'ปลอดประสพ' พับเก่า ปั้นใหม่เขื่อนแม่วงก์ - ภาคประชาชนจ่อฟ้อง 5 คดีหยุดโครงการ

<--break->
 
25 ก.ย.56 สำนักข่าวไทย รายงาน ว่านายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย(กบอ.) มอบนโยบาย ศูนย์เตรียมพร้อมเฉพาะกิจรับสถานการณ์อุทกภัย ปี 2556 - 2557 ที่มีการประชุมนัดแรกหลังนายกรัฐมตรีมีประกาศแต่งตั้ง ด้วยการสั่งการให้เร่งระบายน้ำในช่วง 1-2 วันนี้ เพื่อระบายน้ำออกสู่ทะเลด้วยเปิดประตูน้ำ แต่ก็คาดว่าปทุมธานี กรุงเทพ อาจะได้รับผลกระทบบ้างแต่ไม่มากเท่าปี 2554
 
สำหรับโครงการเขื่อนแม่วงก์ ซึ่ง NGO  คัดค้านรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (อีเอชไอเอ) เป็นเขื่อนแม่วงก์ ที่เสนอโดยกรมชลประทาน ซึ่งกบอ.จะไม่นำมาใช้ แต่ได้ให้บริษัทไอทีดี พาวเวอร์ ไชน่า จอยต์เวนเจอร์ เป็นผู้ออกแบบและก่อสร้างโครงการเขื่อนแม่วงก์ใหม่  โดยมูลค่าการก่อสร้างน้อยลงกว่าที่เคยขออนุมัติ ครม. ในโครงการเดิม 13,000 ล้านบาท และเปลี่ยนเป้าหมายจากเดิมเพื่อการชลประทานเป็นการควบคุม และระบายน้ำท่วม ซึ่งคาดว่าจะสามารถเริ่มทำรายงานอีเอชไอเอฉบับใหม่ได้ทันที ที่การทำประชาพิจารณ์โครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาทเสร็จสิ้น
 
นาย ปลอดประสพ กล่าวอีกว่าความขัดแย้งจากการสร้างเขื่อแม่วงก์ ตนจะนำผู้มีความเห็นต่าง รวมทั้งผู้เห็นด้วยกับโครงการมาหารือ หลังการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเสร็จสิ้นลง ตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรี
 
Voice TV รายงานด้วยว่า ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุ รัฐบาลยินดีรับฟังข้อคิดเห็นและข้อห่วงใยของประชาชน และได้มอบหมายให้คุณปลอดประสพ เชิญตัวแทนผู้คัดค้านมารับฟังและพูดคุยกัน  
 
เบื้องต้น คุณศศิน เฉลิมลาภ เลขาธิการมูลนิธิสืบนาคะเสถียร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนี้ว่าเรื่องการเข้าให้ข้อมูล ยังไม่มีการประสานงานมา แต่ประเด็นสำคัญ คือต้องการให้ตรวจสอบผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมในการก่อสร้าง หากไม่มีผลกระทบก็สามารถสร้างได้ และไม่จำเป็นต้องไปคุยกับตัวแทนรัฐบาล
 
ไทยรัฐออนไลน์ รายงานว่า นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เปิดเผยภายหลังการเสวนา "ผ่าแผน กบอ. เวทีการบริหารจัดการน้ำทั่วประเทศ" ซึ่งจัดขึ้นโดยสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) ว่า ข้อสรุปที่ได้จากการงานเสวนาในวันนี้ พบว่าการดำเนินงานตามโครงการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน วงเงิน 3.5 แสนล้านบาท ของรัฐบาลและคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) ไม่เป็นไปตามแนวทางของกฎหมายหลายฉบับ ซึ่งทั้งหมดที่รัฐบาลกล่าวอ้างว่าอยู่ระหว่างขั้นตอนการรับฟังความเห็นจากประชาชน โดยจากการเฝ้าจับตาดูของภาคประชาชนและภาคสังคม พบว่า ที่ผ่านมาการดำเนินการของรัฐบาล และ กบอ. หลายประเด็นไม่เป็นไปตามคำสั่งศาล และไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ขัดต่อหลักกฎหมายหลายฉบับ
 
นอกจากนี้ ยังพบว่ามีหลายโครงการที่เป็นโครงการสอดไส้ โดยที่ไม่ได้ระบุไว้ตามแผนแม่บทบริหารจัดการน้ำ หรือแม้แต่แผนงานที่รัฐบาลได้กำหนดไว้ในเบื้องต้น สมาคมเห็นว่ามีความจำเป็นที่ต้องขอพึ่งอำนาจศาลปกครอง เพื่อให้มีคำสั่งเพิกถอนและระงับการดำเนินการในหลายๆ กิจกรรม ที่อยู่ระหว่างดำเนินงาน รวม 5 คดี ซึ่งประกอบด้วย
 
1.ฟ้องร้องดำเนินคดีอธิการบดี และมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ ที่รับเป็น stemper ในการไปรับฟังความเห็นประชาชน ซึ่งขัดต่อหลักการและกฎกระทรวง
 
2.เพิกถอนแม่น้ำสายใหม่ ขาณุวรลักษบุรี กำแพงเพชร-ท่าม่วง กาญจนบุรี เนื่องจากขัดต่อกฎหมาย
 
3.เพิกถอนโครงการสอดไส้หลายร้อยโครงการ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับแผนแม่บทฯ ซึ่งโครงการเหล่านี้เพราะยังไม่มีการจัดทำรายงานผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม (EIA) และ รายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA)
 
4.ฟ้องร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้สัญญาการกู้เงินของกระทรวงการคลัง ที่ลงนามไว้กับสถาบันการเงินของรัฐทั้ง 4 แห่งเป็นโมฆะ ซึ่งที่ผ่านมา อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญได้ออกมาระบุแล้วว่า การเซ็นสัญญาดังกล่าวไม่เป็นไปตามนิติกรรมสัญญาที่มิได้มีการ ขัดต่อตามเจตนารมณ์ตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
 
5.ฟ้องร้องให้เพิกถอนกระบวนการจัดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนทั้ง 36 จังหวัด ซึ่งไม่เป็นไปตามคำสั่งของศาลที่ระบุให้ต้องนำแผนแม่บทการบริหารจัดการน้ำไปประชาพิจารณ์อย่างทั่วถึง ซึ่งหมายความว่า ต้องครอบคลุมทั้ง 65 จังหวัดที่ถูกน้ำท่วมเมื่อปี 54 แต่การจัดประชาพิจารณ์ตามแผนงานของ กบอ. ดำเนินการเพียง 36 จังหวัดเท่านั้น นอกจากนี้ การเปิดรับฟังความเห็นโดยให้มีประชาชนเข้าร่วมเพียง 800-1,500 รายต่อจังหวัด ไม่ครอบคลุมกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบทั้งหมดที่มีนับล้านคน ซึ่งสมาคมจะเร่งรวบรวมเอกสารหลักฐานเพื่อยื่นฟ้องต่อศาลโดยเร็วที่สุด ก่อนครบกำหนดเดินสายจัดประชาพิจารณ์ในวันที่ 7 ต.ค.นี้.

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท