Skip to main content
sharethis

เมื่อประเพณีเก่าแก่และคุณค่าดั้งเดิมถูกอ้างเพื่อสร้างความเจ็บปวดให้กับผู้หญิงในอียิปต์ด้วยการตัดอวัยวะกระตุ้นเร้าทางเพศ (FGM) ตั้งแต่ช่วงย่างเข้าวัยรุ่น ผู้รณรงค์ต่อต้าน FGM เผยว่าแม้จะมีกฎหมายห้ามแต่คนก็ยังทำกันมาก เรื่องนี้จึงเป็นประเด็นจากความไม่เท่าเทียมกันทางเพศที่ฝังรากลึกและต้องรณรงค์สร้างความตระหนักไปด้วย


29 ม.ค. 2558 หลังจากมีกรณีที่แพทย์ในอียิปต์ถูกตัดสินให้มีความผิดฐานทำให้ผู้หญิงเสียชีวิตจากการขลิบอวัยวะเพศสตรี (FGM) เป็นครั้งแรกจากการตัดสินของศาลอุทธรณ์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ทำให้เกิดการตั้งคำถามว่าประเทศอียิปต์ซึ่งประกาศให้การขลิบอวัยวะเพศสตรีเป็นเรื่องผิดกฎหมายไปแล้วตั้งแต่ปี 2551 แต่เหตุใดยังคงมีการขลิบอยู่ และดูเหมือนว่าในทางสถิติแล้วอียิปต์เป็นประเทศที่มีการให้ผู้หญิงต้องขลิบมากเป็นอันดับหนึ่งของโลก

ในคดีที่ถูกตัดสินเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมานอกจากแพทย์ผู้ทำการขลิบอวัยวะเพศแล้วบิดาของเด็กสาวอายุ 13 ปี ที่เป็นคนสั่งให้เธอไปขลิบก็ถูกตัดสินให้มีความผิดเช่นกันแต่ด้วยโทษที่เบาลงคือให้ใช้แรงงานหนักเป็นเวลา 3 เดือน ส่วนแพทย์ชื่อรัสลัน ฟาดล์ ถูกจำคุกโทษฐานฆาตกรรมและประกอบการศัลยกรรมที่ผิดกฎหมาย

เรื่องนี้นับเป็นชัยชนะของกลุ่มที่ต่อต้านการขลิบอวัยวะเพศหญิงในอียิปต์ ซึ่งแม้ว่าจะมีกฎหมายสั่งห้ามไปแล้วในปี 2551 แต่ก็ไม่เคยมีผู้ใดถูกสั่งลงโทษเมื่อฝ่าฝืนข้อห้าม

ซาอุด อาบู เดย์เยห์ ที่ปรึกษาองค์กรอิควอลิตี้นาว (Equality Now) ซึ่งเป็นองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนและสิทธิสตรีกล่าวว่า คำตัดสินครั้งนี้ถือเป็นประวัติศาสตร์ เป็นบทเรียนสำหรับผู้ที่ต้องการให้มีการขลิบอวิยวะเพศหญิงในอียิปต์

องค์กรยูนิเซฟระบุว่าผู้หญิงในอียิปต์ที่มีอายุระหว่าง 15-49 ปี ร้อยละ 91 ถูกขลิบอวัยวะเพศนับเป็นจำนวน 27.2 ล้านคนจากการสำรวจในปี 2556 ซึ่งนับว่าเป็นจำนวนที่มากที่สุดในโลกเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ แม้ว่าจะเคยมีกฎหมายห้ามในเรื่องนี้แล้วตั้งแต่ปี 2551 แต่ก็ยังคงมีการขลิบอย่างกว้างขวางในอียิปต์และมีการรายงานการกระทำเกี่ยวกับเรื่องนี้น้อยมาก โดยแม้ว่าจะมีการฟ้องร้องในเรื่องนี้แต่ก็มีโอกาสน้อยมากที่เรื่องจะไปถึงชั้นศาลเพราะอัยการท้องถิ่นจำนวนมากเชื่อว่าเรื่องการขลิบเป็นเรื่องส่วนบุคคล

ผู้คนในอียิปต์เชื่อว่าการขลิบอวัยวะเพศหญิงเพื่อห้ามไม่ให้ผู้หญิงมีความรู้สึกทางเพศจะทำให้ผู้หญิงมีโอกาสคบชู้น้อยลง แต่จริงๆ แล้วถือเป็นการกระทำที่อันตรายและสร้างความเจ็บปวดแก่สตรี แต่หลายครอบครัวในอียิปต์ก็ยังคงเลือกจะให้มีการขลิบต่อไปโดยไม่สนใจกฎหมายเพราะเชื่อว่าเป็นเรื่องสำคัญทางจริยธรรม รวมถึงคิดว่าเป็นประเพณีที่ดีงามที่อนุรักษ์กันมานาน ในอียิปต์ยุคปัจจุบันมีการขลิบผู้หญิงทั้งแบบที่นำส่วนคลิตอริสออกอย่างเดียวรวมถึงบางกรณีมีการนำส่วนของแคมเล็กออกด้วย ซึ่งส่วนใหญ่จะถูกสั่งให้ขลิบในช่วงอายุ 9 ถึง 13 ปี แต่ก็มีบางรายที่ถูกขลิบตั้งแต่ 9 เดือน

ดีนา อาเดล ผู้สื่อข่าวเว็บไซต์โกลบอลโพสต์เผยแพร่ประสบการณ์ของผู้หญิงชาวอียิปต์ที่เคยถูกขลิบ ผู้หญิงที่ชื่อโซมายาเล่าว่าในตอนที่เธออายุ 12 ปี คือราว 20 ปีที่แล้วเธอเคยถูกบอกแบบเดียวกับเด็กผู้หญิงคนอื่นๆ ว่าการขลิบเป็นพิธีกรรมที่จะทำให้เธอกลายเป็นผู้หญิงเต็มตัวและถือเป็นการ "ทำให้บริสุทธิ์" โซมายาเล่าเรื่องตอนที่เธอถูกขลิบในมุมที่ชวนสยดสยอง เธอบอกว่าเธอรู้สึกเจ็บปวดมากมีเลือดอยู่เต็มไปหมด หลังจากหมอนำส่วนคลิตอริสของเธอออกแล้วเธอก็สลบไป เมื่อโซมายาฟื้นขึ้นก็พบว่ายังคงมีเลือดอยู่เต็มไปหมดและเธอนอนอยู่บนพื้นเพราะหมอไม่อยากให้เลือดของเธอเปื้อนเฟอร์นิเจอร์

มีการถกเถียงว่าประเพณีการขลิบนี้เริ่มตั้งแต่เมื่อใด คนจำนวนมากเชื่อว่าเริ่มมาตั้งแต่ในยุคที่อียิปต์ยังคงปกครองโดยฟาห์โร จากบันทึกในประวัติศาสตร์โดยนักภูมิศาสตร์กรีกชื่อสตราโบผู้ไปเยือนอียิปต์ช่วงปี 518 ระบุว่ามีการขลิบทั้งเพศชายและหญิงเกิดขึ้นในอียิปต์ซึ่งถือเป็นการบันทึกถึงการขลิบเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์

อย่างไรก็ตาม ประเพณีการขลิบในอียิปต์มีคนมองว่าเป็นหน้าที่ทางศาสนาโดยมีทั้งชาวมุสลิมและชาวคริสต์ไปขลิบ แม้ว่าผู้นำทางศาสนาอิสลามในอียิปต์จะเคยกล่าวต่อต้านการขลิบในปี 2549 ที่ผ่านมา

ขณะที่บางส่วนก็มองว่าการขลิบเป็นเรื่องที่ดีในด้านสุขภาวะ แต่ อิมาม อันวาร์ นรีแพทย์ของอียิปต์กล่าวว่าจริงๆ แล้วการขลิบอวัยวะเพศสตรีกลับส่งผลเสียในระยะยาวทั้งการติดเชื้อ การไม่สามารถมีลูก และเกิดปัญหาในการคลอดได้ นอกจากนี้ยังส่งผลในช่วงหลังขลิบใหม่ๆ ที่อาจจะทำให้เกิดการเลือดออกมากเกินไป ความยากลำบากในการปัสสาวะ หรือบางครั้งก็ทำให้เสียชีวิตได้

นอกจากนี้ในกรณีของโซมายา เธอเล่าว่าการขลิบทำให้เธอเจ็บปวดในการมีเพศสัมพันธ์และทำให้ไม่เต็มใจที่จะเปิดเผยในเรื่องอารมณ์และเรื่องเพศทำให้ชีวิตครอบครัวเธอกับสามีพังทลาย

ผู้หญิงในอียิปต์มีชีวิตค่อนข้างลำบาก มีผู้หญิงในอียิปต์มากกว่าร้อยละ 99 บอกว่าเคยถูกล่วงละเมิดทางเพศแบบใดแบบหนึ่งมาก่อน แม้ว่ารัฐธรรมนูญใหม่ในอียิปต์จะระบุเรื่องสิทธิสตรีโดยสนับสนุนให้ได้รับการศึกษาและส่งเสริมการเข้าร่วมดำรงตำแหน่งทางการเมืองแต่ก็ยังคงมีการใช้ความรุนแรงต่อสตรีและมีการเหมารวมทางเพศอยู่

สิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้ทำให้นักกิจกรรมส่วนหนึ่งมองว่ากฎหมายไม่สามารถเป็นทางออกได้เสมอไปเพราะผู้คนยังมีความเชื่อว่าการให้ผู้หญิงขลิบเป็นเรื่องดีหรือมีความจำเป็นแม้กระทั่งตัวเจ้าหน้าที่อัยการเองทำให้ไม่มีการสั่งฟ้องคดีนี้และก่อนหน้านี้ในกรณีของแพทย์รัสลัน ฟาดล์ เขาและพ่อของเด็กสาวเคยถูกตัดสินให้พ้นผิดมาก่อน จนกระทั่งมีการตัดสินไปในอีกทางหนึ่งในชั้นศาลอุทธรณ์

วิวัน โฟอาด ผู้รณรงค์ต่อต้านการขลิบในสตรีกล่าวว่า กลุ่มผู้นำศาสนาและผู้นำชุมชนมีส่วนในการทำให้คนเชื่ออย่างผิดๆ ว่า ถ้าหากไม่ขลิบผู้หญิงจะทำให้พวกเธอกลายเป็นคนที่เสพติดกามารมณ์ แต่ตัวเธอเองคิดว่าความเชื่อแบบนี้แสดงให้เห็นความไม่เท่าเทียมกันระหว่างหญิงกับชายที่หยั่งรากลึกในทางวัฒนธรรมอียิปต์จากความคิดที่ว่า ผู้ชายควรจะควบคุมผู้หญิงและสัญชาตญาณทางธรรมชาติของพวกเธอ

การต่อสู้ในเรื่องนี้จึงไม่ใช่แค่เรื่องกฎหมาย แต่โฟอาดบอกว่ายังต้องมีการสร้างความตระหนักรู้ให้กับสังคมว่าการขลิบอวัยวะเพศผู้หญิงเป็นสิ่งที่ผิด และยังควรมีการเสริมพลังให้กับผู้หญิงในสังคมอียิปต์มากขึ้น นอกจากนี้โฟอาดมองว่าการขลิบอวัยวะเพศผู้หญิงยังส่งผลทางลบต่อวิถีชีวิตของผู้ชายเองด้วย เช่นในเรื่องความสัมพันธ์อย่างในกรณีของโซมายา

โซมายาเลิกกับสามีในขณะที่ตั้งครรภ์และมีอายุเพียง 19 ปี ตั้งแต่นั้นมาเธอต้องเลี้ยงลูกด้วยตัวเองจนกระทั่งปัจจุบันลูกของโซมายาอายุได้ 11 ปีแล้ว ซึ่งเป็นช่วงอายุที่หญิงชาวอียิปต์หลายคนถูกกดดันให้ขลิบ แต่โซมายาบอกว่าเธอจะไม่ทำกับเด็กคนนี้แบบเดียวกับที่แม่ของเธอเคยทำไว้กับเธอ

เรียบเรียงจาก

For the first time, Egypt has convicted a doctor for female genital mutilation, Globalpost, 26-01-2015
http://www.globalpost.com/dispatch/news/regions/middle-east/egypt/150126/historic-moment-FGM-egypt-first-conviction

Despite first conviction, female genital mutilation remains common in Egypt, Gobalpost, 27-01-2015
http://www.globalpost.com/dispatch/news/regions/middle-east/egypt/150126/fgm-trial-egypt-laws-of-men

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net