Skip to main content
sharethis

องค์กรเฝ้าจับตาสถานการณ์สิทธิมนุษยชน "ฮิวแมนไรท์ วอทซ์" เผยภาพถ่ายจากดาวเทียมแสดงให้เห็นสิ่งก่อสร้างจำนวน 811 หลังในชุมชนชาวโรฮิงยาที่เมืองจ็อก ผิ่ว ในรัฐอาระกัน ได้รับความเสียหายจากเพลิงไหม้ ขณะที่สถานการณ์ขัดแย้งระหว่างชาวยะไข่และชาวโรฮิงยารอบล่าสุด ทำให้มีผู้อพยพอยู่ตามค่ายพักพิงในรัฐอาระกันอย่างน้อย 7 หมื่นคน

ภาพถ่ายผ่านดาวเทียม เมืองจ็อก ผิ่ว ในรัฐอาระกันเมื่อ 9 มีนาคม ปี 2555 ก่อนเหตุขัดแย้งระหว่างชาวโรฮิงยา และชาวยะไข่ (ที่มา: Human Rights Watch)

ภาพถ่ายผ่านดาวเทียมเมื่อ 25 ต.ค. ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นความเสียหายของชุมชนชาวโรฮิงยา หลังเกิดการลอบวางเพลิงเมื่อ 24 ต.ค. (ที่มา: Human Rights Watch)

 

เมื่อวันที่ 27 ต.ค. ที่ผ่านมา ฮิวแมนไรท์ วอทซ์ ซึ่งมีสำนักงานอยู่ที่นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เผยแพร่ภาพถ่ายจากดาวเทียมแสดงให้เห็นสิ่งก่อสร้างจำนวน 811 หลังบริเวณชายฝั่งทางตะวันออกของเมืองจ็อก ผิ่ว (Kyauk Pyu) ถูกทำลาย หลังมีการลอบวางเพลิงเมื่อวันที่ 24 ต.ค. โดยภาพถูกถ่ายจากดาวเทียมในวันที่ 25 ต.ค. โดยพื้นที่ซึ่งได้รับความเสียหายกินพื้นที่กว้าง 35 เอเคอร์ มีสิ่งก่อสร้าง 633 หลัง และมีเรือนแพ 178 หลัง และเรือที่พ่วงติดกันจำนวนหนึ่งได้รับความเสียหายทั้งหมด ทั้งนี้สื่อมวลชนและเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นระบุด้วยว่า ชาวโรฮิงยาในเมืองจำนวนมากต่างพากันหนีไปทางทะเลโดยไปขึ้นฝั่งที่เมืองซิต ตเหว่ เมืองหลวงของรัฐอาระกัน ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุไปทางทิศเหนือ 200 กิโลเมตร

ทั้งนี้หลังความขัดแย้งรอบแรกระหว่างชาวโรฮิงยา และชาวยะไข่ ในรัฐยะไข่หรือรัฐอาระกัน ปะทุขึ้นเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อวันที่ 21 ต.ค. ก็เกิดเหตุขัดแย้งรอบใหม่ขึ้นอีกระหว่างทั้งสองกลุ่ม โดยความรุนแรงดำเนินไปในเมืองมินบะยา, เมียวอู, มเย-บง, ระเตเดาก์ และจ็อก ผิ่ว โดยกรณีเป็นครั้งแรกที่เกิดความขัดแย้งขึ้นที่จ็อก ผิ่ว

นายฟิว โรเบิร์ตสัน (Phil Robertson) รองผู้อำนวยการด้านเอเชียของ ฮิวแมนไรท์ วอทซ์ กล่าวว่า "รัฐบาลพม่ามีความจำเป็นอย่างรีบด่วนที่จะรักษาความปลอดภัยให้กับชาวโรฮิงยา ในรัฐอาระกัน ซึ่งถูกโจมตีอย่างมุ่งร้าย" เขากล่าวด้วยว่า "ถ้าไม่อยากนั้นแล้ว เจ้าหน้าที่รัฐจะต้องเริ่มหาสาเหตุรากฐานที่ทำให้เกิดความรุนแรง ซึ่งดูเหมือนสถานการณ์จะยิ่งเลวร้ายลงกว่านี้"

จากข้อมูลของฮิวแมน ไรท์ ความรุนแรงที่เกิดขึ้นเมื่อมิถุนายนที่ผ่านมา ประกอบกับการที่รัฐบาลพม่ามีควบคุมการเข้าถึงความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้กับชุมชนชาวโรฮิงยาที่ต้องอพยพหลังเกิดความรุนแรง ทำให้มีชาวโรฮิงยาราว 104,000 คนจากตัวเลขขอฮิวแมนไรท์ วอทซ์ ต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนในเรื่องอาหาร ที่พัก และการดูแลสุขภาพ ขณะที่จากความรุนแงระลอกล่าสุดทำให้มีผู้อพยพภายในประเทศ (Internally displaced persons - IDP) แล้ว 75,000 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวโรฮิงยา และอาศัยในพื้นที่พักพิงชั่วคราว 40 แห่งในเมืองซิต ตเหว่ และเจาก์ตาว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net