Skip to main content
sharethis
แกนนำแดงยันหากต้องการความปรองดองในบ้านเมือง ควรให้มีการเลือกตั้งโดยเร็ว พร้อมร้องยกเลิกกฎอัยการศึก ชี้กระทบท่องเที่ยว-ชีวิตผู้คน ด้านแกนนำ พธม.แนะปลูกฝังจิตสำนึกข้าราชการให้เห็นประโยชน์ชาติ
 
 
29 พ.ค. 2557 เวลา 14.00 น. สโมสรค่ายกาวิละ มณฑลทหารบกที่ 33 จังหวัดเชียงใหม่ พล.ต.ศรายุทธ รังษี ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33 ได้เชิญแกนนำของกลุ่มเสื้อแดงและเสื้อเหลืองในจังหวัดเชียงใหม่มาพบปะ และพูดคุยทำความเข้าใจกัน ภายใต้โครงการในการสร้างความปรองดองของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ต้องการสลายการแบ่งแยกเสื้อสีลง
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมในครั้งนี้มีแกนนำเสื้อแดงจากหลายกลุ่มเข้าร่วม ทั้งกลุ่ม นปช.แดงเชียงใหม่, กลุ่มรักเชียงใหม่ 51, กลุ่มของนก มหวรรณ และกลุ่มแดงอิสระอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งหลายคนเพิ่งได้รับการปล่อยตัวมาจากการควบคุมตัวภายหลังรัฐประหาร ขณะที่แกนนำกลุ่มเสื้อเหลือง มีเพียงแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ เชียงใหม่เข้าร่วมเพียงคนเดียว
 
พล.ต.ศรายุทธ รังษี ผบ.มทบ. 33 กล่าวกับแกนนำกลุ่มต่างๆ ว่าแนวทางหลักของกองทัพในตอนนี้ คือจะไม่ให้มีการแบ่งแยกเป็นกลุ่มเสื้อสีต่างๆ อีก แม้จะทราบว่ามีกลุ่มที่มีความคิดเห็นต่างกัน แต่เป้าหมายสำคัญของกองทัพตอนนี้คือทำอย่างไรให้ความคิดสองฝ่ายมาเป็นแนวทางเดียวกัน มีความรักสามัคคีกันในชาติ ไม่แบ่งฝักฝ่าย การเชิญกลุ่มแกนนำมาจึงเป็นการมาร่วมกันหารือว่าจะมีแนวทางเช่นใดได้บ้างร่วมกัน และจะจัดทำเป็นข้อเสนอต่อผู้บังคับบัญชาต่อไป
 
พ.ต.ท.สุพล ฟูมูลเจริญ หรือรองสุพล แกนนำกลุ่ม นปช.แดงเชียงใหม่ ได้แสดงความคิดเห็นว่าทางกลุ่มของตนได้เคลื่อนไหวโดยอยู่ในกรอบกฎหมายมาตลอด ในระดับมวลชนในขณะนี้อาจจะมีอารมณ์ไม่พอใจบ้าง แต่ก็เนื่องมาจากการเห็นความไม่เป็นธรรม จะให้ความรู้สึกหายไปทันทีก็ทำได้ยาก ถ้าให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายแล้ว ส่วนตนก็พร้อมสนับสนุน แต่หากมีการกลั่นแกล้งกันเฉพาะกลุ่ม ประชาชนก็ยากจะลืมเรื่องเก่าๆ ได้
 
นายศรีวรรณ จันทร์ผง แกนนำกลุ่ม นปช.เชียงใหม่ กล่าวว่าถ้าต้องการความปรองดองในบ้านเมือง ควรให้มีการเลือกตั้งโดยเร็ว ไม่ควรรั้งการเลือกตั้งให้ยาวออกไปเรื่อยๆ และถ้า คสช.จะมีการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ ขอให้เดินตามแนวทางการได้มาซึ่งรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 และให้ประชาชนมีส่วนร่วมทุกๆ ฝ่าย โดยขอให้มีการบัญญัติให้ชัดเจนว่าการรัฐประหารไม่ควรจะมีขึ้นอีกในเมืองไทย รวมทั้งขอให้มีการยกเลิกกฎอัยการศึกทันที เพราะกระทบต่อทั้งการท่องเที่ยวและชีวิตผู้คนในประเทศ
 
นายกฤษณะ พรหมบึงรำ ดีเจสถานีวิทยุกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 กล่าวแสดงความเห็นว่าการใช้กฎอัยการศึกและการเคอร์ฟิวในขณะนี้ ส่งผลทั้งต่อการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจในจังหวัดเชียงใหม่ ภาพของทหารที่ไปประจำตามจุดต่างๆ ทำให้นักท่องเที่ยวไม่กล้ามาและถูกมองในแง่ลบจากต่างชาติ จึงอยากเสนอให้เลิกการเคอร์ฟิวทั้งหมด และยกเลิกกฎอัยการศึกในบางจังหวัดที่พิจารณาแล้วว่าไม่มีอะไร
 
ด้าน นายเอกชัย วิไลวรรณ แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ เชียงใหม่ กล่าวในที่ประชุมเพียงสั้นๆ ว่าอยากให้มีการปรับเปลี่ยนบ้านเมืองที่ในหลายเดือนที่ผ่านมาอยู่ในสภาพเละเทะให้คืนดังเดิม ก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง และอยากให้มีการปลูกฝังจิตสำนึกข้าราชการที่ทำเพื่อตนเองให้หันมาเห็นแก่ประโยชน์ประเทศชาติ
 
 
ในระหว่างการแสดงความเห็น พล.ต.ศรายุทธ ชี้แจงว่า ทางทหารทราบว่าไม่ควรจะเข้ามาควบคุมการปกครอง แต่ก่อนที่จะถึงจุดนี้ กว่า 5-6 เดือนที่ผ่านมาทุกฝ่ายเห็นว่าประเทศถดถอย ไม่มีทางไป เราให้ทั้งสองฝ่ายคุยกันเต็มที่แล้ว แต่ก็ยังไม่มีทางออกอยู่ดี
 
พล.ต.ศรายุทธ กล่าวด้วยว่า ในส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ทางทหารก็คิดถึงการแก้ปัญหาที่หมักหมมมาด้วย โดยต้องการความร่วมมือจากทุกฝ่าย และคงมีการจัดเวทีอีกหลายรอบ และในต่างอำเภอก็มีการส่งชุดปฏิบัติการจิตวิทยาเพื่อไปชี้แจงทำความเข้าใจต่อมวลชนกลุ่มต่างๆ ในระดับหมู่บ้านด้วย ส่วนเรื่องเศรษฐกิจ ทางทหารก็มีการผ่อนปรน คนทำมาค้าขายเกินเวลาบ้างก็ไม่ว่ากัน แต่ขอให้ไม่เกี่ยวกับเรื่องการเมือง และคิดว่าอีกไม่นานก็จะมีการยกเลิกเคอร์ฟิวไป ถ้าทุกอย่างคลี่คลายดี
 
ในช่วงท้าย พ.ต.ท.สุพล สอบถาม ผบ.มทบ.33 ว่าตอนนี้หลายคนไม่กล้าโทรศัพท์หากัน เพราะลือกันว่าทางทหารมีการดักฟัง เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงหรือไม่ ทาง พล.ต.ศรายุทธ รังษี ได้กล่าวตอบว่า “ด้วยความสัตย์จริง ไม่มีการดักฟัง”
 
ในด้านการควบคุมแกนนำคนเสื้อแดงนั้น ด.ต.พิชิต ตามูล แกนนำกลุ่มนปช.แดงเชียงใหม่ ให้ข้อมูลว่า วานนี้ (28 พ.ค.57) ได้มีการปล่อยผู้ที่ถูกคุมตัวออกมาเกือบทั้งหมดแล้ว ทั้งกลุ่มแกนนำเสื้อแดง และประชาชนที่ถูกคุมตัวในระหว่างทำกิจกรรมต่อต้านการรัฐประหาร โดยเท่าที่ทราบขณะนี้เหลือเพียงนายภูมิใจ ไชยา หรือ “ดีเจต้อม” กลุ่มอิสระของคนเสื้อแดง ซึ่งเข้าไปรายงานตัวเมื่อวันที่ 27 พ.ค.57 ที่ยังถูกคุมตัวอยู่
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเดียวกันในวันนี้มีแกนนำเสื้อแดงอีกบางส่วนได้เดินทางเข้ารายงานตัวที่ มทบ.33ด้วย เช่น นายมหวรรณ กะวัง แกนนำกลุ่มนกเสรี, นายกฤษณพงษ์ พรมบึงรำ แกนนำกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 และนายนพพร พรหมขันแก้ว หรือ สหายคำมา สมาชิกกลุ่ม นปช.แดงเชียงใหม่ โดยในเบื้องต้นทหารได้สอบประวัติไว้ และปล่อยตัวนายนพพรออกมา เนื่องจากเห็นว่าประวัติไม่มีปัญหาอะไร ส่วนคนอื่นๆ ได้ถูกนำไปควบคุมตัวไว้ก่อน
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net