‘ศาลฎีกา’ ยกคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว ‘สองตายาย’ สมาชิก คปอ. เหตุกลัวหลบหนี

ชาวบ้านผิดหวัง ผลยื่นขอปล่อยตัวชั่วคราวสองตายายคดีบุกรุกสวนป่าโคกยาว ศาลฎีกายกคำร้อง ชี้ยังไม่ได้รับอนุญาตให้ฎีกาและยังไม่ยื่นฎีกา หากอนุญาตให้ปล่อยตัวจำเลยอาจหลบหนี

 
วันที่ 29 เม.ย.56 ชาวบ้านเครือข่ายปฏิรูปที่ดินภาคอีสาน (คปอ.) กว่า 100 คน ตั้งขบวนบริเวณหน้าศาลจังหวัดภูเขียว อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ เพื่อร่วมกันเดินเท้าเข้าเยี่ยม นายเด่น คำแหล้ อายุ 62 ปี และนางสุภาพ คำแหล้ อายุ 58 ปี สามี – ภรรยาสามสมาชิก คปอ.ซึ่งเป็นจำเลยที่ 1 และ 4 คดีบุกรุกสวนป่าโคกยาว ต.ทุ่งลุยลาย อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติภูซำผักหนาม ที่เรือนจำอำเภอภูเขียว
 
หลังจาก เมื่อวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น สั่งจำคุกจำเลยทั้งสอง เป็นเวลา 6 เดือน โดยไม่รอลงอาญา และให้ศาลฎีกาเป็นผู้พิจารณาคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว ซึ่งทีมทนายความของเครือข่ายฯ คปอ.และชาวบ้านได้ยื่นคำร้องขอให้ปล่อยตัวชั่วคราว และนัดกันมารอฟังคำสั่งจากศาล ในวันจันทร์ (วันที่ 29 เม.ย.56)
 
ทั้งนี้ ตามกำหนดการ ชาวบ้านจะเดินเท้าไปเยี่ยมผู้ถูกคุมขังทั้ง 2 ราย จากนั้นจะกลับมาปักหลักบริเวณหน้าศาลจังหวัดภูเขียว เพื่อร่วมรับฟังคำสั่งศาลฎีกาว่าผลการให้ประกันจะออกมาอย่างไร
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงที่ชาวบ้านสมาชิก คปอ.กำลังเตรียมขบวน มีเจ้าหน้าที่ศาลออกมาแจ้งว่าได้เบิกจำเลยออกมาจากเรือนจำ เพื่อมารับฟังคำสั่งการให้ประกันจากศาลแล้ว เป็นผลให้ชาวบ้านยุติการเคลื่อนขบวน เปลี่ยนมาเป็นร่วมชุมนุมอยู่บริเวณหน้าศาล รอฟังคำสั่งศาลฎีกา
 
ต่อมาเวลาประมาณ 11.30 น. ผลการยื่นประกันขอให้ปล่อยตัวจำเลยที่ 1 และที่ 4 ชั่วคราวในระหว่างฎีกา ปรากฏว่าศาลไม่อนุญาต เพราะเกรงจะหลบหนี
 
“พิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยที่ 1 และที่ 4 ให้การปฏิเสธ แต่คดีต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 208 วรรคหนึ่ง จำเลยที่ 1 และที่ 4 ยังไม่ได้รับอนุญาตให้ฎีกาและยังไม่ยื่นฎีกา มีเหตุอันควรเชื่อว่า หากอนุญาตให้ปล่อยตัวจำเลยที่ 1 และที่ 4 ชั่วคราวในระหว่างฎีกา จำเลยที่ 1 และที่ 4 อาจจะหลบหนี จึงไม่อนุญาต ให้ยกคำร้อง” คำพิจารณาของศาล
 
ศรายุทธ ฤทธิพิณ เครือข่ายปฏิรูปที่ดินภาคอีสานกล่าวว่า สมาชิกฯ ต่างแสดงเหตุผลไปในทางเดียวกันว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 108/1 ในการวินิจฉัย คำร้องขอให้ปล่อยชั่วคราว ต้องพิจารณา 1.ความหนักเบา แห่งข้อหา 2.พยานหลักฐาน ที่ปรากฏแล้ว มีเพียงใด 3.พฤติการณ์ต่างๆ แห่งคดีเป็นอย่างไร 4.เชื่อถือ ผู้ร้องขอประกัน หรือ หลักประกัน ได้เพียงใด 5.ผู้ต้องหา หรือ จำเลย น่าจะหลบหนี หรือ ไม่ 6.ภัยอันตราย หรือ ความเสียหาย ที่จะเกิดจาก การปล่อยชั่วคราว มีเพียงใด หรือไม่ และ 7.ในกรณีที่ ผู้ต้องหา หรือ จำเลย ต้องขังตามหมายศาล ถ้ามีคำคัดค้านของพนักงานสอบสวน พนักงานอัยการ โจทก์ หรือผู้เสียหาย แล้วแต่กรณี ศาล พึงรับประกอบการวินิจฉัยได้ ประกอบไปด้วย
 
ส่วนประกอบการพิจารณาความที่ศาลมีอำนาจสั่งให้ปล่อยชั่วคราวทั้ง 7 ข้อนั้น ผู้ถูกคุมขังไม่มีการกระทำใดๆ อันเป็นเหตุที่ศาลจำต้องนำมาเป็นส่วนประกอบการพิจารณาไม่ให้ประกันได้ อีกทั้งในข้อที่ 5 ตามที่ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จะหลบหนีนั้น เป็นไปไม่ได้เพราะจำเลยทั้งสองเป็นเพียงเกษตรกรธรรมดา อีกทั้งต่างมีหลักทรัพย์ประกันจากทางกองทุนยุติธรรม ที่ได้ประสานให้ความช่วยเหลือในด้านหลักประกันอยู่แล้ว
 
ศรายุทธ ระบุถึงคำถามของชาวบ้านด้วยว่า ศาลในชั้นต้นและอุทธรณ์นั้นสามารถใช้ดุลยพินิจได้ใช่หรือไม่ แล้วทำไมศาลจึงไม่มีคำสั่งให้ส่งคำร้องขอประกันตัว กลับโยนให้ศาลฎีกาสั่ง โดยไม่สั่งการเอง หากเปรียบเทียบกับคดีของนายทอง กุลหงส์ วัย 72 ปี และนายสมปอง กุลหงส์ อายุ 48 ปี ซึ่งเป็นกรณีเดียวกันและอยู่ในพื้นที่เดียวกัน ศาลยังสามารถให้ประกันได้ เช่นนี้แล้วมีความยุติธรรมในการใช้ดุลพินิจหรือไม่ และเหตุใดศาลจึงไม่มีคำสั่งยกฟ้องจำเลยทั้ง 10 ราย (ชาวบ้าน 10 คนถูกจับกุมในกรณีเดียวกับแต่ถูกแยกฟ้องเป็น 4 คดี)
 
ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ว่า ขณะที่มีการชุมนุมปราศรัยอยู่บริเวณหน้าศาลนั้น เมื่อเวลาประมาณ 14.30 น.ชาวบ้านที่ชุมนุมส่วนหนึ่งได้เดินทางไปเยี่ยมผู้ถูกคุมขังที่เรือนจำภูเขียว ปรากฏว่า เจ้าหน้าที่ให้เยี่ยมได้เพียง 10 นาที และสามารถเข้าเยี่ยมได้แต่นายเด่น คำแหล้ แต่เพียงคนเดียว เพราะระเบียบของเรือนจำอนุญาตให้ผู้ต้องขังชายเข้าเยี่ยมได้ในวันจันทร์, พุธ และศุกร์ ส่วนผู้ต้องขังหญิงเยี่ยมได้ในวันอังคารและพฤหัสบดี ขณะที่วันเสาร์และอาทิตย์ รวมทั้งวันหยุดราชการไม่มีให้เข้าเยี่ยม จนถึงเวลาประมาณ 16.30 น.จึงได้ร่วมกันเดินทางกลับ
 
ทั้งนี้ สมาชิก คปอ.ปักหลักตากแดดปราศรัยอยู่บริเวณฝั่งตรงข้ามถนนด้านหน้าศาลจังหวัดภูเขียว จนถึงเวลาประมาณ 16.30 น.จึงสลายการชุมนุม
 
 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท