ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) หรือ พีมูฟ ออกแถลงการณ์ฉบับพิเศษเรื่องขอประนามการลอบสังหาร ไม้หนึ่ง ก. กุนที จี้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งดำเนินการหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมาย เพื่อจะได้คลี่คลายความตรึงเครียดคนผู้คนในสังคม 

 

26 เม.ย. 2557 ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) หรือ พีมูฟ ออกแถลงการณ์ฉบับพิเศษเรื่องขอประนามการลอบสังหาร ไม้หนึ่ง ก. กุนที โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

 

 

ตามที่ได้มีคนร้ายการลอบยิ่ง ไม้หนึ่ง ก. กุนที เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2557 ในเวลากลางวัน กลางเมืองหลวง อย่างอุกอาจ อันเป็นการกระทำที่ท้าทายกฎหมาย สะท้อนถึงสภาวะความรุนแรง ท้าทายอำนาจรัฐที่เสื่อมถอย

 

การเสียชีวิตของ ไม้หนึ่ง ก กุนที เกิดขึ้นในสถานะการณ์ความตรึงเครียดทางการเมืองที่แนวโน้นความรุนแรงและอาจลุกลามนำสังคมไทยไปสู่สภาพของสงครามกลางเมือง การปลิดชีวิตของ ไม้หนึ่ง ก. กุนที จึงยิ่งเพิ่มความหวาดระแวงให้แก่คนในสังคมไทย และเพิ่มความตรึงเครียดทางการเมืองมากยิ่งขึ้น

 

ในสถานการณ์วิกฤติการเมืองไทย ที่มีความเห็น และมุนมองทางการเมืองที่แตกต่างกัน นั้น ย่อมเป็นเรื่องปกติของสังคมประชาธิปไตย ที่แต่ละฝ่าย แต่ละคนมีเสรีภาพที่จะคิด เชื่อ ตรงกัน หรือแตกต่างกัน แต่อย่างไรก็ตามสังคมประชาธิปไตยในสังคมโลกสมัยใหม่ ไม่เคยมีประเทศใดในโลก ที่จะแก้ไขปัญหาความเห็นต่าง ความขัดแย้ง ทางการเมืองด้วยการใช้ความรุนแรง ดังนั้นการสังหาร ไม้หนึ่ง ก. กุนที จึงเป็นเครื่องบ่งชี้ถึงความรุนแรง ที่ได้เพิ่มขึ้นแล้ว

 

ต่อเหตุการณ์ การลอบสังหาร ไม้หนึ่ง ก.กุนที นี้ ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) ขอแสดงจุดยืน ต่อสถานการณ์ความรุนแรง ดังนี้

 

1. เราขอประนามผู้ลอบสังหาร ไม้หนึ่ง ก.กุนที และขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของ ไม้หนึ่ง ก.กุนที

 

2. เราขอเรียกร้องทุกฝ่ายในสังคมไทย ได้เคารพในความคิดเห็นทางการเมือง ที่แตกต่างกัน และที่สำคัญไม่มีฝ่ายใด จะอ้างสิทธิใด หรือความชอบธรรมใดๆ ในการสังหาร หรือเอาชีวิตของฝ่ายที่เห็นต่าง ได้

 

3.รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งดำเนินการหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมาย เพื่อจะได้คลี่คลายความตรึงเครียดคนผู้คนในสังคม 

 

4.เราขอเรียกร้องให้คู่ขัดแย้งหันหน้าเข้าหากันด้วยการเดินหน้าคนละก้าว ด้วยการก้าวข้ามความขัดแย้ง ด้วยการเปิดการเจรจาขึ้นโดยเร็ว เพื่อหาข้อยุติ และร่วมกันเดินหน้าประเทศไทยไปด้วยกัน

 

สุดท้ายนี้ ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) ขอให้ทุกฝ่ายได้ตระหนักว่า สภาพของความขัดแย้งนี้ มิอาจกีดกั้น เบียดขับฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่ง หรือกลุ่มใด กลุ่มหนึ่ง ในหลุดพ้นออกจากสังคมเดียวกันได้ ทุกฝ่าย ทุกกลุ่มล้วนมีความจำเป็นที่จะต้องอยู่ในสังคมเดียวกัน การดำเนินการใด ที่จะเป็นไปเพื่อกำจัด กวาดล้างย่อมมิได้นำมาซึ่งสังคมที่พึงปรารถนา พวกเราขอให้ทุกฝ่ายยึดมั่นในการดำเนินการหาทางออกอย่างสันติ เพื่อเราจะได้อยู่ร่วมกันอย่างสันติ ต่อไป 

 

ด้วยความเชื่อมั่นในพลังประชาชน

ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.)

26 เมษายน 2557