Skip to main content
sharethis

แจงเนื้อหารายงานการไต่สวนตามคำขอประทานบัตรเหมืองแร่หลบเลี่ยง และคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง อาจเป็นเหตุให้ชาวบ้านในพื้นที่ได้รับความเสียหายจากใบไต่สวนดังกล่าว จึงยื่นฟ้องต่อศาลปกครองให้เพิกถอน

 
เมื่อวันที่ 9 พ.ค.56 เวลา 13.30 น. ขบวนชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานี ประมาณ 200 คน นำเอาเอกสาร หลักฐานเกี่ยวกับการคัดค้านโครงการเหมืองแร่โปแตช จ.อุดรธานี จำนวน 8 ชุด เดินทางไปที่ศาลปกครองอุดรธานี เพื่อยื่นฟ้องต่อศาลแผนกคดีสิ่งแวดล้อม กรณีรายงานการไต่สวนตามคำขอประทานบัตรเหมืองแร่ใต้ดิน เลขที่ 1/2547-4/2547 ของบริษัท เอเซีย แปซิฟิค โปแตช คอร์ปอเรชั่น จำกัด (เอพีพีซี) เป็นรายงานที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงขอให้ศาลเพิกถอนรายงานดังกล่าวเสีย
 
ตามคำฟ้องได้ระบุว่ามี นายเตียง ธรรมอินทร์ อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11 หมู่ที่ 12 ต.ห้วยสามพาด อ.ประจักษ์ศิลปาคม จ.อุดรธานี ผู้ฟ้องคดีที่ 1 กับพวกรวม 47 คน มอบอำนาจให้นางสาว ส.รัตนมณี พลกล้า ทนายความ ยื่นฟ้องผู้ถูกฟ้องจำนวน 8 ราย ซึ่งประกอบด้วย กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่, อุตสาหกรรมจังหวัดอุดรธานี, กำนันตำบลนาม่วง อ.ประจักษ์ศิลปาคม จ.อุดรธานี, กำนันตำบลหนองขอนกว้าง อ.เมือง จ.อุดรธานี, กำนันตำบลโนนสูง อ.เมือง จ.อุดรธานี, กำนันตำบลหนองไผ่ อ.เมือง จ.อุดรธานี, นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองโนนสูง – น้ำคำ อ.เมือง จังหวัดอุดรธานี และกำนันตำบลห้วยสามพาด อ.ประจักษ์ศิลปาคม จ.อุดรธานี ตามลำดับ โดยเจ้าหน้าที่ศาลได้ตรวจสอบ และลงทะเบียนรับเอกสาร เป็นคดีหมายเลขดำที่ 2/2556
 
 
นายเตียง ธรรมอินทร์ ผู้ฟ้องคดีที่ 1 และแกนนำกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานี กล่าวว่า พื้นที่ตั้งโครงการเป็นเขตสันปันน้ำ อยู่บนที่สูง มีเส้นทางน้ำ ทางสาธารณะประโยชน์ และแหล่งน้ำบาดาล แหล่งที่อยู่อาศัยของชุมชน และสถานที่ราชการ เช่น โรงเรียน วิทยาลัยเทคนิคกาญจนา ศูนย์รักษาโรคมะเร็ง วิทยาลัยพยาบาล และค่ายทหาร ฯลฯ ที่จะได้รับผลกระทบจากการทำเหมือง แต่เนื้อหาในใบไต่สวนหลบเลี่ยง และคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง
 
“ใบไต่สวนเป็นเอกสารชิ้นหนึ่งที่มีความสำคัญในการนำไปประกอบการขออนุญาตประทานบัตร ซึ่งผู้ถูกฟ้องทั้งหมดได้ดำเนินการจัดทำและลงชื่อรับรองในรายงานใบไต่สวนคำขอประทานบัตรฯ โดยที่ข้อมูลไม่ถูกต้องตามสภาพข้อเท็จจริงในพื้นที่โครงการฯ จึงเป็นเหตุให้ชาวบ้านในพื้นที่ได้รับความเสียหายจากใบไต่สวนดังกล่าว และยื่นฟ้องต่อศาลปกครองในวันนี้” นายเตียงกล่าว
 
 
ด้านนางสาว ส.รัตนมณี พลกล้า ทนายความจากศูนย์ข้อมูลชุมชน กล่าวว่า เป็นการต่อสู้ของชาวบ้านโดยการใช้ช่องทางตามกระบวนการยุติธรรม ต่อไปก็ต้องรอฟังว่าศาลจะรับฟ้องคดีหรือไม่ เพราะเป็นดุลยพินิจของศาลในการพิจารณา
 
“ถึงแม้ว่าจะมีการฟ้องประเด็นเดียวกันนี้ในพื้นที่ตำบลบ้านแหง อ.งาว จ.ลำปาง ชาวบ้านคัดค้านเหมืองลิกไนต์ ซึ่งศาลปกครองเชียงใหม่มีคำสั่งไม่รับฟ้อง โดยให้เหตุผลว่าในกระบวนการนี้ชาวบ้านยังไม่ได้รับส่งผลกระทบจึงยังไม่มีสิทธิฟ้อง แต่การยื่นฟ้องของชาวบ้านที่อุดรฯ ก็เพื่อแสดงให้เห็นว่า หากบริษัทฯ จะได้มาซึ่งใบอนุญาตประทานบัตรในวันข้างหน้านั้น เป็นสิ่งที่ไม่ชอบ และชาวบ้านได้สิทธิคัดค้านตามกฎหมายอย่างครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว” นางสาว ส.รัตนมณีกล่าว

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net