Skip to main content
sharethis
 
17 เม.ย.56 – นายธีรชาติ แก้วขาว อายุ 46 ปี ชาวบ้าน ต.บะ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ กล่าวหลังได้เข้าแจ้งความที่ สภ.ท่าตูมว่า พบกับกองไม้ขนาดใหญ่กว่า 50 ต้น อยู่ภายในวัดศรีสว่างทุ่งโก ต.หนองเมธี อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ โดยไม้ดังกล่าวเป็นไม้ที่ได้นำมาจากการขุดลอกลำห้วยระวี เขต ต.บะ และ ต.หนองเมธี อ.ท่าตูม จึงมาแจ้งความที่โรงพักเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง
 
นายธีรชาติ ระบุว่า จากสอบถามชาวบ้านได้ความว่าไม้ทั้งหมดเป็นของ พระครูสุขุมธรรมโชติ หรือหลวงตาชื่น เจ้าอาวาสวัดศรีสว่างทุ่งโก ซึ่งชาวบ้านได้เคยร้องเรียนขอความเป็นธรรมกรณีโครงการขุดลอกลำห้วยระวีรุกที่นาชาวบ้านในพื้นที่บ้านเฉนียง ต.บะ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ กว่า 30 ราย เนื้อที่กว่า 300 ไร่ แต่หลวงตาชื่นได้เข้าไปในพื้นที่ขุดลอกลำห้วยคอยเกลี้ยกล่อมและข่มขู่ชาวบ้าน โดยอ้างว่าโครงการดังกล่าวเป็นโครงการเพื่อมาพัฒนาหมู่บ้าน
 
ทั้งนี้ ชาวบ้านมีการตั้งข้อสังเกตว่า เบื้องหลังของกรณีดังกล่าวพัวพันกับนักการเมืองในพื้นที่ ส่วนผลประโยชน์ที่หลวงตาชื่นได้รับคือต้นไม้ที่โค่นล้มจำนวนมาก ซึ่งหากมีใครโวยวายก็จะจ่ายเงินบ้างเล็กน้อย แต่หากใครอ่อนแอก็จะยึดเข้าวัดโดยอ้างว่าเอาไม้มาทำกุฏิ ทำศาลา โดยหลวงตาชื่นจะทำตัวเหมือนโฟร์แมน ทั้งเซ็นบิลน้ำมัน ฉีกตั๋วน้ำมัน เซ็นเงินเดือนคนงาน ทำหน้าที่ทุกอย่าง และการดูแลเรื่องไซด์งานตลอดลำห้วย ชาวบ้านมักเห็นว่าหลวงตาชื่นจะเดินคุมงานตลอดไซด์งานและพื้นที่ที่ทำการก่อสร้างทั้งหมด ดูแลเรื่องต้นไม้ เรื่องถนนหนทาง
 
ด้านนายรมย์ ซ่อนกลิ่น อายุ 72 ปี ชาวบ้าน ต.บะ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ กล่าวว่า การขุดลอกลำห้วยระวี ผู้รับเหมาได้ขุดดินขึ้นมาทิ้งบนที่นาและโค่นต้นไม้ออกไปหมดเลย ทั้งที่ชาวบ้านมีกรรมสิทธิ์ถือครองเป็นโฉนดที่ดิน และ นส.3 กันทุกคน ทำไมทางการและผู้รับเหมามาทำร้ายและรักแกชาวบ้านกันอย่างนี้ แถมยังมีหลวงตาชื่นมาคอยดูแลการขุดลอกลำห้วยระวี ถ้ามีการรุกที่ชาวบ้านหลวงตาชื่นจะเป็นคนมาเคลียร์เอง ส่วนต้นไม้ที่ถูกตัดบนที่นาของชาวบ้านก็ขนเอาไปไว้ที่วัดเกือบหมด
 
“อยากถามว่าพระมายุ่งเกี่ยวอะไรด้วยกับเรื่องนี้ มันไม่ใช่กิจของสงฆ์” นายรมย์ตั้งคำถาม
 
อนึ่ง โครงการขุดลอกห้วยระวี มีกรมทรัพยากรน้ำเป็นผู้รับผิดชอบ และมี หจก.สินเจริญสนมเป็นผู้รับจ้างทำการขุดลอกตลอดแนวลำห้วยจากบ้านเฉนียง ม.8 ต.บะ อ.ท่าตูม ไปจนถึงเขตท้องที่ของอำเภอเมืองสุรินทร์
 
จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีชาวบ้านได้รับความเดือนร้อน เพราะมีการขยายลำห้วยทับที่ดินของชาวบ้านและมีผู้ได้รับความเดือนร้อนเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ หจก.สินเจริญสนม แล้วกว่า 20 รายที่ สภ.กระโพ โดยมีการนำเสนอข่าวทางสื่อมวลชนหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์
 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net