Skip to main content
sharethis

แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชันแนลและฮิวแมนไรท์วอทช์ ทำรายงานสำรวจปฏิบัติการเครื่องบินไร้คนขับหรือ 'โดรน' (drone) ของสหรัฐฯ ที่มุ่งโจมตีผู้ก่อการร้ายในประเทศปากีสถานและเยเมน โดยระบุว่าในหลายกรณีมีพลเรือนเสียชีวิตและอาจเข้าข่ายอาชญากรรมสงคราม24 ต.ค. 2556 องค์กรแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชันแนลเปิดเผยรายงานเรื่องโครงการเครื่องบินไร้คนขับหรือ 'โดรน' (drone) ของหน่วยข่าวกรองกลางสหรัฐฯ (CIA) โดยระบุว่าปฏิบัติการจู่โจมผู้ต้องสงสัยก่อการร้ายด้วยโดรนในประเทศปากีสถานอาจถือว่าเข้าข่ายอาชญากรรมสงครามและเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ มีสิทธิถูกดำเนินคดี

โดยในรายงานขององค์กรแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชันแนลได้เน้นพูดถึงกรณีที่หญิงชราคนหนึ่งถูกสังหารขณะที่กำลังเก็บผัก รวมถึงกรณีอื่นๆ ที่น่าจะเข้าข่ายละเมิดกฎหมายนานาชาติเกี่ยวกับการคุ้มครองพลเรือน

ทางด้านองค์กรสิทธิมนุษยชนอีกแห่งหนึ่งคือฮิวแมนไรท์วอทช์ได้นำเสนอรายงานเชิงสืบสวนสอบสวนเกี่ยวกับการโจมตีในเยเมน โดยกล่าวว่าปฏิบัติการในเยเมนอาจผิดหลักกฎหมายสงคราม (Laws of Armed Conflict), กฏหมายสิทธิมนุษยชนนานาชาคิ และผิดหลักแนวทางปฏิบัติการโดรนของปธน. บารัค โอบาม่า เอง

ขณะที่การสำรวจเรื่องปฏิบัติการโดรนในเขตพื้นที่เกิดความไม่สงบแถบชายแดนอัฟกานิสถานเป็นเรื่องยาก เนื่องจากในพื้นที่ดังกล่าวมีกลุ่มติดอาวุธอยู่เป็นจำนวนมาก ประชาชนในพื้นที่ก็ไม่กล้าเปิดเผยข้อมูลเนื่องจากเกรงว่าจะถูกโต้ตอบจากทั้งฝ่ายกลุ่มติดอาวุธและเจ้าหน้าที่รัฐซึ่งต้องสงสัยว่ามีส่วนรู้เห็นกับโครงการโดรนของ CIA

มุสตาฟา คาดรี นักวิจัยเรื่องปากีสถานขององค์กรแอมเนสตี้ได้เรียกร้องให้ทางการสหรัฐฯ ดำเนินการโครงการโดรนด้วยความโปร่งใสและมีการแสดงความรับผิดชอบต่อผู้ที่ละเมิดกฎหมายต่างๆ โดยหวังว่าจะมีการชดเชยให้กับผู้สูญเสียและครอบครัวจากการโจมตี

รายงานของแอมเนสตี้ได้ทำการพิจารณากรณีการโจมตีด้วยโดรน 45 ครั้งในเขตภาคตะวันตกเฉียงเหนือของปากีสถานตั้งแต่เดือน ม.ค. 2012 ถึงเดือน ส.ค. 2013 โดยระบุว่ามีการโจมตี 9 ครั้งที่น่าจะเข้าข่ายการละเมิดกฎหมายนานาชาติ

แอมเนสตี้ได้พูดถึงเหยื่อการโจมตีส่วนหนึ่งว่ามีเด็กอายุ 14 ปี และคนชราอายุ 68 ปี รวมอยู่ด้วย พวกเขาได้ทำการสำรวจพบว่าเหยื่อเหล่านี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสู้รบและไม่ได้ทำการใดๆ ซึ่งเป็นภัยต่อชีวิตผู้อื่น ซึ่งขัดกับข้ออ้างของฝ่ายเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ว่าปฏิบัติการโดรนเป็นการมุ่งสังหาร "ผู้ก่อการร้าย"

ทางการสหรัฐฯ กล่าวไว้หลายครั้งว่าปฏิบัติการโดรนมีผู้เสียชีวิตเป็นพลเรือนจำนวนเล็กน้อยเท่านั้น และบอกว่าเป็นปฏิบัติการที่ถูกต้องตามหลักกฎหมายในประเทศและกฎหมายนานาชาติ

ทางด้านรายงานของฮิวแมนไรท์วอทช์กล่าวถึงกรณีที่เกิดขึ้นในเยเมน 6 กรณี โดยมี 2 กรณีที่มีการสังหารพลเรือนแบบไม่เลือกเป้าหมายถึอเป็นการละเมิดกฎหมายสงครามอย่างชัดเจน ขณะที่อีก 4 ครั้งมีการทำผิดกฎหมายสงครามเนื่องจากเป้าหมายไม่เป็นไปตามที่กำหนดไว้หรือไม่ได้มีมาตรการลดความเสียหายต่อพลเรือนมากพอ โดยฮิวแมนไรท์วอทช์ระบุว่าจากปฏิบัติการทั้ง 6 ครั้ง มีคนถูกสังหาร 82 คน มีอย่างน้อย 57 คนเป็นพลเรือน

มีญาตืของผู้สูญเสียรายหนึ่งเป็นชาวนาอายุ 23 ปีชื่อ อาห์หมัด อัล-ซาบูลี กล่าวให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการโจมตีเมื่อเดือน ก.ย. 2012 ในเมืองซาราร์ของเยเมน ที่มีการโจมตีใส่รถตู้จนมีพลเรือนเสียชีวิต 12 ราย ขณะที่ผู้นำกลุ่มก่อการร้ายอัล-เคดาในพื้นที่ซึ่งเป้นเป้าหมายไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ เขาเล่าวาเมื่อเข้าไปดูเหตุการณ์เขาพบร่างของเหยื่อที่ถูกโจมตีด้วยโดรนไหม้เกรียมจนจำหน้าไม่ได้ จนกระทั่งเขาได้เห็นร่างที่จำได้ว่าของพ่อแม่และน้องสาวของตน

นอกจากนี้การโจมตีบางส่วนยังเป็นการขัดต่อหลักแนวทางปฏิบัติของโอบาม่าที่ได้ประกาศไว้เมื่อต้นปี เช่นการให้คำมั่นว่าจะมีการสังหารผู้ต้องสงสัยก็ต่อเมื่อไม่มีทางอื่นที่สามารถจับกุมตัวได้ เช่นปฏิบัติการเมื่อวันที่ 17 เม.ย. ปีนี้ ที่มีการโจมตีผู้นำกลุ่มอัล-เคดา ในจังหวัดดามาร์ ภาคกลางของเยเมน

ทางแอมเนสตี้มีข้อเรียกร้องให้ทางการสหรัฐฯ และปากีสถานเปิดเผยความจริงเรื่องปฏิบัติการโดรนต่อสาธารณชนและมีการสืบสวนกรณีที่อาจเป็นการสังหารพลเรือนอย่างผิดกฎหมาย รวมถึงมีการชดเชยให้ผู้สูญเสียและนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้ประชาคมโลกกดดันทั้งสองประเทศให้ปฏิบัติตามมาตรการและการเยียวยาดังกล่าว


เรียบเรียงจาก

Drone strikes by US could be classed as war crimes, says Amnesty International, The Guardian, 22-10-2013

USA must be held to account for drone killings in Pakistan, Amnesty, 22-10-2013

US: Reassess Targeted Killings in Yemen, Human Right Watch, 22-10-2013
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net