กรณี "หลวงพ่อพิมพ์" ประกาศนอนโลงเพื่อละสังขาร ล่าสุดมีตำรวจเข้าไปนำตัวหลวงพ่อออกจากโลงแล้ว โดยยังมีชีวิตอยู่และถูกส่งโรงพยาบาล ด้านลูกศิษย์ส่งเสียง "สาธุๆ" ขณะที่แพทยสภาระบุกรณีนี้เป็นการฆ่าตัวตาย-ใครรู้เห็นแต่ไม่ช่วยถือว่ามีความผิดอาญา

พระครูเวฬุวันจันทรังษี หรือ "หลวงพ่อพิมพ์" (ที่มาของภาพ: รายการเรื่องเล่าเช้านี้/แฟ้มภาพ)

10 ก.ย. 2557 - ตามที่พระครูเวฬุวันจันทรังษี หรือ หลวงพ่อพิมพ์ อายุ 65 ปี เจ้าอาวาสวัดเวฬุวัน จ.ชัยภูมิ ประกาศเจริญภาวนาเพื่อละสังขาร ด้วยการนอนในโลง ภายในกุฏิ กำหนดตั้งแต่ 21.00 น. วันที่ 9 ก.ย. โดยมีการเจาะรูที่โลง และสั่งห้ามรบกวนและเปิดฝาโลงจนกว่าจะถึงเวลา 16.00 น. วันที่ 11 ก.ย. ค่อยให้แพทย์และเจ้าหน้าที่เข้ามาพิสูจน์นั้น

หลังมีผู้ร้องเรียนเหตุไม่เหมาะสมดังกล่าว ล่าสุดเมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 10 ก.ย. มีเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเดินทางไปที่วัดเวฬุวัน เพื่อนำตัวหลวงพ่อพิมพ์ออกมาจากโลง โดยเมื่อไปถึงหลวงปู่พิมพ์ยังมีชีวิตในสภาพอิดโรย เจ้าหน้าที่ได้พาหลวงปู่ไปรักษาที่ รพ.คอนสาร อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ส่วนลูกศิษย์ที่รอที่วัดได้ส่งเสียงว่า "สาธุ สาธุ"

ทั้งนี้ที่หลวงปู่พิมพ์ประกาศละสังขารในวันที่ 9 เนื่องจากตรงกับวันคล้ายวันเกิด และเลือกละสังขารที่ต้นไม้ใหญ่ข้างกุฏิ อย่างไรก็ตาม จากรายงานของเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่องสาม ระบุว่า ศ. นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา นายกแพทยสภาระบุว่ากรณีของหลวงพ่อพิมพ์ในทางการแพทย์ถือว่าเป็นการฆ่าตัวตาย คนที่รู้แต่ไม่ช่วย ถือว่ามีความผิดทางอาญา ทั้งนี้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 374 ระบุว่า "ผู้ใดเห็นผู้อื่นตกอยู่ในภยันตรายแห่งชีวิต ซึ่งตนอาจช่วยได้โดยไม่ควรกลัวอันตรายแก่ตนเองหรือผู้อื่น แต่ไม่ช่วยตามความจำเป็น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน  1 เดือน หรือปรับไม่เกิน  1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ"