Skip to main content
sharethis

หลังครบเส้นตาย 'สุเทพ' ให้ ครม. ลาออกจากรักษาการ ล่าสุดมีคำสั่ง กปปส. ฉบับที่ 2 ให้ดำเนินคดียิ่งลักษณ์ ชินวัตรและพวกในความผิดฐานกบฎ สั่งให้ตำรวจถอนกลับที่ตั้ง ให้ทหารดูแลสถานที่ราชการ ให้ผู้ชุมนุมติดตามความเคลื่อนไหวของ ครม. และพวก

10 ธ.ค. 2556 - หลังครบกำหนด 24 ชั่วโมง ที่เมื่อวานนี้สุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ออกคำสั่ง "คำสั่งคณะกรรมการ กปปส.ฉบับที่ 1/2556" ให้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีลาออกจากการเป็นรักษาการนั้น (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง)

ล่าสุดเมื่อเวลา 22.30 น. สุเทพ ได้ปราศรัยบนเวทีและอ่าน "คำสั่งของคณะกรรมการกปปส. ฉบับที่ 2/2556" ระบุว่า

"ตามที่คณะกรรมการ กปปส. ได้ ขอให้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีประกาศไม่ปฏิบัติหน้าที่รักษาการและไม่แต่งตั้งบุคคลอื่นขึ้นรักษาการ ภายใน 24 ชั่วโมง ตามคำสั่งคณะกรรมการ กปปส. ฉบับที่ 1/2556 อันเป็นการเปิดโอกาสให้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก้าวลงจากอำนาจโดยละมุนละม่อม ทั้งที่ความเป็นนายกรัฐมนตรีของ น.ศ.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และคณะรัฐมนตรีได้สิ้นสุดลงตั้งแต่วันที่ประกาศไม่ยอมรับรัฐธรรมนูญ เพื่อให้กระบวนการคืนอำนาจให้แก่มวลมหาประชาชนในการทำประชาภิวัฒน์เพื่อปฏิรูปประเทศไทยเป็นไปโดยราบรื่น แต่เมื่อครบกำหนดเวลาดังกล่าว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร บังอาจอ้างว่า ตนมีอำนาจตามบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญอยู่ อันเป็นการขัดขวางกระบวนการประชาภิวัฒน์ของประชาชน คณะกรรมการ กปปส. จึงออกคำสั่ง ดังนี้"

"ข้อ 1 ให้มีการดำเนินคดีกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และพวกในความผิดฐานกบฏ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 113 เนื่องจากได้กระทำการล้มล้าง หรือเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ และอำนาจตุลาการแห่งรัฐธรรมนูญ หรือให้ใช้อำนาจดังกล่าวแล้วไม่ได้ อันถือเป็นความผิดอาญาร้ายแรงและจงใจฝ่าฝืนบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยโดยไม่สุจริตครั้งแล้วครั้งเล่า"

"ข้อ 2 ให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติสั่งให้ตำรวจทุกหน่วยถอนกำลังกลับไปที่ตั้งปกติ และปฏิบัติหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อย และทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ตามปกติ โดยให้ดำเนินการออกคำสั่งภายใน 12 ชั่วโมง นับแต่มีคำสั่งนี้"

"ข้อ 3 คณะกรรมการ กปปส. เห็นว่า เจ้าหน้าที่ทหารเป็นหน่วยงานที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนมากที่สุด จึงขอให้เจ้าหน้าที่ทหาร ปฏิบัติหน้าที่รักษาสถานที่ราชการ เพื่อให้เกิดความเรียบร้อยต่อไป"

"ข้อ 4 ขอให้มวลมหาประชาชนติดตามพฤติกรรม ความเคลื่อนไหวของคนในตระกูลชินวัตร และบุคคลในคณะรัฐมนตรีที่มิชอบด้วยรัฐธรรมนูญอย่างใกล้ชิด ให้แสดงออกต่อกลุ่มบุคคลดังกล่าวในแนวทางสันติ อหิงสา เพื่อให้หยุดการกระทำที่ฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญและเจตจำนงของมวลมหาประชาชน สั่ง ณ วันที่ 10 ธันวาคม 2556"

สุเทพ ปราศรัยด้วยว่า คณะกรรมการ กปปส. ยังแน่วแน่ที่จะร่วมดำเนินการทุกอย่างทุกประการกับพี่น้องประชาชนจนกว่าจะบรรลุเป้าหมายคือการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็น "การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันสมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข" และระบุว่าจะร่วมกันปฏิรูปประเทศไทยด้วยมือของประชาชน

ทั้งนี้ช่วงหัวค่ำ สุเทพ ได้ประกาศว่านายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีโมฆะไปแล้ว ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในความเป็นรัฏฐาธิปัตย์ของ กปปส. ซึ่งพร้อมอภิวัฒน์ประเทศ และปราศรัยเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี ครม. ประธานวุฒิสภาลาออก เพื่อให้รองประธานวุฒิสภากราบบังคมทูลเสนอชื่อคนดีเป็นนายกรัฐมนตรี

ส่วนในช่วงบ่ายวันนี้ มีรายงานว่าระหว่างเวลา 13.30 - 16.00 น. สุเทพ ได้เข้าหารือกับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ทบ. ที่บ้านพักพลเอกประวิตร ในกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง)

นอกจากนี้ในช่วงเช้าขณะที่มีการประชุมคณะรัฐมนตรีที่สโมสรทหารบก ถ.วิภาวดีรังสิต  รังสิมา รอดรัศมี อดีต ส.ส.สมุทรสงคราม นาถยา เบ็ญจศิริวรรณ อดีต ส.ส.กทม. บุณย์ธิดา สมชัย อดีต ส.ส.อุบลราชธานี ได้นำผู้ชุมนุม กปปส. จากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยมุ่งหน้าสโมสรทหารบกเพื่อประท้วงการประชุม ครม. เรียกร้องให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่มาถึงหลังจาก ครม. เลิกประชุมแล้ว (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง)

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net