Skip to main content
sharethis

ชาวบ้าน อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ร้องเรียนได้รับผลกระทบและได้รับความเดือนร้อนจากโครงการขุดลอกห้วยระวี โดยมีกรมทรัพยากรน้ำเป็นผู้รับผิดชอบโครงการ เผยการขยายลำห้วยทับที่ดินของประชาชน 

 
 
 
 
 
 
เมื่อวันที่ 29 มี.ค. 56 ที่ผ่านมานักข่าวพลเมืองประจำ จ.สุรินทร์ ได้รับการร้องเรียนจากราษฏรบ้านเฉนียง ต.บะ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ว่าได้รับความเดือนร้อนจากการขุดลอกห้วยระวี มีการขุดลอกรุกที่นาขอชาวบ้านกว่า 30 ราย นอกจากนี้ยังมีราษฏร ต.หนองเมธี อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ได้รับผลกระทบอีกเป็นจำนวนมาก จึงได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้องเท็จจริง พบว่า โครงการขุดลอกห้วยระวี ตลอกแนวลำห้วย จากบ้านเฉนียง ม.8 ยง ต.บะ อ.ท่าตูม ไปจนถึงเขตท้องที่ของอำเภอเมืองสุรินทร์ โดยมีกรมทรัพยากรน้ำเป็นผู้รับผิดชอบโครงการ และมี หจก.สินเจริญสนม เป็นผู้รับจ้าง จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีชาวบ้านได้รับผลกระทบและได้รับความเดือนร้อน เพราะมีการขยายลำห้วยทับที่ดินของราษฏรจริง
 
นางพรนภา แก้วกล้า อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3 ม.8 บ้านเฉนียง ต.บะ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ กล่าวว่า พวกเราไม่อยากต่อสู้กับทางการ เพราะรู้ว่าต่อสู้ไปก้ไม่มีทางชนะ แต่ก็ต้องสู้เพราะทางการมาเอาที่ดินของพวกเราไปหมด แล้วพวกเราจะมีที่ดินที่นาที่ไหนไวทำมาหากิน เมื่อมาขุดลอกลำห้วยระวีทับที่นาของพวกเรา ก็น่าจะมีการจ่ายค่าชดเชยเป็นค่าเวนคืนที่ดินให้พวกเราบ้าง
 
นายรมย์ ซ่อนกลิ่น อายุ72 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20/1บ้านเฉนียง ต.บะ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ กล่าวว่า การขุดลอกลำห้วยระวี ผู้รับเหมาได้ขุดดินขึ้นมาทิ้งบนที่นาและโค่นต้นไม้ออกไปหมดเลย ทั้งที่ที่นาของชาวบ้านมีกรรมสิทธิ์ถือครองเป็นโฉนดที่ดิน และ นส.3 กันทุกคน ทำไมทางการและผู้รับเหมามาทำร้ายและรักแกชาวบ้านกันอย่างนี้ แถมยังมีพระครูสุขุมธรรมโชติ หรือหลวงพ่อชื่น เจ้าอาวาสวัดศรีสว่างทุ่งโก ต.หนองเมธี อ.ท่าตูม มาคอยดูแลและบ่งการการขุดลอกลำห้วยระวี ถ้ามีการรุกที่ชาวบ้าน หลวงพ่อชื่นจะเป็นคนมาเคลียร์เอง ส่วนต้นไม้ที่ถูกตัดบนที่นาของชาวบ้านก็ขนเอาไปไว้ที่วัดเกือบหมด อยากถามว่า พระมายุ่งเกี่ยวอะไรด้วยกับเรื่องนี้ มันไม่ใช่กิจของสงฆ์
 
จากนั้นชาวบ้านผู้ได้รับความเดือนร้อนและผลกระทบจากการขุดลอกลำห้วยระวี  ได้พาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจความเสียผืนนาที่ถูกบุกรุก มีพื้นที่ประมาณ 300 ไร่ ตลอดแนวลำห้วยระวี พบต้นไม่ถูกตัดโค่นโล่งเตียน มูลดินที่เกิดจากการลอกลำห้วยระวีถูกนำมาทิ้งบนที่นาของชาวบ้านตลอดแนว
 
 นางสำรวย ลักขษร อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16 ม.8 บ้านเฉนียง ต.บะ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ กล่าวว่า แต่เดิมตนมีที่นาติดลำห้วยระวี จำนวน 6 ไร่ พอมีโครงการขุดลอกลำห้วยระวีขึ้นมา ที่นาของตนจำนวน 6 ไร่กลับหายไปหมด และตนจะเอาที่นาที่ไหนมาทำมาหากิน ทางการจะช่วยพวกเราได้อย่างไร
 
(การกราบไหว้ของชาวบ้านต่อพระแม่ธรณีบนผืนนาของตนเองแล้วพูดเป็นภาษาเขมร แปลความได้ว่า หลวงมาเอาที่นาของพวกตนไปหมด แล้วจะเอานาที่ไหนมาทำกิน)
 
ที่วัดศรีสว่างทุ่งโก ต.หนองเมธี อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ซึ่งมีป้ายติดบนศาลาการเปรียญ มีข้อว่า “สำนักงานสนามโครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำห้วยระวี” ซึ่งผู้ดูแลสำนักแห่งนี้คือ พระครูสุขุมธรรมโชติ หรือหลวงพ่อชื่น เจ้าอาวาสวัดศรีสว่างทุ่งโก พบว่ามีกองไม้จำนวนมากตรงตามที่ชาวบ้านบอกทุกประการ ขณะที่หลวงพ่อชื่นกลับไม่อยู่ภายในวัดและไม่มีเจ้าหน้าที่สำนักงานสนามโครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำห้วยระวีอยู่แม้แต่คนเดียว มีเพียงพระลูกวัด 2-3 รูป จากการสอบถามก็ไม่มีใครทราบว่าหลวงพ่อชื่นไปไหน
 
นายทรงพล อารมณ์ชื่น ปลัดอาวุโสอำเภอท่าตูม กล่าวว่า ตามที่ราษฏรบ้านเฉนียง ต.บะ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ มาร้องเรียนว่าได้รับความเดือนร้อนจากการขุดลอกห้วยระวี ซึ่งมีการขุดลอกรุกที่นาขอชาวบ้านกว่า 30 ราย อำเภอลงพื้นที่ตรวจสอบแล้วพบว่ามีการรุกล้ำที่นาของชาวบ้านจริง โดยมีกรมทรัพยากรน้ำ เป็นผู้รับผิดชอบโครงการ และมี หจก.สินเจริญสนม เป็นผู้รับจ้าง ในวงเงินงบประมาณ 246 ล้านบาท และได้มีการเจรจาไกล่เกลี่ยโดยผู้รับจ้าง ยินดีที่จะนำดินบริเวณที่ทับที่ดินของราษฏรออกให้ แต่ราษฏรไม่ยินยอม และขอให้มีการชดเชยเป็นค่าเสียหายแทน เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือนร้อนของราษฏร จึงขอให้สำนักทรัพยากรน้ำภาค 5จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่สุรินทร์ ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงและแก้ปัญหาให้ราษฏรโดยด่วนต่อไป

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net