Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

สังคมไทยได้ชื่อว่าเป็นเมืองพุทธ เพราะคนส่วนใหญ่ของประเทศเป็นผู้นับถือพระพุทธศาสนา และสิ่งที่มักจะใช้เป็นตัวชี้วัดขั้นต้นสำหรับการเป็นชาวพุทธที่ดี ก็คือ ตัวชี้วัดการปฏิบัติตนอยู่ในศีลห้าประการคือ ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ไม่ลักขโมยทรัพย์สินของผู้อื่น ไม่ประพฤติผิดลูกเขาเมียใคร ไม่พูดเท็จพูดโกหก และไม่ดื่มสุรา เครื่องดองของเมาทั้งหลาย บุคคลที่สามารถปฏิบัติตนโดยไม่ฝ่าฝืนข้อห้ามเหล่านี้ได้ ก็ถือได้ว่าเป็นชาวพุทธที่ดีระดับหนึ่ง

ในเชิงอุดมคติดูเหมือนไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไร แต่ในเชิงข้อเท็จจริงกลับพบว่าคนไทยจำนวนมาก ยังไม่ได้ปฏิบัติหรือไม่สามารถปฏิบัติตามศีลห้าประการนี้ได้ ในบรรดาการกระทำฝ่าฝืนศีลห้าประการนี้ การทำผิดศีลข้อสี่ การไม่พูดเท็จพูดโกหก เป็นการกระทำผิดที่เกิดขึ้นมากกว่าข้ออื่นๆ แต่คนไทยก็ไม่รู้สึกว่าเป็นจะเรื่องอันตรายร้ายแรงใดๆ เพราะการพูดโกหกพูดเท็จไม่ได้ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นโดยฉับพลันทันใด และการพูดโกหกหรือพูดเท็จ(รวมถึงการเขียน การโฆษณาสื่อสารเท็จด้วยวิธีการอื่น) เป็นสิ่งที่พบเห็นจนเคยชินกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาสำหรับคนไทย บ่อยครั้งที่เราพูดโกหกโดยไม่ได้ฉุกคิดหรือตระหนักว่ากำลังพูดเท็จหรือพูดในสิ่งที่ไม่ใช่ความจริง เป็นการพูดการเขียนเท็จโดยไม่ได้เจตนา พูดเท็จเขียนเท็จเพราะไม่รู้ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร พูดหรือเขียนตามที่คนอื่นเขาเล่ามาฟังเขามา เชื่อตามเขาโดยไม่ใช้หลักกาลามสูตรมากลั่นกรอง ถือเป็นธรรมชาติอย่างหนึ่งของคนไทย กลายเป็นโกหกมาก็โกหกต่อไป

การโกหกพูดเท็จในลักษณะนี้แพร่หลายมากที่สุดในสื่อสังคมออนไลน์ แต่บ่อยครั้งเหมือนกันที่คนพูดโกหก ก็รู้ตัวดีว่ากำลังพูดหรือกำลังเขียนโกหก แต่กลับคิดว่าการพูดการเขียนเท็จเช่นนั้นเป็นสิ่งที่ดี เป็นสิ่งที่ควรกระทำ เช่นนี้ถือว่าเป็นการโกหกโดยเจตนา มีวัตถุประสงค์ในการโกหก การโกหกในลักษณะนี้ส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นกับคนที่เป็นคนฉลาด มีความรู้มีการศึกษาดีๆมีอำนาจ ยิ่งฉลาดมากมีความรู้มากก็ยิ่งโกหกพูดเท็จได้แยบยลมากขึ้น

การโกหกโดยเจตนาหรือการตั้งใจโกหก ยังจำแนกย่อยได้เป็นสองกลุ่มคือ คนบางคนพูดโกหกพูดเท็จด้วยเจตนาเชิงบวกหรือเจตนาที่ดี แต่บางคนบางกลุ่มพูดโกหกพูดเท็จด้วยเจตนาเชิงลบ ในกลุ่มคนที่สถาปนาตัวเองว่าเป็นผู้ดีเป็นชนชั้นสูง การพูดโกหกถือเป็นส่วนหนึ่งของคุณสมบัติผู้ดี ผู้ดีไม่นิยมพูดจาอะไรแบบตรงไปตรงมา เพราะดูก้าวร้าวไม่น่ารัก แต่นิยมการพูดจาด้วยถ้อยคำที่สวยงาม สละสลวยไพเราะหูคนฟัง สามารถประณามศัตรูด้วยคำชมที่งดงาม หรือในยามที่ต้องการชื่นชมคนพวกนี้ก็สามารถโกหกด้วยการสรรหาคำพูด คำชื่นชมที่เหนือกว่าความเป็นจริงมาสรรเสริญเยินยอกันจนทำให้คนธรรมดาคนหนึ่งกลายเป็นเทวดา เป็นปราชญ์หรือเป็นอรหันต์ไปได้ในพริบตา แต่ในทางกลับกันหากชิงชังคนพวกนี้ก็สามารถพูดโกหกให้คนดีๆ กลายเป็นปีศาจ กลายเป็นคนเลวที่ยากจะหาใครมาเท่าเทียมได้ในพริบตาเช่นกัน

ในวงการทหารการโกหก พูดอย่างทำอย่าง ถือว่าเป็นยุทธศาสตร์การรบที่ชาญฉลาด เป็นเรื่องลับ ลวง พราง งานถนัดของบรรดาทหารนักรบ เพราะฉะนั้นการสร้างสถานการณ์ที่ไม่จริงใดๆขึ้นมาเพื่อให้ได้เปรียบในการรบการต่อสู้ จึงถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา หรือในวงการเมืองที่เต็มไปด้วยการแข่งขันต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจการปกครอง การพูดโกหกพูดเท็จในลักษณะเอาดีใส่ตัว เอาชั่วให้คนอื่น เพื่อให้ฝ่ายตนเป็นผู้ชนะได้อำนาจจึงถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาเหมือนกัน เราจึงมักจะพบเห็นการพูดโกหกพูดเท็จของคนในวงการเหล่านี้อยู่เสมอ ทั้งในรูปของการพูดในสิ่งที่ตรงข้ามกับความเป็นจริงโดยสิ้นเชิง พูดดำให้เป็นขาว พูดขาวให้เป็นดำหรือพูดความจริงเพียงครึ่งๆกลางๆเฉพาะในส่วนที่ตน พวกตนได้ประโยชน์

การพูดโกหกพูดเท็จไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด แม้จะมีคุณประโยชน์อยู่บ้างโดยเฉพาะแก่ผู้พูดหรือผู้ถูกพูดถึง แต่ส่วนใหญ่มักจะก่อผลที่ไม่ดีตามมามากมาย ความชั่วความไม่ดีทั้งหลายมักมีการพูดเท็จพูดโกหกเป็นองค์ประกอบร่วมอยู่ด้วยทั้งสิ้น ถ้ามองถึงความขัดแย้งทางการเมืองของสังคมไทย ไม่ต้องมองไกลไปถึงสมัยอยุธยา ธนบุรี หรือต้นรัตนโกสินทร์มองเฉพาะตั้งแต่ยุคตุลา16 จนถึงปัจจุบันจะเห็นว่าการพูดโกหกพูดเท็จโดยเจตนาเพื่อทำลายล้างฝ่ายตรงข้ามที่มีความคิดเห็นต่าง ได้กลายเป็นต้นเหตุหลักอันหนึ่งที่นำไปสู่การรบราฆ่าฟันระหว่างคนไทยด้วยกันเสมอมา

ในยุคตุลา 19 การพูดการเขียนการโฆษณาชวนเชื่อจากรัฐ จากสื่อมวลชนขวาจัดมาเป็นเวลานาน ให้เห็นว่าลัทธิคอมมิวนิสต์และนักศึกษาประชาชนที่เห็นด้วยกับลัทธินี้เป็นปีศาจ เป็นคนเลว ทำลายชาติ ทำลายศาสนาและทำลายพระมหากษัตริย์ ไม่ใช่คนไทย ทำให้เกิดการแขวนคอฆ่านักศึกษาอย่างสยดสยองกลางสนามหลวง ท่ามกลางความสะใจของคนไทยจำนวนมากที่ยืนมองฆาตกรรมด้วยความเบิกบานใจ การหลอกหลอนกันด้วยปีศาจคอมมูนิสต์ทำให้คนไทยต้องจับอาวุธสงครามมาฆ่ากันเอง ล้มตายไปจำนวนมาก เสียดายที่ไม่ได้มีการบันทึกจำนวนชัดเจนไว้เป็นหลักฐาน โดยเฉพาะฝ่ายประชาชนที่ถูกเรียกว่า “พวกคอมมิวนิสต์” คงมีจำนวนมากกว่าเพราะอาวุธยุทโธปกรณ์ ความเป็นมืออาชีพในการรบด้อยกว่าฝ่ายทหารอยู่หลายเท่าตัว

มาถึงปัจจุบันความขัดแย้งทางการเมืองยังมีอยู่เหมือนเดิม เป็นความขัดแย้งเดิมๆคือการแย่งชิงการควบคุมอำนาจรัฐ ซึ่งควรจะเป็นการแย่งชิงกันระหว่างพรรคการเมืองสองฝ่าย แต่สังคมไทยกลับกลายเป็นการต่อสู้ของฝ่ายแนวคิดเชิงอนุรักษ์นิยมซึ่งส่วนหนึ่งไม่ได้อยู่ในกลไกการเมืองและพรรคการเมืองตามรัฐธรรมนูญ กับฝ่ายแนวคิดเสรีตรงข้ามกับพวกอนุรักษ์นิยม จะแตกต่างกันบ้างก็ในแง่ตัวบุคคล คนหลายคนที่แต่ก่อนถูกจัดเป็นพวกฝ่ายซ้ายหรือฝ่ายนิยมประชาชน วันนี้กลับข้างไปเป็นขุนพลหลักให้กับฝ่ายอนุรักษ์นิยม

หรือในแง่โครงสร้างแต่เดิมมีแต่ฝ่ายอนุรักษ์นิยมเท่านั้นที่มีกลไกพรรคการเมือง (ทุกพรรค) ที่ให้สามารถเข้าไปควบคุมอำนาจรัฐเป็นทางการได้ วันนี้ฝ่ายประชาชนก็พลอยมีกลไกพรรคการเมือง ให้สามารถเข้าไปยึดอำนาจรัฐที่เป็นทางการได้เช่นกัน เพราะพรรคการเมืองอย่างพรรคไทยรักไทย(ไม่ว่าต่อมาจะใช้ชื่อพรรคอะไรก็ตาม) ถูกผลักไส ถูกรังเกียจจากฝ่ายอนุรักษ์นิยม ไม่ยอมรับเข้าเป็นพวกและดูเหมือนจะไม่ต้องการให้ได้เป็นรัฐบาลด้วย พรรคนี้จึงต้องกลายเป็นพรรคการเมืองฝ่ายประชาชน(รากหญ้า) แม้ชนะการเลือกตั้งได้อำนาจรัฐมาแล้ว ก็ยังต้องลุ้นความอยู่รอดกันอยู่ตลอดเวลา

ในความขัดแย้งทางการเมืองนี้ การพูดโกหกพูดเท็จยังเป็นเครื่องมือหลักที่จะใช้ทำลายฝ่ายตรงข้าม สร้างความชอบธรรมให้กับฝ่ายตน หลังรัฐประหาร 2549 เป็นต้นมา การพูดโกหกพูดเท็จในสังคมไทยได้พัฒนาการไปอีกระดับหนึ่ง เมื่อศาลปกครองให้ความคุ้มครองชั่วคราวสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมเอเอสทีวี ประกอบกับศาลอาญาได้ตัดสินคดีหมิ่นประมาทนักการเมืองโดยเฉพาะนักการเมืองฝ่ายตรงข้ามกับกลุ่มอนุรักษ์นิยมด้วยข้อความอันเป็นเท็จหลายคดี ว่าสามารถทำได้เพราะนักการเมืองเป็นบุคคลสาธารณะ นั่นหมายถึงศาลได้สร้างบรรทัดฐานใหม่ ว่าการพูดการโฆษณาอันเป็นเท็จต่อบุคคลอื่นโดยเฉพาะนักการเมืองผ่านสื่อต่างๆเป็นสิ่งที่สามารถทำได้ การพูดการโฆษณาด้วยข้อความอันเป็นเท็จจึงมีบทบาทในความขัดแย้งทางการเมืองเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว

นักการเมือง นักวิชาการ นักสื่อสารมวลชนคอลัมนิสต์ที่เลือกข้างชัดเจน ได้ผลิตคำพูดข้อเขียน วาทกรรม บทวิพากษ์ต่างๆที่มีลักษณะเป็นการพูดโกหกพูดเท็จขึ้นมามากมาย แต่ละฝ่ายมีการจัดตั้งหรือให้การสนับสนุนหนังสือพิมพ์ สถานีวิทยุชุมชน สถานีวิทยุโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม เพื่อใช้เป็นช่องทางในการส่งผ่านคำพูดข้อเขียนที่มีลักษณะจริงบ้างเท็จบ้างของฝ่ายตนออกไปโจมตีฝ่ายตรงข้าม และเป็นช่องทางให้ข่าวสารข้อมูล ปลูกฝังความคิด ความเชื่ออุดมการณ์ให้กับมวลชนของตน ให้รู้สึกเกลียดชัง อยากทำลายฝ่ายตรงข้าม เรียกได้ว่ายุคนี้เป็นยุคเฟื่องฟูที่สุดของการพูดเท็จพูดโกหกในสังคมไทย

วันนี้เราพูดเราเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่เป็นเรื่องไม่จริงเป็นเรื่องโกหกกัน จนคนในสังคมเริ่มไม่รู้ว่าอะไรเป็นเรื่องจริง อะไรเป็นเรื่องไม่จริง ใครพูดจริงหรือใครพูดเท็จ ข้อมูลข่าวสารที่เผยแพร่ในสื่อสารมวลชนทั้งในหนังสือพิมพ์ สถานีวิทยุโทรทัศน์ทั้งฟรีทีวีและโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม สื่อสังคมออนไลน์จำนวนมากไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นข้อมูลข่าวสารที่เป็นจริง เพราะเป็นการโกหกทับถมกันจนยากจะแยกแยะได้

ความจริงสำหรับคนไทยวันนี้จึงขึ้นอยู่กลุ่มฝ่ายที่เลือกสังกัด ความจริงสำหรับคนปักษ์ใต้ ก็คือคำพูดหรือข่าวสารที่ได้มาจากนักการเมืองพรรคประชาธิปัตย์อย่างนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต นายเทพไท เสนพงษ์ ความจริงที่ได้จากสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมบลูสกาย เอเอสทีวี หนังสือพิมพ์แนวหน้า ไทยโพสท์ ฯ ตรงกันข้ามความจริงสำหรับคนเสื้อแดง คนภาคอีสานภาคเหนือ กลับเป็นข่าวสารข้อมูลที่ได้จากนักการเมืองพรรคเพื่อไทย ความจริงวันนี้ที่ได้จากสถานีโทรทัศน์เอเชียอัพเดต หรือหนังสือพิมพ์ที่เป็นเครือข่ายของคนเสื้อแดงทั้งหลาย

จึงกล่าวได้ว่าขณะนี้การพูดการเขียนโกหกพูดเท็จที่ กำลังส่งผลกระทบถึงความมั่นคงของชาติ ซึ่งในที่นี้ไม่ได้หมายถึงเฉพาะความมั่นคงของสถาบันใดสถาบันหนึ่ง แต่หมายความถึงสถาบันชาติที่เป็นองค์รวมทั้งหมด ความแตกแยกในสังคมที่เกิดการพูดเท็จปลุกระดมล้างสมองประชาชนผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ผ่านสถานีวิทยุโทรทัศน์ ผ่านหนังสือพิมพ์หรือผ่านทางกิจกรรมทางการเมืองในรูปแบบต่างๆ กำลังออกดอกออกผล สังคมไทยมาถึงจุดที่ดูเหมือนคนไทยสองฝ่ายสองสีจะไม่สามารถอยู่รวมกันได้อย่างสงบสุขอีกต่อไป แต่ละฝ่ายมีกระบวนทัศน์(paradigm ) หรือวิธีคิดมุมมองต่อสิ่งต่างๆที่เกิดมาจากความคิด ความเชื่อเชิงอุดมการณ์ เชิงทฤษฎีที่ถูกปลูกฝังจากกลุ่มตน ต่างฝ่ายต่างมองว่าฝ่ายตรงข้ามพวกตน ไม่รักชาติ ขายชาติ ไม่รักสถาบัน อยากขับไล่ผลักไสให้ไปอยู่บ้านอื่นเมืองอื่น รวมไปถึงอยากเห็นความหายนะความสูญเสียของฝ่ายตรงข้าม

พูดง่ายๆก็คือคนไทยสองฝ่ายอยู่ในสภาพที่พร้อมจะรบราฆ่าฟันกันอีกครั้งหนึ่ง ถ้าปล่อยให้พ้นเลยจากจุดนี้ไป เราอาจได้เห็นภาพที่คนไทยสองฝ่ายจับอาวุธสงครามเข้ามาสู้รบกันเอง ทำร้ายทำลายกันเอง จนเลือดนองแผ่นดินอีกครั้งหนึ่งหรือหลายครั้งก็เป็นได้

หากเราต้องการลดหรือชะลอความขัดแย้งทางการเมืองไม่ให้เลยเถิดไปถึงจุดแตกหักที่กล่าวมา ไม่ต้องการเห็นคนไทยทำร้ายกันเอง ไม่อยากเห็นรัฐบาลใช้กำลังทหาร พร้อมอาวุธสงครามที่สมควรนำไปใช้ในการป้องกันประเทศมาเข่นฆ่าคนไทยด้วยกันกลางเมืองหลวงของประเทศ เหมือนเดือน ตุลา 16 หรือ 6 ตุลา 19 หรือล่าสุดเดือนพฤษภา 2553 เราคงต้องช่วยกันแก้ไขที่สาเหตุที่แท้จริงของปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้น นั่นคือ การกลับมาพูดความจริงว่าเกิดอะไรขึ้นในสังคมนี้ คนไทยกำลังขัดแย้งกันในเรื่องอะไร เพราะเหตุใดแน่นอนบางคนอาจคิดว่าความจริงบางอย่างคนไทยส่วนใหญ่ไม่จำเป็นต้องรู้ หรือรู้ไปก็ไม่ทำอะไรให้ดีขึ้น ดีไม่ดีการพูดความจริงอาจจะทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงเหมือนที่หลายคนวิพากษ์วิจารณ์นายกฯยิ่งลักษณ์ไปพูดความจริงที่ประเทศมองโกเลีย

แต่การปล่อยให้ทุกฝ่ายพูดโกหกพูดเท็จกันไปเรื่อยๆ ก็ทำให้เกิดปัญหาความขัดแย้งของคนในสังคมเพิ่มมากขึ้นและเป็นการขัดแย้งที่ไม่ตั้งอยู่บนพื้นฐานความจริง เป็นเรื่องที่เถียงกันไปไม่รู้จบสิ้น ยากที่จะแก้ไขเยียวยา ดังนั้นการลดหรือการดับไฟความขัดแย้งในสังคมวันนี้ จึงจำเป็นต้องเริ่มต้นจากการลดการพูดการโฆษณาสิ่งที่เป็นเท็จทั้งโดยตั้งใจและไม่ตั้งใจให้น้อยลง เป็นหน้าที่ของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่ในส่วนของรัฐบาล การเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข้อมูลที่เกินจริงไม่ว่าจะทำเพื่อประโยชน์ในการเชิดชูยกย่องรัฐบาลหรือบุคคลใดๆก็ควรให้ลดน้อยลง เพราะอะไรก็ตามที่ทำมากเกินไป คุณค่าแท้จริงก็จะน้อยลงตามหลักธรรมชาติ

พรรคการเมืองนักการเมือง ก็ควรเอาชนะกันด้วยการนำเสนอนโยบายที่ทำได้จริง มากกว่าการเอาชนะคู่ต่อสู้ด้วยการพูดโกหกพูดเท็จทำลายกัน หรือสื่อมวลชนทั้งหลายในฐานะเป็นผู้ให้ข้อมูลข่าวสารหลักแก่ประชาชน ก็ควรแสดงความคิดความเห็นที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานความจริงให้มากที่สุด หากช่วยกันได้เช่นนี้ความขัดแย้งในสังคมไทยก็จะลดน้อยลงไปได้ โดยไม่ต้องรอให้ประชาชนต้องเสียเลือดเสียเนื้อ เสียชีวิตไปกับความขัดแย้งที่พวกเขาบางคนไม่ได้รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดขึ้นเพราะเหตุใด.

 

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net