Skip to main content
sharethis

กลุ่มโลกสวยออกแถลงการณ์เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีและประธาน กกต.ร่วมกันหารืออย่างเร่งด่วนเพื่อกำหนดวันเลือกตั้งใหม่ อย่างไรก็ตาม การเลื่อนการเลือกตั้งออกไปต้องไม่เกินกว่า 3 - 5 เดือน เพื่อคลี่คลายความขัดแย้งและสร้างการปฏิรูปที่เป็นรูปธรรม


24 ม.ค. 2557 - กลุ่มโลกสวยเพื่อปฎิรูปการเมืองตามวิถีประชาธิปไตยด้วยสันติวิธี ออกแถลงการณ์ 24 มกราคม 2557 โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้


แถลงการณ์กลุ่มโลกสวยเพื่อปฎิรูปการเมืองตามวิถีประชาธิปไตยด้วยสันติวิธี
24 มกราคม 2557


สถานการณ์การเมืองไทยในขณะนี้ ถือได้ว่า เข้าสู่ภาวะวิกฤติมากที่สุดยิ่งกว่าครั้งใดในประวัติศาสตร์ ยิ่งเมื่อเข้าใกล้กำหนดวันเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.นี้ โดยมีปัจจัยและแนวโน้มที่จะเผชิญหน้ากันด้วยความรุนแรงของสองฝ่าย ทั้งจากฝ่ายที่ต้องการขัดขวางการเลือกตั้ง และฝ่ายที่ต้องการเดินหน้าเลือกตั้ง นอกจากจะทำให้เกิดความสูญเสีย บาดเจ็บล้มตายของชีวิตคนไทยด้วยกัน ไม่เพียงแค่ในวันที่ 2 ก.พ.นี้เท่านั้น แต่มีแนวโน้มที่จะเกิดการปะทะของผู้ที่เห็นต่างทางการเมืองลามออกไปในระยะยาว ซึ่งจะนำไปสู่ความแตกร้าวในสังคมที่อาจต้องอาศัยการเยียวยามากกว่าชั่วอายุคน

กลุ่มโลกสวยเพื่อปฏิรูปการเมืองตามวิถีประชาธิปไตยด้วยสันติวิธี เห็นว่าการวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญว่า การเลื่อนการเลือกตั้งสามารถทำได้ และอำนาจการเลื่อนนั้น เป็นอำนาจหน้าที่ของคณะรัฐมนตรี โดยให้ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งไปหารือกับนายกรัฐมนตรีเพื่อออกพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งใหม่นั้น เป็นการใช้อำนาจหน้าที่ภายใต้บทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญเพื่อเอื้ออำนวยให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องสามารถใช้โอกาสดังกล่าวในการคลี่คลายวิกฤตทางการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปิดโอกาสให้สามารถกำหนดวันและกระบวนการเลือกตั้งที่ทุกฝ่ายเห็นพ้องต้องกันภายใต้กรอบประชาธิปไตยและการคำนึงถึงสิทธิร่วมกันของประชาชน ซึ่งสามารถเริ่มต้นการปฏิรูปการเมืองไปได้ทันทีพร้อมๆกับการเลือกตั้ง

เราขอแสดงจุดยืนและเรียกร้องต่อฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้

1.ขอให้ทุกฝ่ายเคารพต่อการตัดสินใจของศาลรัฐธรรมนูญ แม้ว่าคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญในบางกรณีที่ผ่านมาอาจทำให้หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า ได้สร้างบรรทัดฐานการวินิจฉัยเกินขอบเขตอำนาจตุลาการ ดังในกรณีคำตัดสินเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญในประเด็นที่มาของวุฒิสมาชิก เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ปัญหาการใช้อำนาจเกินขอบเขตที่ควรจะเป็น ไม่ว่าจะเป็นไปโดยฝ่ายบริหาร หรือนิติบัญญัติ ดังกรณีการใช้เสียงข้างมากของรัฐสภาในกรณีการแก้ไขมาตรา 190 และออกพ.ร.บ.นิรโทษกรรม อย่างไม่ชอบธรรม เป็นต้นนั้น เป็นประเด็นสำคัญที่ทุกฝ่ายต้องร่วมกันหาทางออกผ่านกระบวนการปฏิรูปการเมืองต่อไปในระยะยาว

2.เราเห็นว่า การหารือเพื่อเลื่อนระยะเวลาเลือกตั้งออกไปนั้นไม่สามารถลดความขัดแย้งและการเผชิญหน้าได้โดยทันที แต่การยืนยันที่จะจัดการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.โดยไม่ได้รับความยอมรับจากฝ่ายคู่ขัดแย้งก็จะทำให้เกิดการเผชิญหน้าและสุ่มเสี่ยงต่อการทำลายระบอบประชาธิปไตยโดยรวม ดังนั้น สังคมไทยต้องช่วยกันผลักดันให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งทางการเมืองครั้งนี้เข้าร่วมการเจรจาเพื่อหาทางออกให้กับประเทศ โดยเฉพาะฝ่ายต่างๆที่เป็นคู่ขัดแย้งหลักให้ลดเงื่อนไขที่นำไปสู่ความรุนแรง  โดยพรรคประชาธิปัตย์ต้องเข้าร่วมลงสมัครรับเลือกตั้ง กปปส.ต้องยุติการชุมนุมหรือไม่ขัดขวางการเลือกตั้ง นายกรัฐมนตรีรักษาการลดบทบาทลงหรือหยุดปฏิบัติหน้าที่ พร้อมๆกับการเปิดโอกาสให้ประชาชนทุกกลุ่มเข้าร่วมการปฏิรูปทางการเมืองซึ่งต้องจัดให้มีขึ้นโดยทันที ตามวิถีประชาธิปไตย

3.เราขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีและประธาน กกต.ร่วมกันหารืออย่างเร่งด่วนเพื่อกำหนดวันเลือกตั้งใหม่ อย่างไรก็ตาม การเลื่อนการเลือกตั้งออกไปต้องไม่เกินกว่า 3 – 5 เดือน เพื่อคลี่คลายความขัดแย้งและสร้างการปฏิรูปที่เป็นรูปธรรม โดยที่ยังเคารพสิทธิของประชาชน การเลื่อนการเลือกตั้งออกไปอย่างยาวนานหรือไม่มีกรอบเวลาที่ชัดเจน จะนำมาสู่ความขัดแย้งและเสียหายที่ประเมินค่าไม่ได้เช่นกัน

4.รัฐบาลรักษาการและ กปปส. ต้องแสดงความจริงใจอย่างเป็นรูปธรรมในการสนับสนุนกระบวนการปฏิรูปอย่างมีส่วนร่วมในทันที ทั้งนี้จะเป็นการยืนยันว่าการปฏิรูปและการเปลี่ยนผ่านสามารถเกิดขึ้นได้ภายใต้กระบวนการประชาธิปไตยและยึดโยงกับประชาชน

ประชาชนที่สนับสนุนกปปส. ประชาชนที่สนับสนุนรัฐบาล นักวิชาการ และประชาชนทุกคนที่อยู่ท่ามกลางความขัดแย้งทางการเมืองนี้ พึงตระหนักว่า พวกเราทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในการคลี่คลายความขัดแย้งนี้ได้ โดยกดดันให้กลุ่มแกนนำของความขัดแย้งนี้เร่งการเจรจาให้ถึงที่สุดเพื่อให้ประเทศไทยหลุดพ้นจากหุบเหวแห่งหายนะที่รออยู่เบื้องหน้า

คู่ขัดแย้ง ทั้ง รัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทย กปปส. และพรรคฝ่ายค้าน รวมทั้งองค์กรและผู้ให้การสนับสนุนคู่ขัดแย้งครั้งนี้ทั้งที่เปิดเผยและไม่เปิดเผย พึงสำนึกว่า การที่วิกฤตการณ์การเมืองไทยดำเนินมาถึงจุดที่สังคมทั้งสังคมใกล้จะล้มเหลวนี้ เป็นเพราะทุกฝ่ายเลือกที่จะผลักวาระและผลประโยชน์ของตัวเองจนสุดโต่ง

ดังนั้น ร่วมกันปลดปลายกระบอกปืนที่พร้อมจะลั่นไกใส่คนไทยด้วยกันเอง เพียงเพราะเหตุผลความแตกต่างทางความคิดลงเสียเถิด ไม่มีเหตุผลและหลักการใดๆที่เป็นข้ออ้างให้ประชาชนฝ่ายหนึ่งที่ยึดมั่นการเลือกตั้งซึ่งเป็นพื้นฐานของประชาธิปไตย  และอีกฝ่ายมุ่งสร้างประชาธิปไตยมีคุณภาพปลอดพ้นจากการทุจริตและใช้อำนาจโดยมิชอบต้องมาเข่นฆ่ากันเอง

ขณะนี้ ยังพอมีช่องทางสู่หน้าต่างแห่งสันติภาพ โปรดร่วมกันคลี่คลายและเดินฝ่าวิกฤตความขัดแย้งครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ทางการเมืองไทยนี้ไปด้วยกัน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net