รักษ์บ้านแหงเฮ! ศาลปกครองสูงสุดรับฟ้องคดีประทานบัตรเหมือง ชี้ฟ้องเพื่อส่วนรวม

กลุ่มรักษ์บ้านแหง จ.ลำปางเฮ หลังฟังผลศาลปกครองสูงสุดรับพิจารณาคดีสิ่งแวดล้อมที่ชาวบ้านกว่า 400 ร่วมฟ้องกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ พร้อมพวกรวม 4 ราย กรณีจัดทำรายงานการไต่สวนพื้นที่ตามคำขอประทานบัตรเหมือง
 
 
วันนี้ (15 ต.ค. 56) เวลาประมาณ 10.30 น.ที่ศาลปกครองเชียงใหม่ ชาวบ้านกลุ่มรักษ์บ้านแหง ต.บ้านแหง อ.งาว จ.ลำปาง ร่วมฟังคำสั่งศาลปกครองสูงสุดคดีที่ น.ส.แววรินทร์ บัวเงิน และชาวบ้านรวม 445 คน ยื่นฟ้องจำเลยรวม 4 ราย ประกอบด้วย กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดลำปาง อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 และผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 7 ในคดีพิพาทเกี่ยวกับการกระทำละเมิดของหน่วยงานทางปกครองและเจ้าหน้าที่ของรัฐอันเกิดจากการใช้อำนาจตามกฎหมาย
 
จากกรณีการจัดทำรายงานการไต่สวนพื้นที่ ตามคำขอประทานบัตรเลขที่ 4/2553 ถึง 8/2553 ของบริษัท เขียวเหลือง จำกัด โดยหน่วยงานอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ ซึ่งกลุ่มผู้ฟ้องเห็นว่าเป็นรายงานที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขอให้ศาลมีคำสั่งให้เพิกถอนรายงานการไต่สวนพื้นที่ตามคำขอประทานบัตรของบริษัทฯ ซึ่งได้ยื่นขอประทานบัตรเหมืองแร่ในพื้นที่ของหมู่บ้าน พร้อมทั้งให้เพิกถอนกระบวนการต่อเนื่องจากการทำรายงาน ซึ่งศาลปกครองชั้นต้น จ.เชียงใหม่ไม่รับฟ้องคดีดังกล่าว
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลปกครองเชียงใหม่อ่านคำสั่งศาลปกครองสูงสุดระบุ ศาลปกครองสูงสุดเห็นว่าผู้ฟ้องคดีทั้ง 445 คน เป็นผู้มีสิทธิฟ้องคดีตามรัฐธรรมนูญราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 ถือได้ว่าเป็นการฟ้องคดีเพื่อประโยชน์แก่ส่วนรวม การที่ศาลปกครองชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องของผู้ฟ้องคดีทั้ง 445 คนไว้พิจารณา ศาลปกครองสูงสุดไม่เห็นพ้องด้วย จึงมีคำสั่งกลับคำสั่งของศาลปกครองชั้นต้น เป็นการรับคำฟ้องไว้พิจารณาและพิพากษาต่อไปตามรูปคดี
 
ก่อนหน้านี้ ศาลปกครองชั้นต้นไม่รับฟ้องคดีโดยให้เหตุผลว่า เหตุยังไม่เกิด มูลการละเมิดยังไม่มี แม้จะเป็นข้อมูลพื้นฐานที่จะนำไปสู่การอนุญาตประทานบัตร ต่อมาชาวบ้านจึงยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่ง คดีหมายเลขดำที่ ส.2/2556 หมายเลขแดงที่ ส.3/2556 ของศาลปกครองชั้นต้นต่อศาลปกครองสูงสุด และศาลปกครองเชียงใหม่นัดอ่านคำสั่งศาลปกครองสูงสุดชี้ขาดคำร้องอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองเชียงใหม่ในวันนี้
 
น.ส.แววรินทร์ บัวเงิน กล่าวว่ารู้สึกดีใจมากเมื่อได้ฟังคำสั่งศาล และเรื่องนี้ทำให้มองเห็นว่าศาลมีการคิดแบบใหม่เพราะปกติเหมืองที่ยังไม่เกิดศาลมักไม่รับฟ้อง แต่ครั้งนี้ศาลรับฟ้องโดยให้เหตุผลว่าเรามีสิทธิที่จะฟ้องตามรัฐธรรมนูญ เพราะเป็นผู้มีส่วนได้เสียโดยตรง และรายงานคำไต่สวนก็ไม่มีการมีส่วนร่วมของประชาชน
 
ศาลปกครองสูงสุดเห็นแย้งกับศาลปกครองชั้นต้น โดยเห็นว่าควรรับพิจารณาคดี และถึงแม้จะเลยเวลาการฟ้องคดีเนื่องจากเหตุเกิดตั้งแต่เมื่อปี 53 แต่การฟ้องคดีครั้งนี้เป็นการฟ้องเพื่อคุ้มครองและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมถือว่าเป็นการฟ้องคดีเพื่อประโยชน์แก่ส่วนรวม
 
“ตอนนั้นเราอยู่ในกระบวนการรวบรวมข้อมูลอยู่เลย และประเมินว่าศาลจะไม่รับฟ้อง และศาลชั้นต้นก็ไม่รับจริงๆ ชาวบ้านเสียใจมาก” น.ส.แววรินทร์ กล่าวถึงการขับเคลื่อนงานของชาวบ้านเมื่อปี 53
 
เมื่อถามว่าชาวบ้านจะดำเนินการอย่างไรต่อไป น.ส.แววรินทร์ กล่าวว่า ชาวบ้านคงต้องเตรียมทำข้อมูลเอาไว้ไปสู้ในชั้นพิจารณาคดี
 
ทั้งนี้ บริษัท เขียวเหลือง จำกัด ยื่นคำขอประทานบัตร ต่อกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ เมื่อวันที่ 20 ม.ค.53 ต่อมาสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดลำปางได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ไปดำเนินการตรวจสอบพื้นที่เพื่อทำรายงานการไต่สวนพื้นที่ตามคำขอประทานบัตร เป็นผลให้ชาวบ้าน ต.บ้านแหงกว่า 400 คน ยื่นฟ้องคดีดังกล่าว 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท