นักข่าวพลเมืองรายงานทหารลงพื้นที่ อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม ห้ามชาวบ้านคุยปัญหาที่ดิน-ป่าไม้ โครงการรัฐ ชาวบ้านเผยรู้สึกถูกคุกคามสิทธิ เสรีภาพ

เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.2557 ที่ผ่านมา ตัวแทนชาวบ้านแต่ละพื้นที่ของภาคอีสาน 20 จังหวัด กว่า 500 คน พร้อมใจกันเข้ามาร่วมพัฒนาอาศรมไทบ้านดอนแดง ต.ศรีสุข อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม โดยมีเจ้าหน้าที่สนธิกำลังทั้งสามฝ่ายประกอบด้วย ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง กว่า 70 นาย ตรึงกำลังแน่นพื้นที่ ควบคุมแบบใกล้ชิด เน้นให้จัดกิจกรรมเฉพาะงานพัฒนา ห้ามรวมกลุ่มพูดคุยปรับทุกข์ถึงความเดือดร้อนที่กำลังประสบอยู่ ห้ามพูดเรื่องการเมือง หากฝ่าฝืนจะดำเนินการตามกฎหมายโดยเด็ดขาด

นายสวาท อุปฮาด เครือข่ายไทบ้านคนไร้สิทธิสกลนคร กล่าวว่า ตามนัดหมาย วันที่ 15 ธ.ค.57 เวลาประมาณ 09.00 น. หลังจากร่วมกันประกอบพิธีกราบไหว้ ศาลปู่ตา-ยาย และจะช่วยกันพัฒนาอาศรม โดยทำความสะอาด ปัดกวาด ซ่อมแซมอาคารสถานที่ ห้องน้ำ ฯ จากนั้นช่วงบ่ายจะแลกเปลี่ยนสถานการณ์แต่ละพื้นที่ ทั้งจากปัญหาป่าไม้-ที่ดิน ปัญหาจากโครงการของรัฐ อาทิ เขื่อน เหมืองแร่ เพื่อร่วมกันหาแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อชาวบ้าน จากคำสั่ง คสช.ฉบับที่ 64/2557 และแผนแม่บทป่าไม้ เพื่อนำความคิดเห็นเสนอต่อรัฐบาล ในวันที่ 18 ธ.ค.57 ที่ทำเนียบรัฐบาล พร้อมกับเครือข่ายอื่นทั่วทุกภาค ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ ทหาร ตำรวจ และ อส. เข้ามาควบคุมอย่างใกล้ชิด โดยมีข้อเสนอของเจ้าหน้าที่ คือ ไม่ให้มีการประชุม หรือร่วมแลกเปลี่ยนปรับทุกข์กันโดยเด็ดขาด จะทำได้เพียงการพูดคุยเกี่ยวกับรายละเอียดการพัฒนาอาศรมเท่านั้น

สวาท กล่าวต่อว่า กลุ่มเครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือกภาคอีสาน เครือข่ายป่าไม้และที่ดิน เครือข่ายการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมาร่วมกันจัดกิจกรรมที่อาศรมไทบ้านดอนแดง เนื่องจากเป็นศูนย์รวมที่ร่วมกันสร้างขึ้นมาและเป็นที่สร้างความเข้มแข็งของหลายชุมชนในภาคอีสาน เพื่อพัฒนาด้านการเกษตรของชาวนาชาวไร่ภาคอีสาน เป็นศูนย์รวมความผูกพันที่มีมายาวนาน โดยครั้งนี้ตั้งใจมาเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิก แลกเปลี่ยน ปรับทุกข์ เล่าถึงปัญหาในแต่ละพื้นที่ และร่วมกันพัฒนาให้เป็นศูนย์การเรียนรู้ของชุมชน

สวาท กล่าวว่า เมื่อมาพบเห็นสภาพที่มี ทหาร ตำรวจ เข้ามากำกับ ทำให้รู้สึกว่าถูกคุกคาม ถูกกีดกัน ถือเป็นการถูกละเมิดสิทธิอย่างยิ่ง เพราะการมีกองกำลังของเจ้าหน้าที่เข้ามาประกบ ทำให้ไม่สามารถเชื่อมต่อกับขบวนของชาวบ้านได้เต็มที่และเสียโอกาสการมารวมกันครั้งนี้ การพัฒนาสถานที่ต้องอยู่ในความดูแลควบคุม ทำให้ไร้ซึ่งอิสระ สิทธิ และเสรีภาพ

“แม้จะมีเจ้าหน้าที่ทั้งสามฝ่าย โดย พ.อ.ประจักษ์ แจ้งประจักษ์ ผู้บังคับการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดมหาสารคาม นายแสงประทีป นายอำเภอกันทรวิชัย พ.ต.อ.เศกสรร์ สุขประเสริฐ ผกก.สภ.กันทรวิชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม ส่งกำลังทหาร ตำรวจ และอาสาสมัคร เข้ามาช่วยทำความสะอาดพื้นที่ ร่วมพูดคุยสร้างความเข้าใจว่าอยู่ในช่วงสถานการณ์กฎอัยการศึก และร่วมวงกินข้าวด้วยกันในช่วงบ่าย แต่ความรู้สึกพี่น้องเราคล้ายกับว่าขาดความเป็นอิสระ ทั้งที่ไม่ได้มีความมุ่งหมายในเรื่องการเมือง หรือเป็นการสร้างสถานการณ์ที่จะทำให้ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงแต่อย่างใด ไม่เข้าใจว่าเจ้าหน้าที่มองเห็นพวกเราที่เป็นเพียงเกษตรกร เป็นชาวไร่ ชาวนาธรรมดาเป็นตัวอะไร อยากให้เลือกปฎิบัติ ร่วมเข้าใจด้วยว่าปัญหาของพี่น้องเราเป็นอย่างไรกันบ้าง ทุกคนมีจิตอาสามาเพื่อพัฒนา และถือโอกาสปรับทุกข์ร่วมกัน บางคนไม่ได้เจอกันหลายสิบปี ครั้งนี้มีโอกาสกลับเสียไป เพราะท้ายที่สุดไม่ได้จับเข่าพูดคุยถึงปัญหาเรื่องปากท้องที่ได้รับความเดือดร้อนอยู่ในขณะนี้“ สวาทกล่าว