Skip to main content
sharethis

แรงงานอีสานกว่า 200 คน แห่ร้องดีเอสไอ หลังถูกบริษัท 18 มงกุฎหลอกไปเก็บลูกเบอร์รีในประเทศสวีเดน คิดค่าหัวคนละ 1 แสนบาท อ้างได้เดือนละ 85,000 บาท ผ่านไปเดือนกว่ากลับไม่ได้รับค่าจ้าง แถมลอยแพ

เว็บไซต์เดลินิวส์รายงานว่าเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่  15 ต.ค. 56 นายภาสกร เจนประวิทย์ ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.ขอนแก่น พร้อมด้วย พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร ผู้บัญชาการสำนักปฏิบัติการคดีพิเศษภาค พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง ผู้บัญชาการสำนักปฏิบัติการพิเศษ และคณะ ดีเอสไอ. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้รับการร้องทุกข์จาก นายวินัย แก้วเก็บคำ อายุ  38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 109 หมู่ 6 ต.นางงาม อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น  นายวิบูลย์ โกสน อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 80 หมู่ 6 อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น  นายวิศรุต สุดาวัน อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่76 หมู่ 8 ต.โพนเพ็ก อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น  พร้อมราษฎรในเขตพื้นที่ จ.ขอนแก่น อุดรธานี  และ จ.ชัยภูมิ ประมาณ 120 คน ขอยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อดีเอสไอภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.ขอนแก่น  กรณีถูกบริษัทจัดหางานแห่งหนึ่งใน จ.ชัยภูมิ เรียกเก็บเงินคนละประมาณ 100,000 บาท เพื่อแลกกับการได้ไปทำงานเก็บผลไม้ป่าที่ประเทศสวีเดน โดยไม่ได้รับผลตอบแทนตามสัญญา หลังเข้าขอความช่วยเหลือที่สถานทูตไทยประจำประเทศสวีเดน เพื่อเดินทางกลับประเทศไทย

นายวินัย กล่าวว่า เมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมามีนายหน้าของบริษัทจัดหางานได้เข้าไปในหมู่บ้านเพื่อชักชวนชาวบ้านให้เดินทางไปทำงานเก็บลูกเบอร์รีที่ประเทศสวีเดน โดยเรียกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปประเทศสวีเดน ประมาณรายละ 100,000 บาท เพื่อแลกกับผลตอบแทนเดือนละประมาณ 85,000 บาท โดยนายหน้าคนดังกล่าวอ้างว่าลูกเบอร์รีมีมากหากคนงานไปเก็บจะไม่ขาดทุน ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ขอนแก่น มหาสารคาม นครราชสีมา และอุดรธานี  กว่า 500 คน หลงเชื่อไป กระทั่งไปกู้ยืมเงินมาเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ร่วมมูลค่าความเสียหายกว่า 100  ล้านบาท  ซึ่งกลุ่มชาวบ้านผู้เสียหายได้เดินทางไปประเทศสวีเดนเมื่อวันที่ 22 ก.ค. 2556 แต่เมื่อไปถึงประเทศสวีเดน บริษัทจัดหางานได้จัดให้กลุ่มชาวบ้านผู้เสียหายไปเก็บลูกเบอร์รีบนภูเขาที่เมืองอูเมียว ทางตอนเหนือ และเมืองเลตเจอร์ฟอร์ดทางใต้ของประเทศสวีเดน โดยจัดที่พักพร้อมอาหารให้

 นายวินัย กล่าวอีกว่า เมื่อชาวบ้านผู้เสียหายเก็บลูกเบอร์รีนานกว่า 1 เดือน กลับไม่ได้รับค่าจ้างตามสัญญา จึงรวมตัวประท้วงที่ประเทศสวีเดน จนบริษัทเจ้าของไร่ลูกเบอร์รีในประเทศสวีเดนออกมาแถลงข่าวชี้แจงว่า ได้จ่ายค่าแรงงานให้กลุ่มชาวบ้านผู้เสียหายผ่านบริษัทจัดหางานดังกล่าวแล้ว และไม่ทราบว่าทำไมชาวบ้านผู้เสียหายจึงไม่ได้รับค่าจ้าง กระทั่งกลุ่มชาวบ้านผู้เสียหายได้รับความช่วยเหลือจากสถานทูตไทยในประเทศสวีเดน ในการออกค่าตั๋วเครื่องบินเดินทางกลับประเทศไทย เมื่อวันที่ 10 ก.ย. 2556  พวกตนซึ่งมีประมาณ 120 คน อยู่ในสามจังหวัดภาคอีสานตอนบนจึงรวมกลุ่มมาขอความช่วยเหลือจากดีเอสไอภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.ขอนแก่น  ให้ตรวจสอบบริษัทจัดหางานดังกล่าว พร้อมติดตามเงินค่าจ้างคืนให้กลุ่มชาวบ้านผู้เสียหาย เพราะตอนนี้เดือดร้อนมาก บางรายเครียดป่วย หรือเสียชีวิต เพราะต้องไปกู้ยืมเงินเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทาน ทั้งนี้ ตนอยากขอเตือนประชาชนว่าหากจะเดินทางไปเก็บผลไม้ที่ประเทศสวีเดน ขอให้ตรวจสอบบริษัทจัดหางานกับกระทรวงแรงงานว่าจัดตั้งถูกต้องหรือไม่ โดยมีบริษัทจัดหางานที่ดีอีกจำนวนมาก

นายวิบูลย์  แรงงานไทยจากจังหวัดขอนแก่น ตัวแทนกลุ่มแรงงาน ยื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อดีเอสไอ.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.ขอนแก่น กล่าวว่า  หลังจากแรงงานจากภาคอีสานประมาณ 500 คน  ซึ่งมีตนเป็นหนึ่งในนั้นได้รับการติดต่อว่าจ้างจากบริษัท เอ็ม ฟินิกซ์ เอ็นเตอร์ไพรซ์ จำกัด  ให้ไปทำงานรับจ้างเก็บผลไม้ที่ประเทศสวีเดน ทำงานตั้งแต่ตี 3 ถึง ห้าทุ่ม และจะได้รับค่าแรงขั้นต่ำเป็นเงินจำนวนเกือบ 1 หมื่น 9 พัน โคลนสวีเดนต่อเดือน หรือประมาณกว่า 9 หมื่น 3 พันบาทไทย ระยะเวลาว่าจ้าง 3 เดือน แต่จะต้องจ่ายเงินค่าเดินทางและค่าดำเนินการอื่นๆ ให้กับทางบริษัทก่อน โดยบางคนจ่ายเป็นเงินสด บางคนจ่ายเป็นหลักทรัพย์โฉนดที่ดิน เบ็ดเสร็จรวมมูลค่ากว่า 1 แสน 4 พันบาทต่อคน แต่เมื่อทำงานมาได้เดือนเศษกลับไม่ได้รับค่าจ้างใดๆ ทั้งจากบริษัท เอ็มฟินิกซ์ ประเทศไทย และบริษัทที่สวีเดน จึงประสานสถานฑูตไทยในสวีเดนขอเดินทางกลับประเทศเมื่อวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา ก่อนจะเดินทางมาร้องทุกข์กับดีเอสไอที่ จ.ขอนแก่น  ให้ตรวจสอบบริษัทดังกล่าวด้วย  ว่า มีการจ้างงานถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ และให้ดำเนินคดีหากพบการกระทำความผิดจริงเบื้องต้นดีเอสไอได้รับเรื่องไว้เพื่อดำเนินการตรวจสอบต่อไป

พ.ต.ท.กรวัชร์ ปกล่าวว่า  กรณีมีผู้เสียหายเก็บผลไม้ป่าในประเทศสวีเดนจำนวนมากที่ถูกล่อลวงไปทำงานที่ประเทศสวีเดน ซึ่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ได้รับเรื่องร้องเรียนแล้ว ซึ่งผมได้ดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่งสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงในเบื้องต้น พร้อมกับรวบรวมข้อมูลทั้งหมดเพื่อให้เป็นคดีพิเศษของดีเอสไอ ซึ้งมีผู้เกี่ยวข้องคือ บริษัท เอ็ม ฟินิกซ์ เอ็นเตอร์ไพรซ์ จำกัด ซึ่งได้ชักชวนกลุ่มคนงานในภาคอีสาน จ.ขอนแก่น มหาสารคาม ชัยภูมิ นครราชสีมา และ จ.อุดรธานี  ซึ่งถูกชักชวนให้ไปทำงานที่ประเทศสวีเดนไปเก็บผลไม้ป่าในประเทศนั้น

สอบสวนทราบว่าแรงงานชุดนี้ไปอยู่ประเทศสวีเดนแบบอยู่เอง ทำเอง กระทั่งมีนายบัวลา เหล่าพรม อายุ 39 ปี ทนไม่ไหวจึงได้ผูกคอตายอยู่ในประเทศสวีเดน พวกเขาจึงต้องร้องเรียนที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ  ซึ่งเป็นหลอกลวงแรงงานในภาคอีสาน   ดังนั้น กรณีนี้ผู้ร้องโดนฉ้อโกงค่าแรงงาน แถมให้เซ็นต์ในเอกสารเปล่าอีกด้วย เรื่องดังกล่าวตนได้ดำเนินการหาข้อมูล โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทจัดหางานซึ่งเป็นบริษัทอยู่ในประเทศไทยว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชนหรือไม่ เพราะถ้าหากเข้าถือว่าเป็นคดีพิเศษ

ทางดีเอสไอก็พร้อมที่จะดำเนินคดี อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นเห็นว่าคดีนี้น่าจะมีมูล ไม่เช่นนั้นคงไม่มีผู้เสียหายมากถึง 120  คนที่เดือดร้อนมาร้องทุกข์ต่อดีเอสไอ ทั้งนี้ เราก็ต้องฟังความหลายฝ่าย รวมทั้งฝ่ายบริษัทที่จัดหางานด้วยว่าได้ทำถูกต้องหรือไม่อย่างไร ซึ่งเรื่องนี้ก็จะมีการตรวจสอบในเชิงลึกทั้งหมด รวมไปถึงการตรวจสอบบริษัทดังกล่าวว่ามีใบอนุญาตถูกต้องหรือไม่ในการจัดหางานไปต่างประเทศ.

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net