ผอ.เข้าถึงเอดส์กล่าวหาบริษัทยาข้ามชาติเล่นเส้น-กดดัน ครม. เปลี่ยนสาระร่าง พ.ร.บ.ยา

นิมิตร์ เทียนอุดม ผอ.มูลนิธิเข้าถึงเอดส์ เผยกลุ่มล็อบบี้ยิสต์อุตสาหกรรมยาข้ามชาติเดินเกมขัดขวาง ร่าง พ.ร.บ.ยา ซึ่งมีกำหนดเข้า ครม. พรุ่งนี้ หวังเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญคือ ห้ามกำหนดให้มีการรายงานโครงสร้างราคายาและข้อมูลสิทธิบัตรเมื่อมาขึ้นทะเบียนยา และยอมให้ตัวแทนบริษัทยาเป็นกรรมการในคณะกรรมการยา พร้อมติงเรื่องประโยชน์ทับซ้อน

นิมิตร์ เทียนอุดม (แฟ้มภาพ)

29 ธ.ค. 2557 - ตามที่เดิมการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ (30 ธ.ค.)จะมีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ยา ตามที่กระทรวงสาธารณสุขได้มีการหารือกับสภาวิชาชีพต่งๆเพื่อแก้ไขข้อบกพร่องจากที่สำนักงานกฤษฎีกาได้ร่างมานั้น ขณะนี้มีแนวโน้มว่า ร่าง พรบ.ยาดังกล่าว อาจถูกสลัดไม่ให้เข้าครม.โดยฝีมือล็อบบี้ยิสต์บริษทยาข้ามชาติ

นายนิมิตร์ เทียนอุดม ผู้อำนวยการมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ แสดงความเป็นห่วงว่า ขณะนี้กำลังมีการเดินเกมของกลุ่มล็อบบี้ยิสต์อุตสาหกรรมยาข้ามชาติ ขัดขวาง ร่าง พ.ร.บ.ยา ซึ่งมีกำหนดจะเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ โดยมีเป้าประสงค์จะเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญคือ ห้ามกำหนดให้มีการรายงานโครงสร้างราคายาและข้อมูลสิทธิบัตรเมื่อมาขึ้นทะเบียนยา และยอมให้ตัวแทนบริษัทยาเป็นกรรมการในคณะกรรมการยาทั้งๆที่เป็นเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน

“ในจังหวะทางการเมืองแบบนี้ ล็อบบี้ยิสต์อุตสาหกรรมยาข้ามชาติใช้เส้นสายของญาติมิตรที่อยู่ในคณะรัฐมนตรีขัดขวางร่าง พ.ร.บ.ยา ที่กระทรวงสาธารณสุขได้แก้ไขข้อห่วงใยที่ตกค้างมาจากการร่างของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา โดยมุ่งเป้าที่จะตัดการรายงานโครงสร้างราคายาและข้อมูลสิทธิบัตรเมื่อมาขึ้นทะเบียน ทั้งที่การแสดงโครงสร้างราคายา และข้อมูลสิทธิบัตรเพื่อเป็นแสดงความโปร่งใสและส่งเสริมการเข้าถึงยาที่จำเป็นและเป็นไปตามหลักการสากลซึ่งสอดรับกับนโยบายแห่งชาติด้านยา พ.ศ. 2554 และ ยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบยาแห่งชาติ พ.ศ. 2555-2559 ในยุทธศาสตร์ที่ 1 ยุทธศาสตร์ การเข้าถึงยา ซึ่งมีที่มาจากมติของสมัชชาสุขภาพครั้งที่หนึ่ง ซึ่งมีผู้มีส่วนได้เสียต่างๆ ให้ความเห็นชอบร่วมกัน หากตัดสาระนี้ออกไปบริษัทยาจะสามารถปกปิดโครงสร้างราคาต่อไปและตั้งราคายาตามใจชอบ โดยที่ไม่สนใจว่าจะกระทบต่อชีวิตประชาชนเช่นไร อีกทั้งต้องการให้ตัวแทนบริษัทยาเป็นกรรมการในคณะกรรมการยาคณะกรรมการยาที่เป็นเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน และขัดกับหลักธรรมาภิบาล”

ผู้อำนวยการมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ เรียกร้องให้สื่อมวลชนและสาธารณชนร่วมกันจับตาการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีว่า เป็นการยึดกุมอำนาจบริหารประเทศเพื่อพวกพ้องและวงศาคณาญาติที่อยู่ในบริษัทยาข้ามชาติหรือไม่ โดยเฉพาะร่าง พ.ร.บ.ยา ใน 2 ประเด็นที่กล่าวมา

“ขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทโอชา นายกรัฐมนตรี ทำหูตาให้กว้างไกล เปิดเผยโปร่งใส ตรวจสอบคนที่อยู่ในคณะรัฐมนตรีว่ากำลังใช้อำนาจหน้าที่แสวงหาประโยชน์อยู่หรือไม่อย่างไร เพราะถ้าปล่อยให้เป็นเช่นนั้นก็ไม่ต่างอะไรกับพวกที่ตนเองรัฐประหารมา”

ขณะเดียวกัน มีรายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล ระบุว่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว บริษัทยาสหรัฐฯ ได้ทำหนังสือถึง นายยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกฯ, ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รมว.สาธารณสุข, พล.อ.ฉัตรชัย ศัลลิกาลิยะ รมว.พาณิชย์, พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รมต.การต่างประเทศ และ นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง อ้างว่า ร่าง พ.ร.บ.ยา ที่กำลังแก้ไขอยู่ในขณะนี้ มีข้อกำหนดให้รายงานโครงสร้างราคายา ถือเป็นการกีดขวางการพัฒนาการวิจัยยาในอนาคตขอให้รัฐบาล และ สนช. ทบทวนในประเด็นนี้

เมื่อต้นเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า ปี 2013 บรรษัท Pfizer ผู้ผลิตยาและเวชภัณฑ์ใหญ่ที่สุดในโลก มียอดรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายแล้วอยู่ที่ร้อยละ 42 ในปีเดียวกันนั้น บรรษัทยา 5 แห่ง ซึ่งได้แก่ Pfizer, Hoffmann-La Roche, AbbVie, GlaxoSmithKline (GSK) และ Eli Lilly สามารถทำกำไรได้กว่าร้อยละ 20 ขณะที่ทุกบริษัทใช้งบลงทุนวิจัยและพัฒนาน้อยมากเมื่อเทียบกับงบการตลาด

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท