Skip to main content
sharethis

สมบัติ บุญงามอนงค์ ระบุการผ่านร่างนิรโทษกรรม ทำให้เสื้อแดงเห็นว่านักการเมืองแย่จริงอย่างที่เสื้อเหลืองพูด และหากยังเป็นเช่นนี้ไม่เชื่อว่า พท. จะกลับมาเป็นรัฐบาลได้ เพราะเสื้อแดงส่วนหนึ่งและสวิงโหวตจะไม่เลือก พท. อีก และ 'ไทยเฉย' จะโหวตสั่งสอน พร้อมแปลกใจที่นักการเมืองปราศรัยกันว่าทักษิณโกง แต่ขอถามว่าพวกเขาเองไม่โกงหรอกหรือ

7 พ.ย. 2556 - เมื่อเวลา 19.00 น. วันนี้ (7 พ.ย.) ที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย หรือ FCCT มีการเสวนาหัวข้อ "Thailand's Red Shirts a a turning point?" โดยยุกติ มุกดาวิจิตร นักวิชาการคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด จากกลุ่มวันอาทิตย์สีแดง อย่างไรก็ตาม จตุพร พรหมพันธุ์ และธิดา ถาวรเศรษฐ แกนนำ นปช. ได้แจ้งยกเลิกการมาร่วมเสวนา โดยผู้จัดงานให้เหตุผลด้านความปลอดภัย

ทั้งนี้เมื่อเวลา 17.00 น. มีการชุมนุมต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม อยู่ที่หน้าห้างอัมรินทร์พลาซา ใกล้กับแยกราชประสงค์ ไม่ไกลจากสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง)

ทั้งนี้ สมบัติ หรือ บก.ลายจุด เริ่มต้นอภิปรายว่า "เราอยากมีนักการเมืองที่เป็นนักประชาธิปไตย แต่เมืองไทยมันไม่มี แต่สิ่งที่เรามีคือเอาคนพวกนี้มาใช้ก่อนชั่วคราว แต่เราต้องพยายามหานักการเมืองที่เป็นนักประชาธิปไตยด้วย"

"เวลาคนเสื้อแดงอธิบายว่าตัวเองเป็นฝ่ายประชาธิปไตย และเสื้อเหลืองเป็นอนุรักษนิยม ผมไม่ค่อยแน่ใจ คือมีทั้งคนที่อยากได้ประชาธิปไตยที่ดีขึ้น และมีคนที่ต้องการเอาประโยชน์จากมันทั้งสองฝ่าย ผมคิดว่าพวกที่มาเป่านกหวีดอยู่ตอนนี้ มีความชอบธรรมที่จะบอกว่ารัฐบาลไม่ชอบธรรม และสะท้อนว่าคนที่ออกมาเขารู้สึกว่าประเทศนี้ อำนาจเป็นของเขา แต่สิ่งที่ผมรู้สึกแน่ที่สุดในพวกเสื้อเหลืองคือการชอบอ้างเรื่องตัวบุคคล โดยเฉพาะสถาบันพระมหากษัตริย์ซึ่งผมคิดว่ามันไม่เกี่ยวเวลาพูดเรื่องประชาธิปไตย และทำให้คนพวกนี้ดูล้าหลัง"

"ส่วนเสื้อแดงเขาเริ่มจากพื้นฐานมากๆ คือพูดถึงว่าช่วยนับพวกเขาเป็นหนึ่งคนและหนึ่งเสียง เขารู้สึกถึงความเป็นประชาธิปไตยจากการที่เขาใช้บัตรประชาชนไปโหวตรัฐบาล เป็นสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกว่าเขามีอำนาจ และการรัฐประหารปี 2549 เป็นการดูถูกการมีอยู่ของเขา การรัฐประหารเป็นการปฏิเสธเสียงพวกเขา ทำให้มันไม่มีค่าอะไรเลย ผมอยากจะบอกว่าประชาชนทุกกลุ่ม สังคมไทยกำลังเคลื่อนเป็นสังคมประชาธิปไตยทั้งหมด แต่มาจากละทิศทาง ความขัดแย้งของทั้งสองฝ่ายเกิดจากการยึดติดตัวบุคคล"

แต่ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นเกิดจากการยึดติดตัวบุคคล คือเสื้อเหลืองยึดติดกับสถาบันพระมหากษัตริย์เหมือนเป็นพระเจ้า ขณะที่เสื้อแดงก็ยึดติดกับทักษิณเหมือนเป็นพระเจ้า ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อไทยกับเสื้อแดงเป็นปรากฏการณ์ที่น่าสนใจ เป็นครั้งแรกที่เห็นว่าเสื้อแดงส่วนใหญ่รู้สึกโกรธและไม่เห็นด้วยกับพรรคเพื่อไทยมันเป็นปรากฏการณ์ที่เหลือเชื่อ เป็นตัวชี้วัดว่าเสื้อแดงเขารู้สึกว่าตัวเองเป็นนายนักการเมือง และปรากฏการณ์ทางการเมืองในครั้งนี้นับเป็นครั้งที่นักการเมืองทำให้เห็นว่าพวกเขานั้นแย่จริงอย่างที่เสื้อเหลืองพูด แต่ในฐานะที่เสื้อแดงเป็นคนสร้างรัฐบาลนี้ ดังนั้นเสื้อแดงก็จะทำหน้าที่ปกป้องรัฐบาลจากการถูกขับไล่

สมบัติกล่าวถึงการแถลงข่าวของ นปช. (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง) เมื่อวานนี้ว่า เป็นการชี้ให้เห็นรอยร้าวครั้งใหญ่ระหว่าง นปช. กับพรรคเพื่อไทยและอาจจะมีการตั้งพรรคการเมืองซึ่งตัวเขาเห็นด้วยที่จะมีพรรคเสื้อแดง แต่เมื่อเย็น ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และจตุพร พรหมพันธุ์ไปที่พรรคเพื่อไทย มีการพบยิ่งลักษณ์และแถลงข่าว แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามเขาคิดว่าควรจะมีพรรคเสื้อแดงได้แล้ว และเห็นว่าการรอมชอมที่เพิ่งเกิดขึ้นเป็นเพราะสถานการณ์เฉพาะหน้า และไม่คิดว่าความสัมพันธ์แบบเดิมจะเดินต่อไปได้ แต่ตัวเขาเห็นด้วยที่จะจับมือกันในช่วงสถานการณ์เฉพาะหน้า และชี้ว่าหากมีการยุบสภา ไม่เชื่อว่าเพื่อไทยจะกลับมาเป็นรัฐบาลได้ เพราะ หนึ่ง เสียงของประชาธิปัตย์กับเพื่อไทยห่างกันแค่สามล้านเสียง สอง เสื้อแดงส่วนหนึ่งจะไม่เลือกเพื่อไทย สาม สวิงโหวตที่เคยโหวตให้เพื่อไทยก็จะไม่โหวตให้เพื่อไทยอีก และสี่พวกไทยเฉยกว่า 17 ล้านคนที่ไม่ไปโหวต ปรากฏการณ์ครั้งนี้ ไทยเฉยจะไปสั่งสอนเพื่อไทยผ่านการโหวตแน่ๆ

ทั้งนี้ สมบัติกล่าวว่า เราต้องการพรรคการเมืองทางเลือกสองพรรค คือหนึ่ง พรรคเสื้อแดง และสอง พรรคเสื้อขาว

สำหรับประเด็นคอร์รัปชั่นที่นำมาโจมตีทักษิณนั้น มันมีอยู่ในวัฒนธรรมไทย ดูเหมือนว่าคนไทยเอาความเกลียดคอร์รัปชั่นไปลงที่ทักษิณคนเดียว และรู้สึกแปลกใจว่านักการเมืองที่ปราศรัยต่อมวลชนที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยว่าทักษิณโกง ทักษิณโกง นั้น พวกเขาเองไม่โกงหรอกหรือ

สมบัติกล่าวด้วยว่า แม้รัฐบาลจะถอยการผลักดันเรื่อง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับเหมาเข่งแล้ว แต่กิจกรรม "หมื่นอัพ" จะยังคงเดินหน้าต่อไป เนื่องจากเป็นการแสดงให้เห็นว่าคนเสื้อแดงยังคงมีความไม่พอใจต่อพรรคเพื่อไทยในการพยายามผลักดัน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแบบเหมาเข่ง ดังกล่าว โดยกล่าวว่า กิจกรรมที่จะทำคือการให้ทุกคนถ่ายรูปบัตรประชาชนและขู่เพื่อไทยว่าคนก็ยังออกมาคัดค้านอยู่
 
"ต้องให้บทเรียนแก่พรรคจะได้ไม่ลืม เป็นโอกาสและจังหวะดีจะได้จะสั่งสอนและให้บทเรียนแก่พรรคเพื่อไทย" สมบัติกล่าว
 
อย่างไรก็ตาม เขากล่าวว่ายังคงแค้นกับ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ทำต่อคนเสื้อแดงสามปีที่แล้ว ถือว่าเป็นการระบายความแค้นกับทั้งสองพรรคการเมือง ทั้งเพื่อไทยและประชาธิปัตย์ นอกจากนี้ เขาระบุว่าคนเสื้อแดงยังจำเป็นต้องรวมตัวกันให้มากที่สุดในตอนนี้ เพราะสถานการณ์ได้เปลี่ยนไป เพราะเสื้อเหลืองและประชาธิปัตย์อาจจะใช้โอกาสนี้เรียกร้องให้โค่นล้มรัฐบาล เสื้อแดงจึงต้องรวมกันเพื่อประลองกำลัง
 
"ในตอนแรกไม่แน่ใจว่าคนจะถึงหมื่นไหม แต่พอรายการตัวเองถูกถอดจากเอเชียอัพเดท มั่นใจมากว่าน่าจะออกมาเยอะ เพราะคนไม่พอใจ และคนต้องออกมาถึงหมื่นแน่นอน"

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net