ทุจริตสหกรณ์ฯแม่เปิน ความทุกข์ที่ต้องมีคนรับผิดชอบ

“สหกรณ์การเกษตร”นับเป็นสถาบันการเงินของรัฐที่ใกล้ชิดเกษตรกรมากที่สุด เพราะเป็นทั้งแหล่งเงินทุนและแหล่งเงินฝากที่สมาชิกสหกรณ์ที่จะได้ผลประโยชน์ดีกว่าธนาคารพาณิชย์ทั่วไป เกษตรกรส่วนใหญ่จึงเป็นสมาชิกสหกรณ์การเกษตรใกล้บ้าน  สหกรณ์ที่ดีก็มีมาก แต่กรณีสหกรณ์การเกษตรแม่เปิน จังหวัดนครสวรรค์ เป็นตัวอย่างของการบริหารงานที่ไม่โปร่งใส  มีการทุจริตภายในของเจ้าหน้าที่สหกรณ์ แต่ผู้เดือดร้อนกลับเป็นสมาชิกสหกรณ์หลายร้อยคนที่บางส่วนขายผลผลิตทางการเกษตรให้สหกรณ์แล้วยังไม่ได้รับเงินหรือได้รับไม่ครบ ขณะที่บางส่วนก็มีเงินฝากอยู่กับสหกรณ์ เมื่อเกิดปัญหาขึ้นจึงไม่แน่ใจว่าจะได้รับเงินของตนเองคืนหรือไม่ เมื่อไหร่ 

กรณีการทุจริตภายในสหกรณ์การเกษตรแม่เปิน จังหวัดนครสวรรค์ กลายเป็นข่าวระดับประเทศเมื่อมีเกษตรกรที่เดือดร้อนกว่า 333 คนตัดสินใจพากันเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนและขอความช่วยเหลือจาก พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการบริหารงานของสหกรณ์ ที่มีเจ้าหน้าที่สหกรณ์รับซื้อผลผลิตมันของชาวบ้านแต่ผ่านมานานชาวบ้านก็ยังไม่ได้รับเงินค่าผลผลิต  และมีพฤติกรรม บ่ายเบี่ยง ผัดผ่อน มาตลอดตั้งแต่ปี 2554 จนทนไม่ไหวและเป็นทุกข์มากเนื่องจากเกษตรกรส่วนใหญ่ต้องกู้ยืมเงินมาลงทุนการเกษตรเมื่อไม่ได้ค่าผลผลิตจึงไม่มีเงินไปชำระหนี้   รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้รับเรื่องและมอบหมายให้ศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้และประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม กระทรวงยุติธรรม (ศนธ.ยธ.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ ลงไปตรวจสอบทำความจริงให้ปรากฎ ลงโทษผู้กระทำผิดและช่วยเหลือชาวบ้านที่เดือดร้อน ซึ่งมูลค่าความเสียหายเฉพาะค่าพืชผลเกษตรที่ค้างอยู่รวมมากกว่า 44 ล้านบาท

ล่าสุดเมื่อกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมาทีมปฎิบัติการจาก ศนธ.ยธ. และ ดีเอสไอ  ได้ลงพื้นที่สอบสวนหาข้อเท็จจริง ผลการตรวจสอบพบว่า สมาชิกของสหกรณ์การเกษตรแม่เปิน จำนวน 1,209 คน ที่มีเงินฝากอยู่กับสหกรณ์แต่ไม่สามารถที่จะถอนเงินได้ คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท  สมาชิกอีก 15 ราย นำผลผลิตมันเส้นไปขายให้แก่สหกรณ์ คิดเป็นเงิน ประมาณ 1.041 ล้านบาท สหกรณ์ออกใบรับเงินให้ แต่เมื่อนำใบรับไปขอขึ้นเงินกับสหกรณ์ สหกรณ์ไม่มีเงินจ่ายให้ สมาชิกอีก 291 ราย นำมันเส้นไปขายให้แก่สหกรณ์เป็นเงินประมาณ 4.3 ล้านบาท สหกรณ์นำเงินเข้าบัญชีเป็นเงินฝาก แต่เมื่อสมาชิกไปขอเบิกเงินสหกรณ์ไม่มีเงินจ่ายให้ 

จากการสอบสวนพบด้วยว่า สหกรณ์การเกษตรแม่เปิน มีผลการดำเนินการขาดทุนมาโดยตลอดตั้งแต่ พ.ศ. 2552-2554 เป็นเงิน ประมาณ 40 ล้านบาท และเมื่อเดือนพฤษภาคม2554 สมาชิกสหกรณ์ผู้ได้รับความเสียหาย จำนวน 347 ราย ได้แจ้งความต่อสถานีตำรวจภูธรแม่เปิน ขอให้ดำเนินคดีฐานยักยอกทรัพย์ กับนายคุณยู้ พรมทา ประธานกรรมการสหกรณ์ และนางสาวสุธาสินี แสงศรี ผู้จัดการสหกรณ์ ในฐานะผู้กระทำในนามของสหกรณ์  ค่าเสียหายคิดเป็นเงินทั้งสิ้น 44,518,947.01 บาท ขณะนี้คดีอยู่ในระหว่างการส่งสำนวนให้พนักงานอัยการพิจารณา               ยิ่งไปกว่านั้นการสอบสวนพบด้วยว่า ขณะเป็นผู้จัดการสหกรณ์ นางสาวสุธาสินี  ได้นำมันเส้นที่สหกรณ์รับซื้อจากสมาชิกไปขาย แล้วโอนเงินที่ขายได้เข้าบัญชี ส่วนตัวของตนใน 2 ธนาคาร เป็นเงินกว่า 59 ล้านบาท              

นายนิธิต ภูริคุปต์ เลขานุการศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้ฯ ด้านปัญหาการไม่ได้รับความเป็นธรรม กล่าวว่า ข้อเท็จจริงจากการสอบสวนเห็นได้ชัดว่าเป็นปัญหาที่เกิดจากการทุจริตภายในสหกรณ์ของเจ้าหน้าที่สหกรณ์เอง ซึ่งการดำเนินการเอาผิดกับผู้ทุจริตทั้งทางแพ่งและทางอาญาเป็นเรื่องที่ดำเนินการไปตามกระบวนการยุติธรรมซึ่งต้องใช้เวลา แต่ปัญหาเฉพาะหน้ายังคงอยู่กับสมาชิกสหกรณ์ผู้เดือดร้อนที่ไม่รู้ว่าจะได้รับเงินคืนเต็มเม็ดเต็มหน่วยหรือไม่และเมื่อไหร่   ในบทบาทของกระทรวงยุติธรรมที่ได้ลงพื้นที่มานั้นไม่ได้มาเพื่อจับผิดใคร แต่มาอำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชนทั้งทางแพ่งและทางอาญา ในสิ่งที่เขาเดือดร้อนและได้ไปร้องเรียน เราจึงมาประสานความร่วมมือจากหน่วยงานที่รับผิดชอบในพื้นที่ เพื่อตรวจสอบรวบรวมหลักฐาน ดำเนินการให้ถูกต้องและเป็นธรรมกับผู้เดือดร้อน เช่น การจัดหาทนายความเพื่อช่วยในการฟ้องร้องต่อสู้คดี โดยขอรับการสนับสนุนจากกองทุนยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม

นางบัวผัน เกิดสวัสดิ์ และนางสวรรค์ วงนาค สมาชิกสหกรณ์การเกษตรแม่เปิน  เล่าว่าพวกตนเป็นสมาชิกสหกรณ์ฯตั้งแต่ปี 2546ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีปัญหาอะไร แต่เริ่มมีปัญหาปี 2552 เมื่อเอามันสำปะหลังไปขายแล้วไม่ได้รับเงินตามกำหนด โดยได้รับแจ้งว่าผลผลิตโดนตีกลับเพราะไม่ได้คุณภาพ ตอนนี้ในกลุ่มของพวกตนซึ่งมีอยู่กว่า 10 คน แต่ละคนมีเงินที่ค้างอยู่กับสหกรณ์รวมทั้งค่าผลผลิต  เงินค่าหุ้น และเงินฝากคนละเกือบ 1 แสนบาท   และตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้นเมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว ก็เริ่มไปขอความช่วยเหลือจากสถานที่ต่างๆ ไปกันมาเป็น10 ๆ ครั้งจนรู้สึกท้อกันหมดแล้ว แต่ที่ยังต้องสู้เพราะอยากได้เงินของเราคืน 

เช่นเดียวกับ นางสมพร แก้วสา บอกว่ามีเงินฝากอยู่ที่สหกรณ์ฯจำนวน 7 แสนกว่าบาทโดยได้ถอนจากธนาคารพาณิชย์ต่าง ๆ มาฝากไว้ที่สหกรณ์เนื่องจากใกล้บ้านและเห็นว่าเป็นหน่วยงานของรัฐ แต่เมื่อต้องการถอนเงิน เจ้าหน้าที่กลับแจ้งว่า สหกรณ์ไม่มีเงินจ่ายให้เนื่องจากสหกรณ์ขาดทุน เมื่อไปขอพบผู้จัดการ ก็พลัดผ่อนไปหลายครั้ง บอกว่าเอามันไปขายแล้วยังไม่ได้เงิน เลยไม่มีเงินให้ถอน จนเกิดเรื่องขึ้นก็ไปที่ศาลาว่าการจังหวัดนครสวรรค์เพื่อขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดช่วยเพราะพวกตนไม่มีความรู้  รู้สึกเหนื่อยมากๆเลย แต่ตอนนี้มีเจ้าหน้าที่จากศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้และดีเอสไอลงมาพื้นที่ก็ใจชื้น มีความหวังว่าอยากได้เงินคืนเพราะเป็นเงินที่หามาตลอดชีวิต

นางไพรินทร์ เจริญทวีทรัพย์  หัวหน้าสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์นครสรรค์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาไม่สามารถตรวจสอบบัญชีของสหกรณ์แม่เปินได้ เนื่องจากมีข้อบกพร่องทางการเงินการบัญชี ทำให้ผู้สอบบัญชีไม่สามารถตรวจสอบได้ จนนายทะเบียนสหกรณ์ออกเป็นหนังสือให้คณะกรรมการดำเนินการแก้ไข แต่จนถึงตอนนี้ก็ไม่สามารถแก้ไขข้อบกพร่องนั้นได้

ด้านนายประทวน มายูร ประธานสหกรณ์การเกษตรแม่เปิน จำกัด คนปัจจุบัน เล่าว่า ตั้งแต่ได้รับเลือกให้เป็นประธานสหกรณ์คนใหม่ ก็พบว่า จากการทุจริตที่ผ่านมาทำให้สหกรณ์ไม่มีอะไรเหลือเลย จึงพยายามรวบรวมเงินที่ยังพอมีอยู่ มาทำธุรกิจค้าทำมัน รวมทั้งไปขอให้สมาชิกเอามันสำปะหลังมาขายให้กับสหกรณ์เพื่อหารายได้เข้า เพราะฉะนั้นตอนนี้ สหกรณ์จึงมีธุรกิจ 2 ธุรกิจคือ รวบรวมผลผลิตทางการเกษตรและธุรกิจค้าน้ำมัน ทำให้มีรายได้เข้ามาบ้าง โดยปีที่แล้วได้กำไรประมาณ 6 แสน 3 หมื่นกว่าบาท ขณะเดียวกันได้ร่วมกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาชุมตาบง จัดทำแผนฟื้นฟูการบริหารจัดการสหกรณ์การเกษตรแม่เปินเพื่อให้สามารถดำเนินการได้ต่อไป ซี่งขณะนี้อยู่ระหว่างรอความเห็นชอบจาก ผู้บริหาร ธกส.สำนักงานใหญ่

“พยายามทำเต็มที่เพื่อให้พี่น้องมั่นใจว่าถ้าสมาชิกมีมันสำปะหลังมาขายที่สหกรณ์จะได้เงินแน่นอน ซึ่งขณะนี้สหกรณ์ใช้เงินที่มีอยู่ซื้อมันสำปะหลังเป็นเงินสดเพื่อให้เกษตรกรเชื่อมั่น  เพราะฉะนั้นสหกรณ์ฯจะอยู่ได้หรือไม่ได้ขึ้นอยู่กับสมาชิกสหกรณ์ฯของเราจะช่วยกันหรือเปล่า เพราะกำไรจากการรับซื้อผลผลิตสหกรณ์ก็จะนำกลับมาบริหารจัดการให้เกิดเงินทุนหมุนเวียนในสหกรณ์ต่อไป และตนขอสัญญาว่าจะมีความซื่อสัตย์ให้กับพี่น้องประชาชน เพื่อให้สหกรณ์อยู่ต่อไปได้”

นางอุมาพร แพรประเสริฐ ผู้อำนวยการส่วนช่วยอำนวยการและประชาสัมพันธ์ ในฐานะคณะทำงานของศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้ฯ กล่าวว่า อยากให้สหกรณ์ฯยังคงอยู่ กับพี่น้องประชาชน และอยากให้เกษตรกรที่เคยเป็นสมาชิกสหกรณ์การเกษตรแม่เปินติดตามการบริหารจัดการของสหกรณ์ หากเห็นว่าสหกรณ์สามารถดำเนินการได้ตามปกติแล้ว อยากให้เกษตรกรนำผลผลิตมาขายให้กับสหกรณ์ฯ เพื่อให้สหกรณ์ฯได้มีรายได้มาบริหารจัดการให้สหกรณ์ฯคงอยู่ต่อไปโดยหลักการสหกรณ์แล้วคือการร่วมกันเป็นเจ้าของ มีความเสมอภาค มีสิทธิ์มีเสียงเท่ากัน ผลกำไรนำมาแบ่งปันให้กับสมาชิก ดังนั้นขอให้ประสบการณ์ครั้งนี้เป็นบทเรียนครั้งสำคัญ โดยหลังจากนี้ถ้ามีข้อสังเกตที่ผิดปกติที่เกิดขึ้นกับสหกรณ์สมาชิกสหกรณ์ต้องท้วงติงทันที สมาชิกสหกรณ์ทุกท่านต้องเรียนรู้สิทธิของตนเองในการตรวจสอบ ท่านคือผู้ถือหุ้นของสหกรณ์มีสิทธิในการแสดงความคิดเห็นคนละ 1 เสียงเท่ากัน ดังนั้นจึงไม่ควรปล่อยให้คณะกรรมการสหกรณ์มีอำนาจตัดสินใจเพียงอย่างเดียวอย่างเช่นสหกรณ์แม่เปิน  ในส่วนของศูนย์ฯ เราจะช่วยอย่างเต็มที่โดยเฉพาะการตรวจสอบข้อเท็จจริงซึ่งได้คืบหน้าไปมาก ศูนย์ฯได้มีการติดต่อประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งตอนนี้หน่วยงานราชการไม่ได้ละเลยมีการประสานงานระหว่างกันเพื่อร่วมกันหาแนวทางในการช่วยเหลืออย่างเป็นระบบ  แต่อาจต้องใช้เวลาในการรวบรวมและสืบหาข้อเท็จจริง และที่สำคัญคือ ความร่วมมือจากสมาชิกสหกรณ์ฯทุกท่าน”

ทุกฝ่ายย้ำเป็นเสียงเดียวกันว่า สหกรณ์การเกษตรแม่เปิน จำกัด ต้องยังอยู่ต่อไป เพื่อจะได้ดำเนินธุรกิจหารายได้ต่อไป หากสหกรณ์ล้ม คนที่เสียประโยชน์คือชาวบ้านในพื้นที่เพราะสหกรณ์นั้นถือเป็นธุรกิจของคนในชุมชน จากประสบการณ์ที่ผ่านมาถือเป็นบทเรียนให้สมาชิกสหกรณ์เข้ามาตรวจสอบและใช้สิทธิที่มีกันอย่างเต็มที่ เพื่อทำให้สหกรณ์การเกษตรยังคงเป็นที่พึ่งของประชาชนต่อไป.

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท