Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

วันที่ 24 พ.ค. 2557 ระหว่างที่ผมรอขึ้นเครื่องบินกลับเชียงใหม่ ผมได้รับโทรศัพท์จากนักข่าวโทรทัศน์ช่องหนึ่ง ต้องการทราบว่า ผมจะนำมวลชนไปทำการชุมนุมเพื่อต่อต้านการรัฐประหารในเย็นวันนั้นที่ไหน ผมตอบว่าผมไม่ทราบ เพราะยังไม่รู้เลยว่าจะมีการชุมนุมต่อต้านรัฐประหารที่ไหนในเชียงใหม่ หากเขารู้ก็ช่วยบอกผมด้วย เพราะผมอยากไปร่วมด้วย

กลับมาถึงเชียงใหม่จึงได้เห็นข่าวที่กระจายอยู่ตามเฟซบุ๊คว่า ทักษิณ ชินวัตร ได้จ่ายเงินพวก "ล้มเจ้า" ไว้ถึง 1,000 ล้านบาท บัดนี้ที่ได้แจกจ่ายไปยังคนต่างๆ ในภาคเหนือนั้น มีผมเป็นแกนนำ ได้ก่อการประท้วงการรัฐประหารที่ มช. แต่ถูกอธิการบดีและทหารขัดขวาง จึงจะไปจัดการประท้วงในตอนเย็นที่ประตูช้างเผือก การประท้วงที่ มช.นั้น ตามข้อกล่าวหา เกิดขึ้นในขณะที่ผมอยู่กรุงเทพฯ ผู้ปั้นเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ย่อมเป็นคนที่ไม่รู้จัก มช.มากไปกว่าสถานที่ เพราะผมไม่ใช่คนที่ทั้งอาจารย์หรือผู้บริหาร มช.นิยมชมชอบ อีกทั้ง มช.เองก็หาใช่มหาวิทยาลัยที่เคยมีประวัติการยืนหยัดต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยแต่อย่างใด หากผมมีอำนาจพอที่จะจัดการประท้วงการรัฐประหารได้ ผมคงไม่มีวันจะเลือกมหาวิทยาลัยแห่งนี้เป็นพื้นที่การต่อสู้เป็นอันขาด

ผมไม่ทราบว่าข้อกล่าวหาเหล่านี้มีกำเนิดมาจากแหล่งใด แต่ผมแน่ใจว่า นี้คือปฏิบัติการจิตวิทยา เพราะข้อกล่าวหาเรื่อง "ล้มเจ้า" หากสามารถทำให้เป็นที่น่าเชื่อถือว่าบุคคลที่ถูกกล่าวหามีมลทินในเรื่องนี้ ก็เท่ากับลิดรอนศักยภาพของเขาในอันที่จะต่อต้านการรัฐประหารลง และจุดอ่อนที่สำคัญยิ่งในการรัฐประหารของ คสช.ในครั้งนี้ก็คือ จนถึงบัดนี้ คสช.ก็ยังไม่สามารถอ้างความชอบธรรมใดๆ ได้ อำนาจที่มีอยู่วางอยู่บนปากกระบอกปืนเพียงอย่างเดียว

ตราบเท่าที่คณะรัฐประหารยังไม่สามารถสถาปนาความชอบธรรมใดๆ ขึ้นได้ ปฏิบัติการจิตวิทยาเช่นนี้ คือกล่าวหาบุคคลที่ไม่สนับสนุนการรัฐประหารด้วยข้อกล่าวหา "ล้มเจ้า" ก็จะระบาดไปยังคนอื่นๆ อีกมาก ผมจึงขอเตือนผู้มีความหวังดีต่อชาติและประชาธิปไตย พึงสังวรให้จงดี เพราะเรากำลังอยู่ในสภาวะที่ข้อกล่าวหาใดๆ ไม่ต้องพิสูจน์กันด้วยกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม อาศัยแต่เพียงความหน้าด้านที่จะปั้นเรื่องขึ้นเพื่อประโยชน์เฉพาะหน้าเท่านั้น

ส่วนข้อกล่าวหาเรื่องรับเงินทักษิณนั้น ผมไม่สนใจ เพราะบัดนี้คณะรัฐประหารก็มีอำนาจพอที่จะตรวจสอบการไหลเวียนของเงินของบุคคลได้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเงินเก็บในธนาคาร การสั่งจ่าย หรือแม้แต่การจับจ่ายซื้อสิ่งของสินค้าราคาสูง ก็มักมีหลักฐานการซื้อขายแลกเปลี่ยนที่สามารถตรวจสอบได้ ผมยินดีถูกตรวจสอบ โดยเฉพาะจากผู้ทำงานสาธารณะซึ่งไม่เคยยื่นบัญชีทรัพย์สินให้ใครได้ตรวจสอบเลย

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net