'จักรทิพย์' เข้มเดินหน้าคดี 112 เร่งลดจำนวนคดีในชั้นตำรวจลง 50% ในปีนี้

พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา รักษาราชการแทนรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเผยเร่งศึกษาแนวทางปัญหาการดำเนินคดี 112 ที่ค้างในชั้นสอบสวนเพื่อให้เดินหน้าต่อ เร่งลดจำนวนคดีในชั้นสอบสวนลง พร้อมตั้งศูนย์ป้องกันหมิ่นสถาบันผ่านอินเตอร์เน็ตโดยเฉพาะ ชี้โซเชียลมีเดียถือเป็นภัยต่อความมั่นคงแบบหนึ่ง

14 ต.ค. 2557 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา รักษาราชการแทนรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รับผิดชอบงานด้านความมั่นคง (รรท.รอง ผบ.ตร.) (มค) เป็นประธานการประชุมมอบนโยบายงานความมั่นคง โดยโดยมี พลตำรวจโทอำนาจ อันอาตม์งาม รักษาราชการ ที่ปรึกษา สบ.10 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่กองบัญชาการตำรวจนครบาล กองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1-9 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว เข้าร่วมประชุม

พล.ต.ท.จักรทิพย์เผยหลังการประชุมว่า ได้มอบนโยบายหลัก 3 ข้อ คือ 1. ได้กำชับผู้ใต้บังคับบัญชาให้นำนโยบายของ ผบ.ตร.ทั้ง 8 ข้อไปสู่การปฏิบัติ 2. กำชับให้กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1-9 ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ลดจำนวนคดีเกี่ยวกับการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ซึ่งตั้งแต่ปี 2551-ปัจจุบันมีจำนวน 93 คดี โดยให้ลดเหลือ 50 เปอร์เซ็นต์ภายในปีนี้ และ 3. กำชับให้ทุกหน่วยจัดเตรียมกำลังพลรวมถึงอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ให้พร้อมปฏิบัติงานในอนาคต

ในส่วนของคดีความมั่นคงที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายอาญามาตรา 112 หรือกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพนั้น จะดำเนินการต่อผู้ที่กระทำความผิดทุกรูปแบบ ทั้งความผิดที่เกิดจากการปราศรัยบนเวทีชุมนุม หรือความผิดที่ปรากโนโซเชียลมีเดียต่างๆ โดยได้ให้ทางกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) เป็นผู้ดูแล

โดย พล.ต.ท.จักร์ทิพย์ระบุว่าได้สั่งให้ พล.ต.ท.อำนาจ อันอาตม์งาม รักษาการแทนที่ปรึกษา ไปตรวจสอบความยากง่ายของคดีเหล่านั้นด้วยว่ามีข้อติดขัดตรงส่วนใดเพื่อให้คดีเดินหน้าต่อไป นอกจากนี้ได้เตรียมจัดตั้งศูนย์ป้องกันการกระทำความผิดเกี่ยวกับคดีหมิ่นสถาบันผ่านอินเตอร์เน็ตขึ้นมาโดยเฉพาะ เนื่องจากปัจจุบันโซเชียลมีเดียถือเป็นภัยต่อความมั่นคงอย่างหนึ่งเช่นกัน

ในส่วนเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้นั้น พล.ต.ท.จักร์ทิพย์ จะดำเนินการตามนโยบายของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ควบคู่งานมวลชน ส่วนเหตุเผาโรงเรียนหลายแห่งใน จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 12 ต.ค.ที่ผ่านมาเชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์จากกลุ่มพูโลเก่า จึงได้กำชับให้ผู้บังคับการจังหวัดในพื้นที่ชายแดนใต้เร่งรัดคดี ไม่ให้เกิดสุญญากาศช่วงก่อนรับนโยบาย สำหรับเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นนั้นคาดว่าน่าจะเป็นการแสดงเชิงสัญลักษณ์ตามวันสำคัญของกลุ่มผู้ก่อเหตุ ทั้งเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านของผู้นำเหล่าทัพหลายหน่วยด้วย ซึ่งก็ได้สั่งการให้ผู้การตำรวจในพื้นที่ให้ดูแลและเฝ้าระวังเป็นพิเศษมากขึ้น ทั้งนี้ ตนจะเดินทางไปมอบนโยบายเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาสามจังหวัดชายแดนใต้ในวันที่ 20 ต.ค.นี้ เพื่อเร่งหาวิธีเยียวยาโรงเรียนที่ได้รับความเสียหายจากเหตุรุนแรงดังกล่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท