Skip to main content
sharethis

ทหาร-ตำรวจบุกจูโจมรวบหนุ่มใหญ่ โปรยใบปลิวต้าน คสช. ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ยันทำด้วยอุดมการณ์ ไม่มีใครอยู่เบื้องหลัง เผยเคยร่วมชุมนุมกับ นปช.มาก่อน และชอบไปชุมนุมกับ กปปส. เพื่อหาข่าว จนท.แจงคุมตัวตามกฎอัยการศึก เตรียมสอบสวน ดำเนินคดีและอาจจะต้องขึ้นศาลทหาร

หลังจากเช้ามืดวันที่ 23 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้ปรากฏใบปลิวที่มีข้อความโจมตี คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มาโปรยที่ถนนราชดำเนิน บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้เก็บใบปลิวดังกล่าวมาหมดแล้ว ซึ่งมีข้อความอาทิเช่น ยกเลิกอัยการศึก , หยุดคุกคามประชาชน , อำนาจเป็นของประชาชน และ เสรีภาพ Freedom เป็นต้น

โดย พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม ในฐานะผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าวแล้ว โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบและติดตาม รวมถึงต้องตรวจสอบว่ามีผู้อยู่เบื้องหลังหรือไม่ ซึ่งหากใครทำผิดก็จะต้องดำเนินการต่อไป

ภาพใบปลิวบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

ล่าสุด ไทยรัฐออนไลน์ รายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. วันที่ 25 พ.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล และ ทหารจาก กรมทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์ (ป.1รอ.) นำโดย พ.อ.คชาชาต บุญดี ผบ.ป.1รอ. ได้ใช้อำนาจตามกฎอัยการศึก ขอเข้าควบคุมตัว นายสิทธิทัศน์ เหล่าวานิชธนาภา อายุ 54 ปี ผู้ต้องสงสัย ว่าเป็นผู้เกี่ยวข้องกับการแจกใบปลิวต้าน คสช. บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อเช้ามืดวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เพื่อสอบสวน

พ.อ.คชาชาต เผยว่า จากการตรวจค้นบ้าน นายสิทธิทัศน์ พบใบปลิว อุปกรณ์การพิมพ์ หลักฐานทั้งหมด เสื้อผ้าลายพราง และเสื้อยืด ที่มีข้อความต่างๆ ที่เกี่ยวกับการเมือง ส่งผลให้นาย สิทธิทัศน์ จำนนด้วยหลักฐานและให้เหตุผลว่า ทำด้วยอุดมการณ์ ทำคนเดียว ไม่มีใครเกี่ยวข้อง หรืออยู่เบื้องหลัง ทั้งนี้ ทหารได้ขอตรวจสอบ ภาพจากกล้องวงจรปิดในพื้นที่ของ สน.สำราญราษฎร์ จนพบเบาะแสว่า มีรถจักรยานยนต์ไปรับใบปลิวจากรถยนต์ เมอร์เซเดส เบนซ์ แต่ภาพไกล เห็นแผ่นป้ายทะเบียนไม่ชัด ซึ่งทหารก็ได้พยายามตรวจสอบ และหาข่าวร่วมกับตำรวจ จนที่สุดได้เบาะแส จึงจู่โจมเข้าควบคุมตัวนายสิทธิทัศน์ ที่บ้านพัก โดยตอนนี้ นายสิทธิทัศน์ ถูกควบคุมตัว ด้วยอำนาจกฎอัยการศึก ในเขตทหาร เพื่อสอบสวน ดำเนินคดี และอาจจะต้องขึ้นศาลทหาร

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจได้อาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.กฎอัยการศึก และ ป.วิอาญา ม.92(4) ร่วมกันนำตัว นายสิทธิทัศน์ พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจค้นบ้านพักเลขที่ 18 ซ.พหลโยธิน 48 แยก 16-1 แขวงบางด้วน เขตภาษีเจริญ กทม. ผลการตรวจค้น ปรากฏหลักฐาน เป็นเครื่องถ่ายเอกสารยี่ห้อเอชพี 1 เครื่อง, ปากกาเมจิกสีดำยี่ห้อตราม้า 1 ด้าม, มีดคัตเตอร์ 1 เล่ม, ไม้บรรทัดยาว 1 อัน, ตลับหมึกพรินเตอร์ 1 กล่อง, เสื้อยืดลายพรางทหาร 1 ตัว, เสื้อยืดคอกลมสีดำสกรีนข้อความ "เสรีชนคนราชดำเนิน" 1 ตัว, เสื้อยืดกลมสีดำสกรีนรูปนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ข้อความ "ภูผาขวางกั้นอธรรม" 1 ตัว, หมวกปีกลายพรางทหาร 1 ใบ, หมวกแก๊ปลายพรางทหาร 1 ใบ, เข็มขัดสีดำพร้อมซองปืนและซองกุญแจมือ 1 ชุด, ห่วงขาผ้า 1 คู่, กระดาษขนาด A4 ยี่ห้อโอเค 1 รีม,  แผ่นสติกเกอร์ข้อความ "รถคันนี้สีแดง" 1 แผ่น และ รถยนต์ยี่ห้อเบนซ์ รุ่น C200 หมายเลขทะเบียน 1 กม 200 กทม.

ภาพขณะเข้าจับกุม ที่มาเฟซบุ๊ก วาสนา นาน่วม

จากการสอบสวน นายสิทธิทัศน์ ได้ให้การยอมรับว่า เมื่อ 22 พ.ย.57 เวลาประมาณ 19.00 น. ได้เริ่มเขียนใบปลิวโจมตี คสช. ปรากฏตามหลักฐานที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สำราญราษฎร์ ได้ทำการตรวจยึด โดยเป็นผู้ผลิตใบปลิวโจมตี คสช.เองทั้งหมด และพิมพ์สำเนาเสร็จเมื่อ 23 พ.ย.57 เวลาประมาณ 03.00 จากนั้นได้ทำการนัดพบกับ นายวชิระ ทองสุข หรือ บอย ภายใน ซ.สำราญราษฎร์ เขตพระนคร ซึ่งได้ถ่ายถุงใส่ใบปลิวจากท้ายรถเบนซ์รุ่น C200 สีดำ หมายเลขทะเบียน 1 กม 200 กทม. ใส่รถจยย.ของนายวชิระ โดยนายวชิระ อาสาเป็นผู้ขับขี่ จยย.ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ นำใบปลิวดังกล่าวไปโปรยบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อ 23 พ.ย.57 เวลาประมาณ 05.00 น. หลังจากนั้นได้แยกย้ายกันหลบหนี กระทั่งถูกจับกุม ส่วนเสื้อที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมของ กปปส.นั้น นายสิทธิทัศน์ อ้างว่า ชอบไปชุมนุม เพื่อหาข่าว จึงมีเสื้อ

ผู้จัดการออนไลน์รายงานเพิ่มเติมด้วยว่า นายสิทธิทัศน์ ระบุถึงสาเหตุการโรยใบปลิวดังกว่า เนื่องจากตนเคยร่วมชุมนุมกับกลุ่ม นปช.มาก่อนตั้งแต่ปี 2553 จากนั้นเมื่อมีการชุมนุมของกลุ่ม กปปส.ก็ได้มาสังเกตการณ์ด้วย จนกระทั่ง คสช.ยึดอำนาจ ตนรู้สึกว่าถูกปิดกั้นสิทธิจึงอยากแสดงออกอะไรบางอย่าง และไม่ได้มีใครอยู่เบื้องหลัง

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net