลักขันติธรรมต่อความเห็นต่างในฐานะเป็น “สัจธรรมศักดิ์สิทธิ์” ไม่เหมือนบรรดาศาสนิกของศาสนาต่างๆ ที่อ้างความศักดิ์สิทธิ์ของศาสดา ของสัจธรรมคำสอน อ้างแนวคิดสันติภาพของศาสนาตนว่าเลอเลิศกว่าแนวคิดสันติภาพใดๆ ในโลก อ้างความรัก การให้อภัย กระทั่งความไม่มีกิเลส ความเมตตาต่อสรรพสัตว์ แต่เราก็พบว่านักเสรีนิยมที่ยอมรับความมีกิเลส บางคนไม่มีศาสนากลับแสดงออกว่า เขามีขันติธรรมต่อความเห็นต่างมากกว่าคนเคร่งศาสนา หรือพูดให้ตรงคือขันติธรรมที่นักเสรีนิยมมี “เหนือกว่า” บรรดาศาสนิกที่เคร่งศาสนาก็เนื่องมาจากที่พวกเขาต่อสู้เพื่อเป็นอิสระจากอิทธิพลความเชื่อทางศาสนาต่างๆ และความสัตย์ซื่อต่อความเป็นมนุษย์ของตนนั่นเอง

ผมเองไม่ได้เรียกร้องหรือคาดหวังว่า บรรดาศาสนิกที่เคร่งศาสนา ผู้รักศาสนา หรือแสดงออกว่าปกป้องศาสนาของตนเองจะต้องมีมาตรฐานสูงส่งตามหลักการของศาสนาตน เช่น ไม่มีกิเลส มีสติ ไม่โกรธ ให้อภัย รักศัตรูเหมือนรักตนเอง ยึด “ความเป็นศาสนาแห่งสันติภาพ” ที่ต้องไม่ใช้ความรุนแรงใดๆ ผมขอเพียงแค่อยากเห็นการแสดงออกของเขาเหล่านั้น “มีขันติธรรมในมาตรฐานเดียวกับเสรีนิยม”

หากศาสนาต่างๆ ไร้ศีลธรรมแม้ระดับพื้นฐานที่สุดคือระดับ “ขันติธรรม” ต่อความเห็นต่างตามมาตรฐานเสรีนิยม ก็ป่วยการที่จะป่าวประกาศความสูงส่งใดๆ ในหลักศาสนาของตน และการแสดงออกใดๆ ในนามการปกป้องศาสนาอย่างขาดขันติธรรม ย่อมเป็นการใช้ศาสนาเป็นเครื่องมือทำลายสันติภาพอันเป็นเป้าหมายของแต่ละศาสนาเอง และของสังคมมนุษย์

ความเป็นไปได้ทางหนึ่งที่โลกเราจะมีขันติธรรมระหว่างศาสนา คือการที่ศาสนิกในแต่ละศาสนาต้องตั้งคำถาม วิพากษ์วิจารณ์กันเอง และปฏิเสธการแสดงออกใดๆ ในทางศาสนาที่ไม่มีขันติธรรม รวมถึงการใช้ศาสนาเป็นเครื่องมือแสวงผลประโยชน์ใดๆ อย่างไม่ตรงไปตรงมา หรือขัดแย้งกับหลักการของศาสนาตนเอง อันเป็นหลักการที่เคารพคุณค่าของมนุษย์และสันติภาพของโลก

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท