Skip to main content
sharethis

สหประชาชาติ พร้อมองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนจี้ รบ.สหรัฐอเมริกาเอาผิดเจ้าหน้าที่ทางการสหรัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการซ้อมทรมานผู้ต้องสงสัยอัลเคด้า หลังวุฒิสภาเปิดรายงานฯ 525 หน้า

11 ธ.ค. 2557 – มติชนออนไลน์ รายงานว่า  เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สหประชาชาติ(ยูเอ็น)และองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนเรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐอเมริกาดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ทางการสหรัฐที่เกี่ยวข้องกับการใช้วิธีสอบสวนที่ทารุณโหดร้ายต่อผู้ต้องสงสัยเป็นผู้ก่อการร้ายอัลเคด้าในช่วงหลายปีที่ผ่านมานับจากเหตุวินาศกรรมโจมตีสหรัฐเมื่อ 11 กันยายนปี 2544 หลังจากเมื่อวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการข่าวกรอง วุฒิสภาสหรัฐ เปิดเผยรายงานสรุปผลการสอบสวนวิธีการสอบปากคำผู้ต้องสงสัยเป็นผู้ก่อการร้าย ของสำนักงานข่าวกรองกลาง(ซีไอเอ)ของสหรัฐ มีความยาว 525 หน้า จากเนื้อหาจริงๆที่มีทั้งสิ้นกว่า 6,000 หน้าแต่ยังจัดอยู่ในชั้นความลับ ระบุว่า ซีไอเอใช้วิธีการอันโหดร้ายในการสอบปากคำผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับกุมดังกล่าว เช่น การจับกดน้ำ ให้อดนอนนานถึง 180 ช.ม. ปล่อยให้ยืนหรืออยู่ในท่าที่เจ็บปวดเป็นเวลานาน

เบน เอ็มเมอร์สัน ผู้รายงานพิเศษด้านสิทธิมนุษยชนและต่อต้านการก่อการร้ายของยูเอ็น ระบุในแถลงการณ์ว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลอดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู.บุช ของสหรัฐที่เป็นผู้วางแผนและเปิดทางให้มีการก่ออาชญากรรม จะถูกต้องดำเนินคดี รวมถึงเจ้าหน้าที่ซีไอเอและเจ้าหน้าที่ทางการสหรัฐที่มีส่วนรับผิดชอบต่อการ ทำทารุณกรรมดังกล่าวด้วย โดยรัฐมนตรียุติธรรมสหรัฐมีหน้าที่โดยชอบทางกฎหมายในการนำผู้กระทำผิดมา ดำเนินคดี

ด้านเคนเน็ธ รอธ ผู้อำนวยการบริหารของกลุ่มฮิวแมนไรท์สวอตช์ กล่าวว่า การกระทำของซีไอเอเป็นการกระทำผิดทางอาญาและไม่ชอบธรรม ขณะที่สหภาพเสรีภาพพลเรือนอเมริกันระบุว่ารัฐมนตรียุติธรรมสหรัฐควรจะตั้ง อัยการพิเศษขึ้นมาเพื่อสอบสวนเจ้าหน้าที่ในรัฐบาลบุชที่เกี่ยวข้องกับการ ทารุณกรรมนักโทษในกรณีนี้

ส่วนประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐ กล่าวแสดงควมหวังว่าการเปิดเผยรายงานนี้ออกมาจะไม่นำไปสู่การโต้แย้งใน ประเด็นเก่าๆอีก แต่ขอให้ก้าวไปข้างหน้ากันต่อไป ทั้งนี้ โอบามาเองได้สั่งห้ามการใช้วิธีการสอบสวนที่รุนแรงมาตั้งแต่เขาก้าวขึ้นมา รับตำแหน่งประธานาธิบดีตั้งแต่ปี 2552 แล้ว

รายงานข่าวแจ้งว่า ในรายงานสรุปผลการสอบสวนวิธีการสอบปากคำผู้ต้องสงสัยเป็นผู้ก่อการร้ายของซี ไอเอ ที่จัดทำโดยคณะกรรมาธิการข่าวกรอง วุฒิสภาสหรัฐ ระบุว่า การใช้วิธีสอบปากคำด้วยการทารุณกรรมนักโทษของซีไอเอมีความโหดร้ายมากกว่าที่ รับรู้กัน และวิธีการที่โหดร้ายดังกล่าวไม่ได้ทำให้ได้ข้อมูลข่าวกรองที่เป็นประโยชน์ มากมายแต่อย่างใด นอกจากนี้ ซีไอเอยังได้ทำให้อเมริกันชนเข้าใจผิดในสิ่งที่กำลังทำอยู่ด้วย

อย่างไรก็ดี จอห์น เบรนแนน ผู้อำนวยการซีไอเอ ออกแถลงการณ์ยืนยันว่าวิธีการสอบสวนผู้ต้องสงสัยเป็นอัลเคด้าดังกล่าว ได้ช่วยทำให้ขัดขวางการโจมตีรุนแรงที่จะเกิดขึ้นได้ ทว่าเบรนแนนก็ยอมรับว่ามีความผิดพลาดเกิดขึ้นในการสอบสวนดังกล่าว

นอกจากกรณีการซ้อมทรมานผู้ต้องสงสัยว่าเป็นผู้ก่อการร้ายอัลเคด้า ยังมีกรณีการซ้อมทรมานผู้ต้องสงสัยอีกหลายกรณีซึ่งได้ระบุอยู่ในรายงานของวุฒิสภาสหรัฐอเมริกา อาทิ กรณี อาบู ซูเบย์ดาร์ ชาวซาอุดิอาระเบีย วัย 43 ปี อดีตสมาชิกระดับสูงของกลุ่มอัล-กออิดะห์ และหนึ่งในคนวงในของโอซามา บิน ลาเดน ใช้ชีวิตอยู่ในคุกลับของซีไอเอหลายแห่งในโลกนานกว่า 1 ทศวรรษ นับตั้งแต่ถูกจับตัวได้ในปากีสถานเมื่อปี 2545 ซีไอเอทรมานซูเบย์ดาร์มาแล้วทุกรูปแบบ ถึงขั้นทำให้สูญเสียดวงตาข้างซ้าย และกรณี เรดดาร์ อัล-นาจาร์ วัย 48 ปี เป็นชาวตูนิเซีย และคือหนึ่งในนักโทษไม่กี่คนซึ่งถูกคุมขังอยู่ภายในคุกลับของซีไอเอ ภายในฐานทัพอากาศบาแกรมในอัฟกานิสถาน รายงานระบุว่า อัล-นาจาร์อาศัยอยู่ภายในห้องมืดที่เย็นจัดและมีการเปิดเพลงเสียงดังตลอด เวลา แขนทั้งสองข้างถูกมัดเหนือศีรษะและสวมกุญแจมือ อัล-นาจาร์ไม่ได้รับสิทธิ์ใช้ห้องน้ำแต่จะมีการสวมผ้าอ้อมให้แทน ทั้งนี้ การทรมานร่างกายกินเวลาอย่างน้อย 22 ชั่วโมงต่อวัน เป็นเวลา 2 วันติดต่อกัน เพื่อให้อัล-นาจาร์ยอมเผย “ความลับ” แต่กลับแทบไม่เคยได้ผล

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net