กลุ่มนศ. จี้ตลาดหุ้น ร้องสอบเหมืองทุ่งคำผิดหลักจรรยาบรรณธุรกิจ

เครือข่ายคนรุ่นใหม่ติดตามและเฝ้าระวังผลกระทบจาการทำเหมืองแร่ พร้อมชาวบ้านจากจ.เลย ประท้วงหน้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเพื่อคัดค้านการจัดเวทีศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่เหมืองทุ่งคำ จ.เลย 
 
4 พฤศจิกายน 2556 เครือข่ายคนรุ่นใหม่ติดตามและเฝ้าระวังผลกระทบจาการทำเหมืองแร่ประเทศไทย ประกอบไปด้วยกลุ่มเยาวชน 9 กลุ่มจากหลายภูมิภาค พร้อมกับชาวบ้านในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการทำเหมืองแร่ทุ่งคำ ต.นาโป่ง อ.เมือง จ. เลย ได้เดินทางไปชุมนุมบริเวณหน้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บริเวณศูนย์ประชุมสิริกิตติ์ ถนนรัชดาภิเสก เพื่อเรียกร้องให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ฯ ยกเลิกผลการจัดทำเวทีรับฟังความคิดเห็นด้านผลกระทบสิ่งแวดล้อม ซึ่งจัดทำไปในชุมชนที่ได้รับผลกระทบเมื่อวันที่ 8 กันยายน ที่ผ่านมา ท่ามกลางการคัดค้านของชาวบ้านและนักศึกษาในพื้นที่
 
นอกจากนี้ ทางกลุ่มยังได้เรียกร้องให้ตลาดหลักทรัพย์ ตรวจสอบจริยธรรมและธรรมาภิบาลในการดำเนินธุรกิจของบริษัททุ่งคาฮาเบอร์ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของบริษัททุ่งคำ ด้วยการตรวจสอบและเผยแพร่รายงานการตรวจสอบต่อสาธารณะ ว่าด้วยการกระทำที่ทางกลุ่มมองว่าขาดจรรยาบรรณในการทำธุรกิจ ด้วยการฟ้องดำเนินคดีในทางแพ่งและอาญาต่อชาวบ้านที่ทำการคัดค้านการเข้ามาสร้างเหมืองแร่ 
 
 
นายจตุภัทร์ บุญภัทรักษา หนึ่งในนักศึกษาจากกลุ่มดาวดิน จากม.ขอนแก่น ที่คัดค้านการสร้างเหมืองทองคำกล่าวถึงเหตุผลที่มาประท้วงบริเวณตลาดหลักทรัพย์ว่า เป็นการประท้วงต่อสถาบันที่เป็นสัญลักษณ์ของนายทุน ซึ่งต้องมีความรับผิดชอบ มีจรรยาบรรณในการทำธุรกิจ 
 
"จรรยาบรรณ ธรรมาภิบาลของนักลงทุน ไม่เคยถูกหยิบยกมาพูดถึงในสังคม แค่ลอยตัวอยู่มาตลอด เลยอยากให้เห็นว่านี่เป็นบทบาทของทุนที่ต้องรับผิดชอบต่อการลงทุน ไม่เพียงแต่รัฐเท่านั้น" เขากล่าว 
 
ทางกลุ่มได้ยื่นจดหมายเปิดผนึกต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยมีตัวแทนจากผู้บริหารได้ออกมารับจดหมาย
 
0000
 
แถลงการณ์
 
เครือข่ายคนรุ่นใหม่ติดตามและเฝ้าระวังผลกระทบจาการทำเหมืองแร่ประเทศไทย
เรื่องการขาดจริยธรรมอย่างร้ายแรงของบริษัท ทุ่งคำ จำกัด
 
ในวันที่ 8 กันยายน 2556  การจัดเวทีกำหนดขอบเขตศึกษารายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ หรือพับลิก สโคปปิง เพื่อประกอบการขอประทาน ของบริษัท ทุ่งคำ จำกัด ที่วัดโพนทอง ต.นาโป่ง อ.เมือง จ. เลย  นั้นมีการปิดกั้นไม่ให้ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินธุรกิจของบริษัทเข้าร่วมแสดงความคิดเห็น  โดยใช้กองกำลังตำรวจมากกว่า 700 นาย การกระทำดังกล่าวได้กระทำราวกับว่าชาวบ้านเป็นอาชญากร ทั้งๆ ที่พวกเขาต้องการเดินทางมาเพื่อแสดงความคิดเห็นเท่านั้น  ใครกันแน่ที่เป็นอาชญากร?  ใครกันแน่ที่ปล้นชิงทรัพยากรของผู้อื่นราวกับอาชญากร  ทั้งนี้ ตลอดการดำเนินการของทุ่งคำในการทำเหมืองแร่ทองคำเกือบสิบปีที่ผ่านมา ในท้องที่ ต.เขาหลวง อ.วังสะพุง จ.เลย  นั้น ได้ก่อเกิดปัญหาและผลกระทบต่างๆ มากมาย พบชาวบ้านหลายร้อยคนมีสารพิษและโลหะหนักปนเปื้อนสะสมอยู่ในร่างกายจนเกินเกณฑ์มาตรฐาน จำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ  
 
จากที่กล่าวมาข้างต้นแสดงให้เห็นถึงการขาดจริยธรรมและธรรมาภิบาลอย่างร้ายแรงในการประกอบกิจการของทุ่งคำ  ซึ่งจริยธรรมและธรรมาภิบาลนั้นเป็นข้อกำหนดหนึ่งของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งพวกเรารู้ดีว่าของทุ่งคำเป็นธุรกิจหลักของบริษัทแม่คือบริษัททุ่งคาฮาเบอร์ 
 
แต่ทุ่งคำและทุ่งคาฮาเบอร์ไม่เคยเกิดสำนึกรับผิดชอบใดๆ  มิหนำซ้ำยังฟ้องคดีชาวบ้านให้สาแก่ใจ  ด้วยเหตุที่ชาวบ้านช่วยเหลือตัวเองด้วยการก่อกำแพงขวางถนนเพื่อปิดกั้นรถขนสารเคมีเป็นพิษในกระบวนการทำเหมืองแร่ แต่งแร่และถลุงแร่ แต่ทุ่งคำกลับโกรธแค้นชาวบ้านด้วยการฟ้องคดีทั้งอาญาและแพ่ง 
 
ในวันนี้เรากลุ่มเครือข่ายคนรุ่นใหม่ติดตามและเฝ้าระวังผลกระทบจากการทำเหมืองแร่ประเทศไทย ได้มารวมตัวกันที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย  เพื่อมาบอกกับคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ฯ ซึ่งท่านกำลังร่วมเป็นส่วนหนึ่งของอาชญากรรมครั้งนี้  ถ้าหากท่านนิ่งดูดายปล่อยให้อาชญากรเหมืองแร่ฆ่าชาวบ้านอย่างเลือดเย็น เหมือนตายทั้งเป็น-ตายในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่  เรามาเพื่อให้ท่านตั้งคำถามกับตัวท่านเองว่าท่านเป็นส่วนหนึ่งของอาชญากรรมครั้งนี้หรือไม่  ท่านกำลังส่งเสริมให้มีการซื้อขายหุ้นบนกองเลือดของประชาชนหรือไม่  นั่นเท่ากับว่าตลาดหลักทรัพย์แห่งนี้กำลังจะเปื้อนไปด้วยเลือดของประชาชน
 
พวกเรามีข้อเรียกร้อง 3 ประการ ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ฯ  ดังนี้ 
1. ขอให้ยกเลิกผลของการจัดเวทีพับลิก สโคปปิง  เพื่อจัดทำรายงาน EHIA   เพราะเป็นเวทีที่ขาดความชอบธรรมขัดต่อรัฐธรรมนูญฯ โดยใช้กองกำลังตำรวจปิดกั้นการมีส่วนร่วมของประชาชนทั้งสองเวที 
2. ขอให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย. แสดงจุดยืนเคียงข้างประชาชนโดยดำเนินการสอบจริยธรรมและธรรมาภิบาลในการดำเนินธุรกิจของทุ่งคาฮาเบอร์ ที่เป็นบริษัทแม่ของทุ่งคำอย่างเร่งด่วน และต้องเผยแพร่รายงานการตรวจสอบสู่สาธารณะ การไร้จริยธรรมและธรรมาภิบาล  การกลั่นแกล้งชาวบ้านด้วยการฟ้องคดี  และอื่นๆ ประกอบการตรวจสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วน  
3. ขอให้ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย  และ.คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ฯ  เพิกถอนหลักทรัพย์ของทุ่งคาฮาเบอร์ออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อเป็นการลงโทษขั้นร้ายแรง ต่อการก่ออาชญากรรมขั้นร้ายแรงกับชาวบ้านในตำบลเขาหลวง อ.วังสะพุง จ.เลย 
4. ขอให้กำกับจริยธรรมและธรรมาภิบาลด้วยการสั่งให้บริษัททั้งสองถอนฟ้องคดีชาวบ้านทั้งหมด
 
เครือข่ายคนรุ่นใหม่ติดตามและเฝ้าระวังผลกระทบจาการทำเหมืองแร่ประเทศไทย วันที่  4  พฤศจิกายน  2556
 
รายชื่อกลุ่มที่ร่วมเครือข่าย 
- กลุ่มคนรักษ์บ้านเกิด
- กลุ่มเผยแพร่สิทธิมนุษยชนเพื่อนสังคม (ดาวดิน) 
- ชมรมนักศึกษาเพื่อการพัฒนา (ชนพ.) ม.ขอนแก่น 
- กลุ่มนกกุญแจ มหาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด
- กลุ่มเยาวชนสร้างสันต์สุราษฎร์ธานี
- อาศรมต้นบาก
- กลุ่มรักษ์เขาชะเมา
- คนรุ่นใหม่ตะวันออก
- กลุ่มเยาวชนอนุรักษ์ลุ่มน้าคลองยัน จ. สุราษฐ์ธานี
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท