คาดกลาง เม.ย. 58 จะได้ร่าง รธน.ฉบับใหม่

สนช.จัดโครงการพบประชาชน รับฟังความเห็น-ข้อเสนอเรื่องปฏิรูป-ยกร่างรัฐธรรมนูญ “สุรชัย” ระบุจัดพบปะประชาชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำมาเป็นข้อมูลปฏิรูป-ยกร่างฯ คาดกลาง เม.ย.58 จะได้ร่าง รธน.ฉบับใหม่ด้าน อนุ กมธ.ยกร่างฯ เตรียมถกกระบวนการตรวจสอบอำนาจรัฐ 24 พ.ย.นี้
 
22 พ.ย. 2557 สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จัดโครงการสมาชิกสภานิติบัญญัติพบประชาชน เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบถึงบทบาทอำนาจหน้าที่และแนวทางการดำเนินงานของ สนช. อีกทั้งเพื่อให้ สนช.รับฟังข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะของประชาชน ตลอดจนส่งเสริมการมีส่วนร่วม โดยมีผู้แทนเครือข่ายนักประชาธิปไตยทั่วประเทศ เข้าร่วม
 
นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธาน สนช. กล่าวเปิดโครงการ โดยเน้นย้ำถึงภารกิจสำคัญของ สนช.ในการทำหน้าที่เป็นตัวแทน ส.ส.และ ส.ว. ซึ่ง สนช.ทั้งหมดต้องทำงานอย่างหนัก อย่างไรก็ตาม สนช.ไม่ได้มีสถานะเหนือประชาชน เป็นแต่เพียงผู้ที่ได้รับโอกาสเข้ามาทำงาน จึงต้องรับฟังความเห็นประชาชน โดยหลังจากนี้จะมีการพบปะประชาชนต่อเนื่อง เพื่อนำมาเป็นข้อมูลในการปฏิรูปประเทศและการยกร่างรัฐธรรมนูญ โดยหวังให้เป็นรัฐธรรมนูญฉบับที่เป็นประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์
 
“ปัญหาประเทศขณะนี้เป็นปัญหาสะสมต่อเนื่องยาวนาน และเมื่อไม่ได้รับการแก้ไขถูกวิธี จนทำให้กลายเป็นความขัดแย้ง ดังนั้นแนวทางการแก้ปัญหาขณะนี้ คือ การสร้างการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน โดยมีคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) คณะรัฐมนตรี สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ เป็น 5 องค์กรสำคัญในการขับเคลื่อนและผลักดันให้มีประชาธิปไตยที่มาจากประชาชนอย่างแท้จริง ซึ่งไม่ใช่ประชาธิปไตยที่มีการผูกขาดของกลุ่มทุนกลุ่มใด หรือมีแต่เพียงกระบวนการเลือกตั้งเท่านั้น แต่ต้องมีกระบวนการในการดำเนินการตรวจสอบ ถ่วงดุล ถอดถอนผู้แทนประชาชนหรือนักการเมืองที่ทุจริตประพฤติมิชอบออกจากตำแหน่ง” นายสุรชัย กล่าว
 
นายสุรชัย กล่าวอีกว่า สนช.ได้ตั้งคณะกรรมาธิการสามัญรวบรวมความเห็นเพื่อประกอบการพิจารณาจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 34 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เสนอต่อคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยมีตนเป็นประธาน ซึ่งผู้แทนเครือข่ายนักประชาธิปไตยทั่วประเทศทุกคนสามารถส่งความเห็นเสนอผ่านช่องทางของ สนช.ได้ ก่อนที่จะได้เห็นร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่กลางเดือนเมษายน 2558
 
อนุ กมธ.ยกร่างฯ เตรียมถกกระบวนการตรวจสอบอำนาจรัฐ 24 พ.ย.นี้
 
ด้านนายไพบูลย์ นิติตะวัน ประธานคณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณากรอบการจัดทำรัฐธรรมนูญ คณะที่ 8 ว่าด้วยนิติธรรม ศาล และการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ ในคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ เปิดเผยว่า ในการประชุมอนุ กมธ.ฯ ในวันที่ 24 พฤศจิกายนนี้ จะมีการพิจารณารายละเอียดที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดเป็นกรอบสาระสำคัญต่อการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
 
นายไพบูลย์ กล่าวด้วยว่า เบื้องต้นในกระบวนการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐนั้น ตนมีแนวคิดจะใช้ 3 ส่วนหลัก คือ 1.องค์กรอิสระ หรือองค์กรตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งรัฐธรรมนูญ 2550 ได้กำหนดไว้ เช่น คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ผู้ตรวจการแผ่นดิน เป็นต้น, 2.ส่วนของผู้แทนปวงชนชาวไทย คือ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา ตรวจสอบในประเด็นนโยบายรัฐบาล, โครงการรัฐบาลที่กระทบกับภาพกว้าง ซึ่งให้สิทธิ์ ส.ส., ส.ว.สามารถตรวจสอบความผิดรัฐมนตรีและยื่นฟ้องต่อศาลยุติธรรมได้โดยตรง และ 3.ภาคประชาชนโดยจัดตั้งสภาตรวจสอบภาคประชาชน จำนวน 77 จังหวัด ให้ตรวจสอบในส่วนของท้องถิ่น ผู้บริหารท้องถิ่น และให้อำนาจยื่นฟ้องศาลหรืออัยการประจำจังหวัดได้
 
นายไพบูลย์ กล่าวอีกว่า ขณะที่องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญที่มีข้อเรียกร้องให้ปรับปรุงกระบวนการทำงานหรือกระบวนการสรรหานั้นเป็นสิ่งที่อนุ กมธ.ฯ  พิจารณาร่วมด้วย โดยประเด็นสำคัญ คือ องค์กรอิสระ เช่น กกต. ไม่ใช่องค์อำนาจธิปไตยที่ 4 ดังนั้นกระบวนการให้โทษ หรือให้คุณ จึงไม่ถือเป็นอำนาจขององค์กรอิสระ จึงไม่ควรมีหน้าที่วินิจฉัยความผิด เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่นำเสนอดังกล่าวจะถูกยกเข้าสู่ที่ประชุมอนุ กมธ.ฯ เพื่อพิจารณากำหนดเป็นแนวทางที่นำไปยกร่างรัฐธรรมนูญต่อไป เบื้องต้นอาจมีความเห็นที่แตกต่างจากนี้
 
ที่มาข่าวเรียบเรียงจาก: สำนักข่าวไทย
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท