Skip to main content
sharethis

หลังระงับใช้ร่วม 2 ปี ล่าสุด พ.ร.บ.ป้องกันอาชญากรรมไซเบอร์ของฟิลิปปินส์ มีผลบังคับใช้ต่อแล้ว หลังศาลฎีการะบุให้บทบัญญัติส่วนใหญ่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ 

20 ก.พ. 2557 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (18 ก.พ.) ศาลฎีกาของฟิลิปปินส์ ตัดสินว่า บทบัญญัติส่วนใหญ่ของ พ.ร.บ.ป้องกันอาชญากรรมไซเบอร์ของฟิลิปปินส์ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ

พ.ร.บ.ป้องกันอาชญากรรมไซเบอร์คอมพิวเตอร์ มีผลบังคับใช้เมื่อเดือนกันยายน 2555 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันการเผยแพร่ภาพโป๊เด็ก การขโมยอัตลักษณ์ สแปม ไซเบอร์เซ็กส์และการหมิ่นประมาทออนไลน์ ต่อมา ศาลฎีกาได้ออกคำสั่งระงับการใช้กฎหมายดังกล่าวชั่วคราวเป็นเวลา 120 วัน หลังจากมีการยื่นคำร้อง 15 ฉบับ ถึงความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของกฎหมายดังกล่าว

บทบัญญัติที่ศาลฎีกาฟิลิปปินส์ตัดสินว่าชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ได้แก่
-ความผิดหมิ่นประมาทออนไลน์ โดยศาลระบุเพิ่มเติมว่าจะมีโทษเฉพาะผู้โพสต์เนื้อหาต้นฉบับเท่านั้น ไม่รวมถึงผู้ที่ได้รับเนื้อหาดังกล่าว หรือผู้ที่กดถูกใจ กดแชร์ หรือแสดงความเห็นต่อเนื้อหานั้น
สำหรับโทษจำคุกอยู่ที่ 6 - 12 ปี ขณะที่กฎหมายอาญา โทษอยู่ที่ 6 เดือน-6 ปี

บทบัญญัติที่ศาลฎีกาฟิลิปปินส์ตัดสินว่าไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ได้แก่
-มาตราที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสารในเชิงพาณิชย์ที่ไม่พึงประสงค์ ซึ่งระบุว่า การส่งต่อการสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์เชิงพาณิชย์ด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งพยายามที่จะโฆษณา ขาย หรือเสนอขายสินค้าและบริการจะทำไม่ได้ เว้นแต่เงื่อนไขบางอย่างเช่น - ได้รับความยินยอมจากผู้รับก่อน 
-มาตราที่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่เก็บข้อมูลการจราจรทางคอมพิวเตอร์ได้ทันที
-มาตราที่อนุญาตให้กระทรวงยุติธรรมปิดกั้นการเข้าถึงเนื้อหาดิจิทัลซึ่งเข้าข่ายเป็นหลักฐานในการกระทำความผิดตามกฎหมายฉบับนี้
-การลงโทษผู้ที่ให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนการกระทำความผิดฐานโป๊เด็ก การสื่อสารในเชิงพาณิชย์ที่ไม่พึงประสงค์ (สแปม) และการหมิ่นประมาทออนไลน์

จีโรนีโม แอล. ไซ หัวหน้าสำนักงานอาชญากรรมไซเบอร์ กระทรวงยุติธรรม ระบุว่า กฎหมายดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ โดยตัดบทบัญญัติที่ศาลฎีกาตัดสินว่าขัดรัฐธรรมนูญ ขณะเดียวกัน ตนเองจะเสนอร่างฉบับปรับปรุงที่ดีกว่าเดิมต่อสภาด้วย

โรนัลด์ อกุสโต หัวหน้าแผนกอาชญากรรมไซเบอร์ สำนักงานสอบสวนแห่งชาติ แสดงความยินดีกับคำตัดสินนี้ โดยเชื่อว่ากฎหมายดังกล่าวจะช่วยในการดำเนินงานของพวกเขาและจะสามารถส่งเสริมการป้องกันทางกฎหมายของรัฐต่ออาชญากรรมคอมพิวเตอร์

ขณะนาโต เรเยส นักกิจกรรมจากกลุ่มบายันซึ่งมีแนวคิดเอียงซ้าย ยินดีกับคำตัดสินที่ยกเลิกเรื่องการเอาเนื้อหาลงและการเก็บข้อมูลจราจรโดยไม่ต้องมีหมาย แต่ก็แสดงความกังวลถึงประเด็นการหมิ่นประมาทออนไลน์ โดยมองว่าเป็นการก้าวถอยหลังก้าวใหญ่ของเสรีภาพในการแสดงออก

ด้านสหภาพสื่อมวลชนแห่งชาติของฟิลิปปินส์ ออกแถลงการณ์แสดงความไม่เห็นด้วยกับคำตัดสิน โดยระบุว่านี่เป็นการก้าวไปข้างหน้าครึ่งนิ้ว แต่ถอยหลังกลับไปเป็นศตวรรษ พร้อมบอกว่าการขยายกฎหมายหมิ่นประมาทลงไปในไซเบอร์สเปซของศาลฎีกา จะทำให้เสรีภาพซึ่งเคยไม่มีขอบเขต เข้าไปอยู่ในพื้นที่ของความกลัว ทั้งนี้ ระบุด้วยว่าหวังเพียงว่า ศาลฎีกาจะไม่มืดบอดอีกหากมีการอุทธรณ์คำตัดสินนี้

 


ดูเนื้อหา พ.ร.บ.ป้องกันอาชญากรรมไซเบอร์ที่
http://www.gov.ph/2012/09/12/republic-act-no-10175/

เรียบเรียงจาก
http://sg.news.yahoo.com/philippines-cybercrime-law-now-effect-080038468.html
http://www.techinasia.com/philippines-cybercrime-law-effect-punishing-online-libel-constitutional/
http://www.rappler.com/nation/50881-sc-upholds-cybercrime-law-sections
http://ph.news.yahoo.com/blogs/the-inbox/sc-decision-cybercrime-law-ok-130237916.html

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net