แม้ว่าการยึดอำนาจจากประธานาธิบดียานูโควิชโดยการใช้กำลังอาวุธของกลุ่มนีโอนาซีที่มาจากแคว้นกาลิชิน่า(ตะวันตก)จะได้รับการสนับสนุนจากอียูจนประสบความสำเร็จและมีการฉีกรัฐธรรมนูญของประเทศทิ้ง(ประชาธิปไตยแบบตะวันตกคือต้องเป็นบุคคลที่ให้ประโยชน์จากอียู) พร้อมทั้งก่อให้เกิดปัญหาการจลาจลไปทั่วประเทศ โดยเฉพาะในรัฐทางตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งมีสาธารณรัฐไครเมียรวมอยู่ด้วย เนื่องจากอำนาจทางกฎหมายไม่สามารถจัดการกับความเป็นระเบียบของผู้นำชั่วคราวที่มาจากการฉีกรัฐธรรมนูญในปัจจุบัน ทำให้แต่ละเมืองต้องใช้กองกำลังตนเองในการปกครอง นั่นหมายความว่าเกิดการโค่นอำนาจของตัวแทนประชาธิปไตยที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนโดยที่วิธีการแบบนี้จะได้รับการยอมรับจากประเทศตะวันตก อีกทั้งยังก่อให้เกิดปัญหาที่ตามมาคือหลังจากที่กลุ่มนีโอนาซีได้รับชัยชนะโดยการติดตั้งกองกำลังติดอาวุธของตนเองก็ได้ออกกฎหมายเกี่ยวกับการอนุญาตให้ใช้ภาษายูเครนเป็นภาษาราชการหลัก(ห้ามใช้ภาษาอื่นๆ)ท่าทีดังกล่าวเป็นไปตามฝ่ายที่ใช้ภาษารัสเซียคาดการณ์ไว้
นี่คือปัญหาของกลุ่มนีโอนาซีที่จะมาจัดระบบเศรษฐกิจการเมืองใหม่โดยรัฐทางตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งรวมสาธารณรัฐไครเมียที่ส่วนใหญ่เป็นชาวรัฐเซียอาจถูกกีดกันและเลือกปฎิบัติ
ปัญหานี้ไม่สามารถแก้ไขได้ในกรอบของการเจรจา เนื่องมาจากการเมืองของกลุ่มนีโอนาซีที่มุ่งทำลายล้างผลประโยชน์ของชาวยูเครนที่พูดภาษารัสเซีย อีกทั้งประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐไครเมียยังขอความช่วยเหลือจากปูตินให้มีการคุ้มครองความปลอดภัยแก่ประชาชนในสาธารณรัฐไครเมีย
การตัดสินใจส่งกองกำลังไม่เกิน16,000คนนั้นยังไม่ถือว่ารุกราน เนื่องจากเป็นไปตามข้อตกลงที่รัสเซียกับยูเครนเคยตกลงกัน แต่สิ่งที่สำคัญในการดำเนินนโยบายของปูตินนั้นไม่ได้หมายความว่ารัสเซียต้องการให้ไครเมียเป็นส่วนหนึ่งของประเทศ แต่เป็นการลดการขยายอำนาจของนาโต้ ถ้าหากรัสเซียไม่ดำเนินการหลังรัฐประหาร นั่นหมายความว่ายอมรับแนวคิดการครองความเป็นเจ้าหนึ่งเดียวของสหรัฐอเมริกา นี่คือการทำข้อสอบเกี่ยวกับผู้นำการเมืองโลกหมายเลข1ของปูติน และถ้าหากเขาสอบผ่านไปได้หมายความว่าการเมืองโลกจะแบ่งเป็น2ขั้วเหมือนเดิม นั่นคือ อียูกับสหรัฐอเมริกาและยูเรเชีย+BRICS
การออกมาข่มขู่ของสหรัฐอเมริกาว่าจะตัดความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและมาตรการอื่นๆของชาติตะวันตกนั้นไม่ค่อยเป็นผลดีแก่สหรัฐอเมริกามากนัก แม้ว่าสหรัฐอเมริกาจะมีเศรษฐกิจที่ใหญ่กว่า10เท่าก็ตาม เนื่องจากปัจจุบันรัสเซียมีการหมุนเวียนด้านพลังงานในตลาดโลกคิดเป็น13%ของยอดจำหน่ายประจำวัน การดำเนินมาตรการแบบนี้ยิ่งทำให้เศรษฐกิจยุโรปดิ่งลงเหว
อีกทั้งมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจของรัสเซียสามารถใช้เอาท์ซอร์ทจากจีนและประเทศอื่นได้ การขอให้ตะวันตกเข้ามาช่วยเหลือยูเครนในจำนวนเงิน35,000ล้านเหรียญสหรัฐฯ นั้นไม่เพียงพอต่อการฟื้นฟูทางเศรษฐกิจ เพราะปัจจุบันยูเครนมีหนี้ถึง160,000ล้านเหรียญสหรัฐฯ อีกทั้งตะวันตกยังเรียกร้องให้มีการปรับโครงสร้างพื้นฐานในราคาตลาด
ประชาชนที่ไม่เอารัฐบาลที่มาจากนีโอนาซีนั้นแน่นอนว่ากำลังเรียกร้องการพึ่งพารัสเซียในการแก้ปัญหาและสร้างความชอบธรรมให้แก่ปูตินต่อการสร้างระบบการเมืองในภูมิภาคให้มีดุลยภาพ คือ การแบ่งประเทศเป็น2ส่วนใหญ่คือยูเครนตะวันตกและยูเครนตะวันออก
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)