เมื่อตำรวจสตูลซ้อมปราบจลาจล รับมือกลุ่มค้านแลนด์บริดจ์ - ฤารัฐจะซ้ำรอยท่อก๊าซไทย-มาเลย์?

หลัง ครม. มีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ. กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ซึ่งตามแผนจะมีโครงการแลนด์บริดจ์ สงขลา-สตูลด้วย และเตรียมเข้าสู่การพิจารณาของสภา ทำให้ชาวบ้านเตรียมเคลื่อนไหวใหญ่เพื่อคัดค้าน ด้านตำรวจ จ.สตูล จัดซ้อมใหญ่ปราบจลาจล ผกก.สตูล ยันเป็นการฝึกตามวงรอบ ขณะที่หลายเสียงหวั่นเป็นการเขียนเสือให้วัวกลัว-หวังขู่ฝ่ายคัดค้าน

19 มี.ค. 56 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ให้อำนาจกระทรวงการคลังเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ พ.ศ. ... (พ.ร.บ.กู้เงินฯ) ซึ่งกำหนดกรอบการกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท กรอบยุทธศาสตร์การเบิกใช้เงิน พร้อมทั้งหลักเกณฑ์การชำระหนี้ให้หมดสิ้นภายใน 50 ปี

บัญชีท้ายร่างพระราชบัญญัติ ฯ ระบุถึงยุทธศาสตร์ปรับเปลี่ยนรูปแบบการขนส่งสินค้าทางถนนสู่การขนส่งที่มีต้นทุนต่ำกว่า วงเงิน354,560.73 ล้านบาท แผนงานพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อสนับสนุนการขนส่งสินค้าทางลำน้ำ และชายฝั่ง เพื่อประโยชน์แก่การขนส่งสินค้า ทั้งภายในและระหว่างประเทศ

ในแผนงานดังกล่าว ระบุถึงโครงการสะพานเศรษฐกิจ (แลนด์บริดจ์) สงขลา-สตูล อันประกอบด้วย 3 โครงการย่อย คือ ท่าเรือน้ำลึกปากบารา ตำบลปากน้ำ อำเภอละงู จังหวัดสตูล ระยะที่ 1 วงเงิน 11,786.76 ล้านบาท ท่าเรือน้ำลึกสงขลา 2 ตำบลนาทับ อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา วงเงิน 3613.87 ล้านบาท ซึ่งกรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม รับผิดชอบดำเนินการ และโครงการก่อสร้างก่อสร้างทางรถไฟเชื่อมระหว่างท่าเรือน้ำลึกสงขลา 2 กับท่าเรือน้ำลึกปากบารา ระยะที่ 1 วงเงิน 46,963.27 ล้านบาท ซึ่งสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร กระทรวงคมนาคม (สนข.) และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เป็นหน่วยงานดำเนินการ

โดยร่างพระราชบัญญัติให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ พ.ศ... (พ.ร.บ.กู้เงินฯ) จะนำเข้าสู่การประชุมนัดพิเศษ ของสภาผู้แทนผู้แทนราษฎร ในวันที่ 28 มี.ค. 56 เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติฯ ตามที่คณะรัฐมนตรีเสนอ

21 มี.ค. 56 ที่ศาลากลางจังหวัดสตูล ชาวบ้านในครือข่ายประชาชนติดตามแผนพัฒนาจังหวัดสตูล จากอำเภอละงู จังหวัดสตูล รวมถึงชาวบ้านจากอำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ประมาณ 50 คน ได้ยื่นหนังสือคัดค้านโครงการสะพานเศรษฐกิจ (แลนด์บริดจ์) สงขลา-สตูล ในร่างพระราชบัญญัติให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของประเทศ พ.ศ. ...  ถึงนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผ่านนายเหนือชาย จิระอภิรักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล

หลังจากนั้นได้เปิดแถลงข่าวถึงแนวทางเคลื่อนไหวว่า วันที่ 27 มี.ค. 56 เครือข่ายภาคประชาชนภาคใต้ จะประชุมหารือกำหนดแนวทางการเคลื่อนไหวกรณีที่เมกะโปรเจ็กต์ในภาคใต้ถูกบรรจุในร่างพระราชบัญญัติให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของประเทศ พ.ศ. ... จำนวน 2 ล้านล้านบาทของรัฐบาล ที่จังหวัดสงขลา ขณะที่ในวันเดียวกันนั้น จะมีการเคลื่อนไหวในอำเภอละงู จังหวัดสตูล เพื่อต้องการส่งสัญญาณถึงรัฐบาลก่อนมีการนำร่างพระราชบัญญัติฯ เข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 28 มี.ค. 56

ที่มาภาพ: Songtai News

 

22 มี.ค. 56 เวลา 19.51 น. มีข่าวพาดหัว ‘ตร.ต้านม๊อบท่าเรือฯ หนึ่งในแผนควบคุมเหตุชุมนุม’ โดยมีคำโปรยว่า ‘ตำรวจชุดปราบจราจลต้านม๊อบท่าเรือฯ หนึ่งในแผนควบคุมเหตุชุมนุม’ ปรากฏที่เว็บไซต์สำนักข่าวท้องถิ่น ‘ส่องใต้(สตูล)’

ต่อมาเวลา 22:44 น. ที่เว็บไซต์สำนักข่าวผู้จัดการ มีพาดหัวข่าว ‘ตร.สตูล งัด “ชุดปราบจลาจลต้านม๊อบท่าเรือปากบารา” แสดงศักยภาพคุมเหตุ’ ตามด้วยคำโปรย ‘ตร.สตูล จำลองเหตุการณ์สลายกลุ่มผู้ชุมนุมคัดค้านโครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือน้ำลึกปากบารา ซึ่งเป็นประเด็นร้อนของจังหวัด โดยใช้ยุทธวิธีจากเบาไปหาหนัก ด้าน ผบก.ภ.จว.สตูล เผยเตรียมส่งเข้าประกวดในระดับภาค 9 เพื่อแสดงถึงความจริงจังในทุกขั้นตอนของการใช้ยุทธวิธี’

หากมองจากลำดับปรากฏการณ์เหมือนมีนัยยะเพื่อส่งสัญญาณอะไรบางอย่างกับม็อบท่าเรือน้ำลึกปากบาราที่กำลังคุกรุ่นด้วยการตกอยู่ภายใต้แรงบีบจากพระราชบัญญัติเงินกู้ 2 ล้านล้านบาท อีกทั้งข่าวทั้ง 2 ข่าว ระบุว่า จำลองสถานการณ์ปะทะกับม็อบท่าเรือน้ำลึกปากบาราที่มีพฤติกรรมแข็งกร้าว โดยการนำถุงน้ำแดง และสิ่งของขว้างปาใส่เจ้าหน้าที่ที่เข้าควบคุมเหตุ ก่อนที่จะมีการปะทะกัน โดยเจ้าหน้าที่ชุดปราบจลาจลได้ใช้โล่มาเป็นกำบัง จากนั้นเพิ่มความเข้มข้นโดยการใช้น้ำฉีดควบคุมเหตุ และแก๊สน้ำตา ซึ่งเป็นยุทธวิธีจากเบาไปหาหนักในการสลายม็อบที่มีพฤติกรรมรุนแรงขึ้น

ภาพจึงออกมาในบริบทการเขียนเสือให้วัวกลัว เพื่อแสดงว่ากองกำลังพร้อมแล้วที่จะรับมือกับม็อบ จนเป็นกระแสของคนที่สนใจด้านสิทธิชุมชน สิทธิมนุษยชน ในโลกสังคมออนไลน์ (เฟสบุค) วิพากษ์วิจารณ์ตำรวจในด้านลบ

ขณะที่ก่อนหน้านั้นเมื่อวันที่ 11 มี.ค. 56  ‘ตร.ใต้ตบเท้าฝึกทบทวนการควบคุมฝูงชน’ พาดหัวข่าวของเว็บไซต์สำนักข่าวท้องถิ่น ‘ส่องใต้(สตูล)’ ระบุว่า ตำรวจภูธรภาค 9 เรียกกำลังพลจาก ตำรวจภูธรจังหวัด สงขลา สตูล พัทลุง ตรัง ร่วม 4 กองร้อยเข้าร่วมกันฝึกควบคุมฝูงชน ปราบจลาจล ที่สนามสระบัว ตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา เพื่อซักซ้อมกำลังพลให้อยู่ในความพร้อมตลอดเวลา หากจะต้องมีการเผชิญเหตุ หรืออยู่ในสถานการณ์ที่บ้านเมืองกำลังวุ่นวายหรือสงบ กำลังชุดควบคุมฝูงชนจะต้องพร้อม ณ ที่ตั้งทั้งบุคลากรและอาวุธ หลังมีการฝึกควบคุมฝูงชนรวมกันจะให้ตำรวจภูธรชุดปราบจลาจลและควบคุมฝูงชนแต่ละจังหวัดกลับมาฝึกฝนและทบทวนการเผชิญเหตุ โดยการจำลองเหตุการณ์ขึ้นในจังหวัดของตนอีกครั้ง

“เป็นแค่แผนการฝึกซ้อมการปราบจลาจลที่มีการฝึกกันทุกจังหวัดทั่วประเทศ ตามโครงการฝึกอบรมทบทวนกองร้อยควบคุมฝูงชน ของพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ”

พล.ต.ต.สมควร คัมภีระ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสตูล ซึ่งเป็นประธานในการฝึกซ้อมชุดปราบจลาจล 1 กองร้อย จำนวน 200 นาย ระหว่างวันที่ 21-22 มี.ค. 56 ที่วิทยาลัยการเกษตรและเทคโนโลยีจังหวัดสตูล ชี้แจง

พล.ต.ต.สมควร อธิบายว่า เมื่อมีโครงการฝึกอบรมทบทวนกองร้อยควบคุมฝูงชนทุกจังหวัดทั่วประเทศ ต่อมาจึงได้เกิดแนวคิดการแข่งขันในโครงการผู้บังคับการตำรวจเข้มแข็ง ซึ่งจังหวัดสตูลส่งเข้าประกวดในระดับภาค 9 ด้วย ส่วนการฝึกซ้อมชุดปราบจลาจลนั้น ได้ฝึกตามกระบวนการ และขั้นตอนปกติ สำหรับการฝึกซ้อมชุดปราบจลาจลนั้น ตำรวจทุกจังหวัดมีการฝึกทบทวนปีหนึ่ง 2-3 ครั้ง ฝึกให้ตำรวจมีความเข้มแข็ง มีความเป็นมืออาชีพ อำนวยความเป็นธรรมให้แก่ประชาชนเพื่อให้ประชาชนรัก

“การควบคุมฝูงชนเป็นหน้าที่ของตำรวจเพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวาย เดือดร้อนผู้อื่น เช่น การปิดตายถนนตำรวจก็ต้องเข้าไปเจรจาให้เปิดทาง ชาวบ้านมีสิทธิชุมนุมโดยสงบได้ตามสิทธิแห่งรัฐธรรมนูญ ตำรวจใช่จะไล่ทุบตีชาวบ้านโดยไม่มีเหตุผล ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ แต่หากเกิดความวุ่นวายขึ้นมาเป็นธรรมดาในการระดมกำลังตำรวจจากจังหวัดใกล้เคียงมาปฏิบัติหน้าที่ในการควบคุมม็อบ อย่างตอนกรณีท่อก้าซไทย-มาเลย์ ตำรวจสตูลก็ไปช่วย”

พล.ต.ต.สมควร บอกถึงหลักการในการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ พร้อมทิ้งท้ายว่า ถ้าหากมีเวลาอยากจะคุยกับกลุ่มคัดค้านท่าเรือน้ำลึกปากบาราว่า ประท้วงไม่ให้สร้างกันด้วยเหตุผลอะไร เดือดร้อนอย่างไร อะไรคือปัญหา

 

ขณะที่นายวิโชคศักดิ์ รณรงค์ไพรี คณะทำงานเครือข่ายประชาชนติดตามแผนพัฒนาจังหวัดสตูล ชาวอำเภอทุ่งหว้า จังหวัดสตูล หนึ่งในแกนนำคัดค้านท่าเรือน้ำลึกปากบารา ในโครงการแลนด์บริดจ์สงขลา-สตูล ได้กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมของตำรวจจังหวัดสตูล ในการฝึกอบรมทบทวนกองร้อยควบคุมฝูงชน เพื่อส่งเข้าประกวดในโครงการผู้บังคับการตำรวจเข้มแข็ง ในระดับภาค 9 ซึ่งเป็นการฝึกซ้อมตามปกติของตำรวจสตูล และไม่ได้กังวลตำรวจชุดปราบจลาจลเนื่องจากการคัดค้านท่าเรือน้ำลึกปากบารา และโครงการที่เกี่ยวข้องยืนตามหลักสิทธิตามรัฐธรรมนูญ

นายวิโชคศักดิ์ ค่อนข้างกังวลถึงข่าว ‘ตำรวจสตูลงัดชุดปราบจลาจลต้านม๊อบท่าเรือปากบาราแสดงศักยภาพคุมเหตุ’ ว่า อาจมีผู้สนับสนุนท่าเรือน้ำลึกปากบาราหยิบนำเอากระแสข่าวไปเสี้ยมให้ชาวบ้านเคียดแค้นตำรวจเพื่อให้เกิดการปะทะ ซึ่งอาจนำไปสู่เหตุการณ์บานปลาย รวมถึงการนำข่าวไปจับแพะชนแกะแอบอ้างเพื่อให้ชาวบ้านเข้าใจว่าท่าเรือน้ำลึกปากบาราได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีให้ก่อสร้างได้แล้ว ทั้งที่โครงการฯ ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ตั้งแต่ขั้นตอนแรกในการศึกษารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และสุขภาพ (EHIA)

“เป็นผลจากพลังชาวบ้านที่เข้มแข็งทำให้เมื่อวันที่ 20 ก.ย. 2555 สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ได้มีหนังสือถึงเครือข่ายประชาชนติดตามแผนพัฒนาจังหวัดสตูล และกรมเจ้าท่า เรื่องขอให้ยกเลิกรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) โครงการท่าเรือน้ำลึกปากบารา และให้ดำเนินการตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2550 มาตรา 67 วรรค 2 เนื่องจากเข้าข่าย 1 ใน 11 โครงการที่ส่งผลกระทบรุนแรง หากกรมเจ้าท่าจะดำเนินการโครงการท่าเรือน้ำลึกปากบาราต่อ จะต้องทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และสุขภาพ (EHIA)”

นายวิโชคศักดิ์ บอกถึงขั้นตอน กระบวนการของท่าเรือน้ำลึกปากบาราที่ต้องเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ อีกทั้งกระบวนการเพิกถอนพื้นที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา 4,734 กว่าไร่ เพื่อสร้างท่าเรือน้ำลึกปากบารา ซึ่งยังไม่ได้รับอนุญาตจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

ด้วยเหตุนี้นายวิโชคศักดิ์ และชาวบ้านจึงกังวลว่า โครงการสะพานเศรษฐกิจ (แลนด์บริดจ์) สงขลา-สตูล ที่เป็นส่วนหนึ่งของร่างพระราชบัญญัติให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของประเทศ พ.ศ. ...  (พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท) ละเมิดรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 ทั้งการว่าด้วยสิทธิชุมชน ตามมาตรา 66 และ 67 วรรค 2 รวมถึงกระบวนการมีส่วนร่าวของภาคประชาชน เพราะพระราชบัญญัติเงินกู้ 2 ล้านล้านบาท มีลักษณะอนุมัติเงินล่วงหน้า และชี้นำการศึกษารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และสุขภาพ (EHIA) อีกทั้งเป็นการบีบกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เพิกถอนพื้นที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา 4,734 กว่าไร่ เพื่อสร้างท่าเรือน้ำลึกปากบารา

 

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 2 ก.ค. 53 ชาวบ้านในเครือข่ายประชาชนติดตามแผนพัฒนาจังหวัดสตูล ชมรมประมงพื้นบ้านจังหวัดสตูล ประมาณ 500 คน เดินทางไปยื่นหนังสือคัดค้านการก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกปากบารา และโครงการต่อเนื่อง ถึงนายอภิสิทธิ์ เวชอาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ผ่านนายสุเมธ ชัยเลิศวณิชกุล อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ต่อมาได้มีการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง

 

แฟ้มภาพ

27 มี.ค. 56 ที่อำเภอละงู จังหวัดสตูล จะมีการเคลื่อนไหวเพื่อต้องการส่งสัญญาณถึงรัฐบาลสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ก่อนมีการนำร่างพระราชบัญญัติฯ เข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร 1 วัน

28 มี.ค. 56 สภาผู้แทนผู้แทนราษฎร จะมีการประชุมนัดพิเศษเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติให้อำนาจกระทรวงการคลังเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ พ.ศ. ... (พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท) ตามที่คณะรัฐมนตรีเสนอ

และปลายเดือนเมษายน 2556 นี้ จะมีการระดมพลเครือข่ายภาคประชาชนในจังหวัดสตูล และภาคใต้ เพื่อชุมนุมใหญ่คัดค้านแลนด์บริดจ์สงขลา-สตูล กันที่จังหวัดสตูล

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท