Skip to main content
sharethis
30 พ.ค. 2557 พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก แถลงกรณีการชุมนุมของกลุ่มต่อต้านทหารว่า เจ้าหน้าที่จะใช้มาตรการโดยยึดหลักตามกฎหมาย ส่วนขั้นตอนวิธีการขึ้นอยู่กับสถานการณ์เฉพาะหน้า เริ่มจากการเจรจาก่อน ทั้งนี้ ขอย้ำเตือนว่าบุคคลที่ทำความผิดในเหตุการณ์ต่อต้านมีหลายฐานความผิด จึงขอเรียกร้องให้ญาติพี่น้องช่วยเตือนและห้ามปราม ส่วนกลุ่มบุคคลที่ไม่หวังดีดำเนินการปลุกปั่นให้เกิดการต่อต้าน ทางเจ้าหน้าที่เริ่มมีข้อมูลแล้ว และจะดำเนินการต่อไป
 
ขณะที่การตรวจสอบการถือครองอาวุธสงครามจะเร่งป้องปรามต่อไป โดยในทุกพื้นที่จะเห็นว่าเจ้าหน้าที่ทหาร-ตำรวจ ได้ติดตามจับกุม และมีผู้ต้องหาเพิ่มขึ้น
 
ส่วนกรณีการเรียกบุคคลมารายงานตัวที่ยังอยู่ต่างประเทศ นั้น บุคคลดังกล่าวต้องชี้แจงเหตุผลและความจำเป็นให้ คสช. พิจารณา สำหรักรณี นายวีรพัฒน์ ปริยวงศ์ นักวิชาการอิสระ ที่ไปบรรยายต่างประเทศ อาจมีเนื้อหาทำให้คนอื่นเข้าใจว่าทหารไม่ประสงค์ดีต่อประเทศ ขอยืนยันว่าการพูดเช่นนี้ไม่เป็นความจริง เพราะที่ผ่านมาตั้งแต่ทหารเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงาน ไม่มีเจตนาใช้ความรุนแรง ยึดกรอบกฎหมายเป็นหลัก และจากพฤติกรรมดังกล่าวของ นายวีรพัฒน์ ทันทีที่มารายงานตัวต้องมีการหารือพูดคุยกัน
 
ขณะที่ ฮิวแมนไรท์วอชท์ กล่าวถึงการดำเนินคดีในอำนาจของศาลทหาร โดยระบุไม่มีกระบวนการทนายความ ถือเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ศาลทหารมีขั้นตอนดำเนินการไม่ต่างจากศาลพลเรือน แต่ที่ต่างกันคือพิจาณาเพียงศาลเดียว ในช่วงภาวะไม่ปกติ
 
ทนาย นปช.ประกาศพร้อมช่วยว่าความคดีการเมืองในศาลทหาร ไม่คิดค่าใช้จ่าย
 
ด้านมติชนออนไลน์รายงานวันเดียวกันนี้ (30 พ.ค.) ว่านายคารม พลพรกลาง ทนายความกลุ่ม นปช. กล่าวว่า ตนและพวกในฐานะทนายความซึ่งได้ทำหน้าที่เป็นทนายความและได้ต่อสู้คดีช่วยเหลือประชาชน ที่ถูกดำเนินคดีทางการเมือง นับตั้งแต่ 2552 จนปัจจุบัน มีความประสงค์จะให้ช่วยเหลือทางกฎหมาย โดยจะทำหน้าที่เป็นทนายความให้กับ ประชาชนทุกคนไม่เลือกเพศ สัญชาติ เพื่อทำหน้าที่ว่าความในศาลทหาร กรณีที่กระทำผิดฝ่าฝืนคำสั่งหรือประกาศของ คสช. หรือฝ่าฝืนกฎอัยการศึก โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ 
 
"เบื้องต้น ผู้ที่ถูกล่าวหาควรให้การปฎิเสธเพื่อต่อสู้คดีในชั้นศาลไว้ก่อน อย่าพึ่งรับสารภาพ แต่ขอให้การต่อสู้ในศาล โดยพวกเราจะเข้าไปช่วยในทางคดี โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดใด ซึ่งเป็นเรื่องของการช่วยเหลือทางด้านสิทธิมนุษยชนโดยสามารถติดต่อได้ที่ตนเอง"นายคารมกล่าว 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net