Skip to main content
sharethis

เลขาธิการสปสช.เผยผลการดำเนินงานที่ผ่านมา สามารถแก้ไขข้อร้องเรียนประชาชนได้แล้วเสร็จใน 30 วัน ถึง 97% และได้รับการประเมินจากอาเซียนว่ามีระบบการรับเรื่องร้องเรียนในระดับต้นๆของภูมิภาค แผนงานอนาคตเตรียมขยายเป็นต้นแบบคุ้มครองสิทธิ์ในอาเซียน

เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2557 ณ โรงแรมริชมอนด์ จ.นนทบุรี มีการประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งที่ประชุมได้มีมติให้ นายแพทย์จรัล ตฤณวุฒิพงษ์ กรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ทำหน้าที่ประธานการประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งที่ประชุมได้รับทราบวาระที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)ได้รับรางวัลองค์กรที่มีผลงานดีเด่น ด้านการส่งเสริม ปกป้องและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ประจำปี ๒๕๕๖ ของ สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.)

นายแพทย์วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสปสช. กล่าวว่า นอกจากการดำเนินการสร้างและพัฒนาหลักประกันสุขภาพให้กับประชาชนแล้ว สปสช. มีหน้าที่ตามมาตรา 26 (8) พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545 สนับสนุนให้ประชาชนได้รับการคุ้มครองสิทธิ เพื่อให้ประชาชนรับรู้สิทธิ เข้าถึงสิทธิ และได้รับการปกป้องคุ้มครองสิทธิตามกฎหมาย หน้าที่ตามมาตรา 41 ในการจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นให้แก่ผู้รับบริการที่ได้รับความเสียหายจากการรักษาพยาบาลของหน่วยบริการ และหน้าที่ตามมาตรา 18(4) ในการจ่ายเงินช่วยเหลือกรณีผู้ให้บริการได้รับความเสียหายจากการให้บริการสาธารณสุขด้วย

นพ.วินัย กล่าวว่า ผลงานเด่นของสปสช.คือ การจัดการกระบวนการรับเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์แบบครบวงจร โดยสปสช.จัดช่องทางให้บริการการสอบถามข้อมูลสิทธิประโยชน์ ให้คำแนะนำในการใช้บริการ รับเรื่องร้องเรียน ประสานงานแก้ไขปัญหาและคุ้มครองสิทธิให้แก่ผู้รับบริการและรับฟังเสียงจากลูกค้าที่ครอบคลุมทุกจังหวัด ได้แก่ โทรศัพท์สายด่วนสปสช. 1330 เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน, สปสช.สาขาเขต13 เขต, สปสช.สาขาจังหวัด 77 จังหวัด, หน่วยรับเรื่องอื่นที่เป็นอิสระจากผู้ถูกร้องเรียน, ศูนย์บริการหลักประกันสุขภาพในโรงพยาบาล, ศูนย์ประสานงานหลักประกันสุขภาพประชาชน และหน่วยงานอื่นที่ประสานเชื่อมต่อข้อมูลเรื่องร้องเรียน เช่น สายด่วน 1111, สำนักราชเลขา, ศูนย์ดำรงธรรม เป็นต้น โดยสามารถแก้ไขปัญหาแล้วเสร็จภายใน 30 วันทำการ สูงถึงร้อยละ 97 และผลสำรวจความพึงพอใจของประชาชนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่การจัดการคุ้มครองสิทธิประชาชนในภาวะวิกฤติ สปสช.ได้เพิ่มช่องทางเพื่อสร้างการรับรู้ข้อมูลเกี่ยวกับระบบหลักประกันสุขภาพ ผ่าน Social media ผ่านสื่อบุคคล และเครือข่ายภาคีที่เกี่ยวข้อง ส่งผลให้ผู้ประสบภัยที่เป็นโรคเรื้อรังได้รับทราบข้อมูล ได้รับการดูแลรักษาต่อเนื่อง

เลขาธิการสปสช. กล่าวว่า ที่ผ่านมาสปสช. ได้รับการประเมินจากโครงการพัฒนารูปแบบกลไกการรับเรื่องร้องเรียนและเยียวยาผู้บริโภคในอาเซียน ซึ่งได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการอาเซียนด้านการคุ้มครองผู้บริโภค (ASEAN Committee on Consumer Protection : ACCP) ให้ดำเนินการโครงการดังกล่าว และได้เข้าประเมินการคุ้มครองสิทธิของสปสช. พบว่า กระบวนการการรับเรื่องร้องเรียนของสปสช. ปัจจุบันดีในระดับต้นๆเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆในภูมิภาคอาเซียน สำหรับแผนการทำงานในอนาคตนั้น สปสช. ได้ร่วมสนับสนุนข้อมูลและร่วมประชุมแผนงานความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างอาเซียนและออสเตรเลีย คณะกรรมการอาเซียนด้านการคุ้มครองผู้บริโภคและสำนักเลขาธิการอาเซียน เพื่อดำเนินโครงการพัฒนารูปแบบกลไกการรับเรื่องร้องเรียนและเยียวยาผู้บริโภคในอาเซียน โดยเป็นการศึกษารูปแบบที่เป็นไปได้และเหมาะสมสำหรับการนำไปใช้ในการคุ้มครองผู้บริโภคในภูมิภาคอาเชียน ซึ่งสปสช.ได้รับการเสนอให้เป็นแบบอย่างที่ดีในจัดการกับเรื่องร้องเรียนด้วย

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา สปสช.เคยได้รับคัดเลือกรับรางวัลกองทุนหมุนเวียนดีเด่น จากกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง มาตั้งแต่ปี 2551-2555 และในปี 2556 ก็ได้รับคัดเลือกให้รับรางวัลกองทุนหมุนเวียนเกียรติยศ ซึ่งคัดเลือกจากกองทุนที่ได้รับรางวัลติดต่อกัน 5 ปี ด้วย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net