Skip to main content
sharethis

"the highest form of ignorance is you reject something you don't know anything about"

Wayne Dyer

 

วลีนี้อาจเป็นข้อสรุปของปฏิกิริยาคนส่วนหนึ่งที่เห็นสิ่งที่เราทำนอกเหนือจากคนอีกส่วนหนึ่งที่ไม่ทราบจริงๆ

วันนี้มีอะไรมากมายเกิดขึ้นกับผมและทุกคนที่มีส่วนทำกิจกรรมนี้จนจบลง เป็นวันหนึ่งที่จะจดจำกับใครหลายคนแม้มีหลายคนพยายามลบจากใจพวกเรา รวมถึงลบการมีอยู่ของพวกเราที่ได้สิ่งนี้ในวันนี้ หากเราจำกันได้ หลังจากคำพิพากษาของชายผู้หนึ่งคือ สมยศ พฤกษาเกษมสุข ที่ต้องโทษถึง 11 ปีจากสิ่งที่เขาไม่ได้ทำเลยนั้น กลายเป็นความเงียบงันในหมู่คนส่วนใหญ่จากนั้นไม่นาน แต่มีคนทำให้ความเงียบงันมีเสียงออกมา นิติม่อนได้ทำสำเร็จอย่างงดงามที่เชียงใหม่ ถึงคราวของเราแล้วที่จะพยายามส่งเสียงไปถึงคนส่วนใหญ่ในกรุงเทพฯ ที่ๆเรื่องที่เราพยายามส่งเสียง ถูกกีดกัน ถูกบิดเบือน ถูกใส่ร้ายโดยไม่มีโอกาสให้คำพูดเรายืนอยู่ได้ แม้ต้องเกิดขึ้น เราจะทำและไม่มีอะไรต้องกลัวอีก

ผมลืมตาตื่นเช้ามา รีบพุ่งเปิดคอมพ์แล้วอาบน้ำระหว่างรอคอมพ์บู๊ตจนเสร็จ หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ผมรีบเสิร์จหาเพลงที่จะใช้กิจกรรมคือ one day more และ Do you hear the people sing? แต่เพลงที่สองมันโดนใจผมจนเรียนรู้เพลงนี้อย่างรวดเร็ว จนจำทำนอง การเปล่งคำในแต่ละท่วงทำนองได้ และทำการเปลี่ยนเนื้อหาบางส่วนในเพลงให้สอดคล้องกับสิ่งที่เราจะทำอีกด้วย

ผมเป็นหนึ่งในกลุ่มนักศึกษาที่จัดกิจกรรมรณรงค์เรื่องความเป็นธรรมของคุณสมยศ ในหัวข้อ "เสียดายที่คุณสมยศไม่ได้ไปงานบอลฯ" หลังจากเสร็จธุระ โดยสารเข้าเมือง ระหว่างทางก็เปิดเพลงฝึกจับจังหวะทำนองไปด้วย ผมยังเอาขนมที่เป็นธุรกิจครอบครัวไปสานสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานเฉพาะกิจนี้ด้วย ซึ่งเกือบทุกคนผมรู้จักมาก่อน พวกเราคือผลิตผลด้านกลับจากเหตุการณ์พฤษภาอำมหิตที่ไม่ยอมทนกับการเข่นฆ่าเพื่อรักษาอำนาจและความสามัคคีได้อีก จนผมมาถึงจุฬาฯตอนแปดโมงครึ่ง

มีบางส่วนที่มาถึงก่อนผมแล้ว หนึ่งในนั้นคือน้องไท ลูกชายของลุงสมยศและรุ่นน้องโรงเรียนมัธยมที่เดียวกับผม หลายคนทึ่งกับเพลงที่จะใช้ร้องระหว่างเดินรณรงค์ เราหวังอย่างดีว่า จะได้ร้องระหว่างเดินไม่ให้ดูเงียบเกินไป เวลาผ่านไป เพื่อนร่วมงานทยอยมาจนเกือบครบทีม เป็นทีมเสี่ยงตายเลยก็ว่าได้ เพราะเราเลือกเดินรณรงค์กับกิจกรรมที่ได้กลายเป็นอำนาจประเพณีสถาปนาที่มองว่ายิ่งใหญ่ แต่หลังๆผมและน้องๆหัวก้าวหน้าหลายคนมองมันราวกับเป็นของที่ค่อยๆหมดราคาลงเรื่อยๆ งานฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ ครั้งที่ 69 และเราอยู่ในดงฝ่ายขวาจัดรุ่นใหม่ที่เป็นผลิตผลของระบบการศึกษาแบบจารีตนิยม ถึงอย่างนั้นก็เถอะในท่ามกลางขวาจัดที่เป็นส่วนใหญ่ ยังมีหัวก้าวหน้าอย่างเพื่อนๆจุฬาฯของเรา กลุ่มประชาคมจุฬาฯเพื่อประชาชน ร่วมงานในฐานะกลุ่มพันธมิตรเฉพาะกิจกับเรากลุ่มธรรมศาสตร์เสรีเพื่อประชาธิปไตยมาร่วมงานกันครั้งนี้ด้วย แม้รู้ว่าจะต้องเจออะไร แต่เรายังหัวเราะได้ ถกเถียง เสียดสีเรื่องการเมืองในประเด็นที่คนส่วนใหญ่ไม่พูดกันอย่างไม่กลัวอะไร จนเวลาใกล้เข้ามา

ตามแผนของเรา กิจกรรมรอบเช้าคือร่วมเดินไปกับขบวนพาเหรดทางจุฬาฯ และเรายืนอยู่หน้าตึกคณะสถาปัตย์ฯ เรามองพวกเขาที่กำลังเดิน ขณะที่พวกเขาฟังคำพูดของน้องดิน ที่กำลังแผดเสียงบอกสิ่งที่เราทำในวันนี้ และมองที่พวกเรา มองป้ายที่เราเขียน ที่เต็มไปด้วยคำถาม คำเสียดสีต่อประเด็นกฎหมายมาตรา 112 นักโทษการเมือง คดีลุงสมยศ จากนั้นเราเดิน รวมความกล้าความใจเด็ด เดินร่วมกับขบวนพาเหรดจุฬาฯ และสิ่งที่เกิดขึ้นต่อจากนั้น บอกได้ว่าเหนือกว่าที่เราประเมินไว้ คือเราประเมินแล้วว่าต้องเกิด แต่มากกว่าที่เราวัดไว้ กลุ่มสต๊าฟคุมพาเหรดที่ขึงเชือกฟางล้อมขบวนพาเหรด ตลกนะ เดินพาเหรดที่ไหนเอาเชือกฟางมาล้อมด้วย ประสาท! แต่เราก็เดินแทรกเข้าไปในกลุ่ม แต่ก็ถูกกลุ่มสต๊าฟกันเราออกจากพาเหรด แต่เราไม่แคร์ เราไม่ได้หมายก่อกวน แต่เราต้องการส่งเสียงบอกถึงสิ่งที่คนอื่นไม่เคยรู้ หรือรู้แบบผิดๆนั้นได้รู้จากเรา ที่หลายคนเป็นสักขีพยานในห้องพิจารณาคดีวันนั้น และผมก็อยู่ที่นั้นด้วย

เราดันกับสต๊าฟ แม้เราไม่สามารถเดินร่วมกับขบวนพาเหรดได้ เราก็เดินบนฟุตบาทขนาบข้างไปกับพวกเขา ปฏิกิริยาของพวกเขาที่ผมเห็น มีทั้งงุนงง สงสัย รวมถึงแอบไม่พอใจลึกๆ หรือไม่พอใจ จะอ้างว่าไม่ได้ไม่พอใจก็ไม่อาจพูดได้ ถ้าเป็นเช่นนั้น จะกีดกันพวกเราตั้งแต่ประตูหลักจุฬาฯจนถึงหน้าทางเข้าสนามกีฬาฯทำไมล่ะ? แต่ในกลุ่มขบวนพาเหรดที่เดิน เราก็ทราบความคิดของบางคนในนั้น ต้องขอบคุณฝ้ายที่ช่วยทำให้เราได้ยินความคิดของพวกเขา มีบางคนทราบเรื่องลุงสมยศ แต่ไม่ทราบรายละเอียดอะไร ฝ้ายนอกจากทำข่าวพวกเราแล้วยังได้รวมความคิดของคนในขบวนพาเหรด สำหรับกลุ่มสต๊าฟคุมพาเหรด แม้มีหลายคนพยายามกีดกันเรา แต่ในหมู่พวกเขา มีบางคนกลับช่วยเราเวลาเราต้องไปงัดข้อกับ รปภ.และตำรวจ ผมบอกได้ว่า เราไม่อาจรู้อย่างลึกซึ้งจากสิ่งที่ได้ยินหรือได้เห็นไกลๆเท่ากับการเห็น ได้ยินและทำอย่างใกล้ชิดจนได้รับผลของมันเอง ในภาวะกดดัน ดินและไท เป็นสองคนที่ออกแรงมากที่สุด ผมสารภาพว่า แม้อายุมากกว่าพวกเขา แต่ใจไม่อาจสู้เท่าสองคนนั้นได้เลย เรียกว่าใจเด็ดกว่าผมอีก น่าอิจฉาจริงๆ

จนมาถึงหน้าประตูสนามกีฬาฯด้านหลัง เราส่งเสียงบอกผู้คน แต่มีเสียงของกองเชียร์เดวิลจุฬาฯส่งเสียงแทรกกลบเสียงพวกเรา หนำซ้ำยังร้องเพลงทำนองจิกกัดพวกเราว่าเกรงใจกันหน่อย ให้ตาย ถ้าพวกเขารับรู้เรื่องราวเท่าพวกเรา พวกเขาก็คงไม่ทำแบบนั้นหรอก

จากนั้นพวกเราหลบจนขบวนเข้าเขตสนามกีฬาฯไปหมดแล้ว ถือว่าผ่านไปด้วยดีโดยไม่มีการกระทบกระทั่งถึงขั้นทำร้ายร่างกาย แต่สงครามจิตวิทยาระหว่างเรากับเขา ดุเดือดตลอดเส้นทาง

พวกเราสรุปงานกันที่มาบุญครอง ซึ่งเป็นไปตามที่ผมเขียน เราดีใจและยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น ระหว่างนั้นผมขอแยกตัวจากน้องๆไปทำธุระที่พญาไทก่อนที่จะกลับมาที่สยามอีกครั้ง และไปพบกับพวกเขาตอนบ่าย มีอะไรหลากอารมณ์เยอะ

ผมตัดมาช่วงบ่ายที่สนามศุภชลาศัยเลยดีกว่า พวกเราแบ่งออกเป็นสองทีม ผมกับน้องส่วนหนึ่งจัดการผ้าใบสีดำขนาดใหญ่ ต้องขอบคุณพี่ๆ จาก Try arm สำหรับผ้าใบและกลุ่ม 24 มิถุนาฯสำหรับเสื้อกิจกรรมที่เราใส่ อีกกลุ่มหนึ่ง เดินถือป้ายรณรงค์รอบภายนอกสนามกีฬาฯ จนใกล้ช่วงพาเหรดเข้าสนาม เราทุกคนมาประจำที่สแตนด์บริเวณตรงกลางที่อัฒจันทร์ในร่มเห็น แต่ติดที่กองสันฯมธ.มาทับซ้อนพื้นที่กิจกรรม ซึ่งเป็นเรื่องที่หลีกไม่ได้อยู่แล้ว เราจะใช้คนที่นั่งอัฒจันทร์ช่วยถือผ้าใบให้สั้นๆ จนผ่านขบวนการล้อการเมืองมธ.สุดแสนเบาบาง จนไม่น่าเรียกว่าล้อการเมืองเลย จนได้เวลา ไทและกั๊กร้องขอกับกองสันฯประกาศสิ่งที่จะทำคือการคลี่ผ้าใบ อย่างที่เห็นในภาพข่าวไปแล้วน่ะครับ เราคลี่ผ้าใบเป็นเวลา 1 นาที มันยาวนานสำหรับผมมาก


เรากางจนกระทั่งมีชายสูงวัยท่านหนึ่งรี่เดินเข้ามา พร้อมกับดึงผ้าเพื่อปลดจากมือน้องในมุมผ้าอีกด้าน น้องที่ช่วยผมถือพูดถึงขนาดว่า นี่แหละที่ผมกลัวพี่ ความคลั่งที่ทำโดยปราศจากการคุยด้วยเหตุผล แบบนี้อยู่กันยากเกินกว่าจะเป็นไปได้แล้ว เมื่อเห็นว่ามีคนพยายามขัดขวางและเสียงที่ไม่สนใจใยดีจากผู้ประกาศฝั่งอัฒจันทร์ในร่ม พวกเรารีบเก็บ ขอบคุณและขอโทษทั้งกองสันฯและผู้ชมในสแตนด์ด้านที่เรายืน กิจกรรมภาคบ่ายผ่านไปได้ และภาพข่าววันนี้กลายเป็นแรงสะเทือนที่จะเป็นที่จดจำในประวัติศาสตร์ฟุตบอลประเพณี แน่นอนว่าคงมีหลายคนจะไม่พูดถึง ผมบอกได้เลยว่า ไม่มีทางหรอก!! เราสรุปงานและดูผลตอบรับจากภาพข่าวนี้ด้วย มีทั้งบวกและทั้งลบ และด่าสาปแช่ง ด้วยประโยคสุดล้าหลังที่ไม่คิดสรรหาคำที่ก้าวหน้ากว่านี้พูดบ้างเลยเหรอไง

เป็นกิจกรรมที่เราทำได้ และเราต้องทำให้ได้ดีมากยิ่งขึ้น มันเพิ่งเริ่มต้น สังคมไทยอันคับแคบเอย เราเห็นความพยายามของคนที่ไม่ต้องการให้ใครเห็น คนที่ไม่รู้แล้วได้เห็น คนที่สนใจ ไม่ว่าจะเป็นยังไง พวกเราทำเพราะเรามีเจตจำนงร่วมกันไงล่ะ ขอบคุณตัวเอง และน้องๆผองเพื่อนกลุ่มประชาคมจุฬาฯเพื่อประชาชมและกลุ่มธรรมศาสตร์เสรีเพื่อประชาธิปไตยที่ตัดสินใจอย่างหาญกล้าฝ่าฟันจนผ่านวันนี้ไปได้

ร่วมกันสู่ชัยชนะ!!

 



 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: นักกิจกรรมจุฬา-ธรรมศาสตร์ สวมหน้ากาก “สมยศ” โผล่พาเหรดร่วมงานบอลประเพณี

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net