รอบโลกแรงงานมกราคม 2015

 

 
เทสโก้เตรียมประกาศปลดพนักงานครั้งใหญ่
 
6 ม.ค. 2015 หนังสือพิมพ์ซันเดย์  ไทมส์ของอังกฤษ  รายงานว่า บริษัท  เทสโก้ ยักษ์ใหญ่ค้าปลีกของอังกฤษ  เตรียมประกาศปลดพนักงานครั้งใหญ่ในวันที่ 8 มกราคมนี้  
 
นายเดฟ ลูว์อิส ซีอีโอของเทสโก้ เตรียมประกาศปลดพนักงานจำนวนมากในสำนักงานใหญ่ของเทสโก้ และสำนักงานในภูมิภาค  พร้อมกับปรับเปลี่ยนระบบการทำสัญญากับซัพพลายเออร์   โดยเน้นไปที่ยอดขาย  และหวังว่ายอดขายที่สูงขึ้น  จะทำให้บรรดาซัพพลายเออร์ปรับลดราคาลง
          
เมื่อปีที่ผ่านมา  เทสโก้รายงานตัวเลขกำไรที่สูงเกินจริงถึง 263 ล้านปอนด์  จนทำให้หุ้นตกและเกิดการสอบสวนจากสำนักงานด้านการสอบสวนของอังกฤษ ขณะที่นาย วอร์เร็น บัฟเฟตต์  ได้ขายทิ้งหุ้นเทสโก้ ที่ถือครองไว้ 245 ล้านหุ้น หลังจากสะสมหุ้นเทสโก้ไว้นานกว่า 8 ปี  หลังขายกุ้นทิ้งแล้ว  ทำให้บัฟเฟตต์ เหลือสัดส่วนการถือหุ้นเทสโก้เพียง 3% เท่านั้น 
 
เจ้าของบริษัทขายสินค้าออนไลน์จีน แจกรถ BMWs 4 คัน เป็นรางวัลและโบนัสให้ลูกน้อง
 
6 ม.ค. 2015 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานข่าว Niu Mudong หญิงสาวเจ้าของบริษัทขายสินค้าออนไลน์ชาวจีนวัยเพียง 21 ปี ในเมืองชิงเต่า มณฑลซานตง จัดหนัก มอบรถยนต์ BMWs จำนวน 4 คันเป็นโบนัสให้กับพนักงานดีเด่น พร้อมของรางวัลอีกมากให้กับลูกน้อง
 
ทั้งนี้สาวเจ้าของธุรกิจรายนี้ เริ่มขายผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ลดน้ำหนักและสินค้าเกี่ยวกับสุภาพ ในขณะที่เธอกำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยในสหรัฐ ซึ่งสาเหตุที่เธอตัดสินใจมอบรถยนต์ BWWs กว่า 4 คันเป็นรางวัลให้กับพนักงาน ที่ทำยอดขายให้บริษัทของเธอมากถึง 20 ล้านหยวน ราว 107 ล้านบาท ในเวลาเพียง 2 ปี โดยบริษัทของเธอได้รับความสนใจและเป็นแรงบันดาลใจให้กับเหล่านักศึกษามหาวิทยาลัยเป็นจำนวนมากที่ต้องการประสบความสำเร็จในชีวิต
 
อย่างไรก็ตาม เธอระบุว่า “หญิงสาวทั้ง 4 คนที่ได้รับรถยนต์ BMWs ไปนั้น คือ นักศึกษามหาวิทยาลัยทั้งหมด โดยอายุมากสุดอยู่ที่ 22 ปีและเด็กสุดวัยเพียง 19 ปีเท่านั้น แต่ทุกคนสามารถทำเงินให้กับบริษัทได้มากกว่า 10 ล้านหยวน ซึ่งมันเป็นสิ่งที่เหลือเชื่อมาก พนักงานในบริษัทแห่งนี้สามารถทำเงินได้สูงถึง 200 ล้านหยวนในปีนี้”
 
เยอรมนีเผยตัวเลขว่างงานเดือนธ.ค.แตะนิวโลว์ รับเศรษฐกิจฟื้นตัว
 
6 ม.ค. 2015 สำนักงานแรงงานของเยอรมนีเปิดเผยว่า จำนวนคนว่างงานของเยอรมนีในเดือนธ.ค.ลดลง 27,000 ราย แตะ 2.841 ล้านราย ขณะที่อัตราว่างงานหดตัวแตะ 6.5% ทำสถิติต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจเยอรมนีน่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นในปีนี้
 
จำนวนคนว่างงานเดือนธ.ค.ลดลงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้มาก โดยส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า จะลดลงเพียง 5,000 รายเท่านั้น เมื่อแยกตามภูมิภาคแล้ว เยอรมนีตะวันตกมีจำนวนผู้ว่างงานลดลง 17,000 ราย ส่วนเยอรมนีตะวันออกมีจำนวนลดลง 10,000 ราย
 
ทั้งนี้ เศรษฐกิจเยอรมนีเริ่มจะหลุดพ้นจากภาวะถดถอยเมื่อช่วงกลางปีก่อน จนส่งผลให้เหล่านักธุรกิจและนักลงทุนมีทัศนคติที่ดีต่อเศรษฐกิจเยอรมนีในปีนี้
 
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันที่ร่วงลงทั่วโลกประกอบกับเงินยูโรที่อ่อนค่าลงนั้นยังเป็นปัจจัยที่เอื้ออำนวยต่อกลุ่มผู้บริโภคและผู้ส่งออก ขณะที่ทางธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) มีแนวโน้มว่า จะมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในอนาคต
 
ญี่ปุ่นเผยครัวเรือนที่ขอรับสวัสดิการในเดือนต.ค.มีจำนวนสูงเป็นประวัติการณ์
 
7 ม.ค. 2015 กระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการสังคมของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า จำนวนครัวเรือนที่ขอรับสวัสดิการในญี่ปุ่นพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1,615,240 ครัวเรือนในเดือนต.ค.ปีที่แล้ว ซึ่งเพิ่มขึ้น 3,287 ครัวเรือนจากเดือนก่อนหน้า
 
รายงานของกระทรวงระบุว่า ครัวเรือนที่ได้รับสวัสดิการมีจำนวน 2,168,393 ครัวเรือน ซึ่งเพิ่มขึ้น 3,484 ครัวเรือนจากเดือนก.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อันดับ 2
 
จำนวนครัวเรือนที่ประกอบด้วยผู้สูงอายุอยู่ที่ 761,593 ครัวเรือน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 47% ของครัวเรือนที่รับสวัสดิการทั้งหมด
 
สำหรับครัวเรือนประเภทอื่นๆนั้น ครัวเรือนที่มีสมาชิกที่สามารถทำงานได้ แต่ขอรับสวัสดิการ มีจำนวน 280,525 ครัวเรือน ขณะที่ครอบครัวแม่เลี้ยงเดี่ยวมีจำนวน 108,881 ครอบครัว
 
เจ้าหน้าที่ของกระทรวงกล่าวว่า แม้ว่าครัวเรือนประเภทอื่นๆมีจำนวนลดลงทุกเดือนนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.ปีที่แล้ว อันเนื่องมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ แต่ก็มีจำนวนเพิ่มขึ้นในเดือนต.ค.
 
รัฐบาลญี่ปุ่นมีแผนปรับลดงบประมาณด้านสวัสดิการลงในปีงบประมาณใหม่ที่จะเริ่มต้นในเดือนเม.ย. ซึ่งจะพิจารณาทบทวนรายจ่ายด้านที่อยู่อาศัยและเครื่องทำความร้อน โดยมีจุดประสงค์เพื่อควบคุมค่าใช้จ่ายด้านสวัสดิการ สำนักข่าวเกียวโดรายงาน
 
บริษัทผู้ประกอบการรถไฟฝรั่งเศส มีแผนจะตัดลดตำแหน่งงานลง 1,000 ตำแหน่ง
 
8 ม.ค. 2015 สื่อต่างประเทศรายงานว่าผู้แทนจากสหภาพแรงงาน บริษัทผู้ประกอบการรถไฟฝรั่งเศส “SNCF” มีแผนในการตัดลดตำแหน่งงานลงกว่า 1,000 ตำแหน่ง เพื่อให้สอดคล้องกับงบประมาณของปีนี้ แม้จะมีการปรับขึ้นราคาค่าบริการเมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาการให้บริการ ด้านผู้นำแรงงานกล่าวว่า บรรดาผู้แทนของลูกจ้าง ได้คัดค้านงบประมาณดังกล่าว ขณะที่คณะกรรมการบริษัทจะพิจารณางบประมาณในวันนี้
 
จีนเตรียมเปิดตัวนโยบายขับเคลื่อนการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจทั่วประเทศ
 
12 ม.ค. 2558 นายฉู ซูผิง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของคณะกรรมการกำกับดูแลและบริหารสินทรัพย์ของรัฐบาลจีน (SASAC) กล่าวถึง "ความคืบหน้าที่สำคัญๆ" ในแผนโดยรวมสำหรับการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจครั้ง โดยระบุว่า "นโยบายส่วนใหญ่จะมีการเปิดเผยก่อนเทศกาลตรุษจีน" ซึ่งในปีนี้จะตรงกับวันที่ 19 กุมภาพันธ์
 
นโยบายทั้ง 10 นโยบาย จะรวมถึง แนวทางสำหรับการปฏิรูป, แผนการทั่วไปสำหรับการบริหารจัดการสินทรัพย์ของรัฐบาล, แผนสำหรับการให้เอกชนเข้ามาร่วมเป็นเจ้าของมากขึ้น และการปรับปรุงระบบการประเมิน
 
นางหวาง เต๋า หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของยูบีเอสคาดการณ์ว่า การปฏิรูปรัฐวิสาหกิจของจีนจะดำเนินการผ่านทางมาตรการจูงใจขององค์กรที่ดีขึ้นและการมีส่วนร่วมของภาคเอกชน โดยระบุว่า "เราคาดว่าการปรับโครงสร้างจะเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป ขณะที่รัฐบาลพยายามปรับสมดุลระหว่างการขยายตัวและการปรับโครงสร้าง, จัดการกับกระแสต่อต้านจากกลุ่มผลประโยชน์ต่างๆ รวมทั้งแก้ปัญหาในประเด็นการเลิกจ้างและหนี้สิน"
 
เธอยังกล่าวอีกว่า ความยืดหยุ่นโดยทั่วไปในตลาดแรงงานและระบบสวัสดิการสังคมที่ปรับตัวดีขึ้น อาจเป็นปัจจัยที่ช่วยให้รัฐบาลดำเนินการได้เร็วยิ่งขึ้น
 
ทั้งนี้ ผลกำไรรวมของรัฐวิสาหกิจจีนในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2557 ปรับตัวขึ้น 4.5% แตะที่ระดับ 2.24 ล้านล้านหยวน (ประมาณ 3.65 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งชะลดลงจากอัตราการเติบโตที่ 8.2% ในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2556
 
แถลงการณ์หลังจากการประชุมดำเนินงานด้านเศรษฐกิจจีนในเดือนธันวาคม ซึ่งมีการกำหนดทิศทางสำหรับปี 2558 ระบุว่าการคลี่คลายปัญหาสำคัญต่างๆจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและศักยภาพในการแข่งขันของรัฐวิสาหกิจจีน
 
เป้าหมายของรัฐบาลกลางคือการให้ตลาดมีบทบาทที่ชัดเจนในการจัดสรรทรัพยากรและยกระดับประสิทธิภาพโดยรวม ขณะที่การปฏิรูปรัฐวิสาหกิจมีความจำเป็นอย่างมากเนื่องจากถือเป็นกุญแจสำคัญสู่ความมีเสถียรภาพและขยายตัวอย่างยั่งยืน
 
นายลี จิน รองผู้อำนวยการสมาคมปฏิรูปและพัฒนาวิสาหกิจจีน เชื่อมั่นว่าการให้เอกชนเข้ามาร่วมเป็นเจ้าของมากขึ้นจะขจัดระบบผูกขาดและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ขณะที่นางหวางเห็นพ้องกันว่าการเป็นเจ้าของที่หลากหลายจะเปลี่ยนแปลงแรงจูงใจด้านการบริหาร, ปรับปรุงศักยภาพในการทำกำไรและกระแสเงินสด อีกทั้งยังเพิ่มรายได้ให้แก่รัฐบาลด้วย
 
เมื่อปีที่แล้ว ซิโนเปค, ปิโตรไชน่า และสเตท กริด ได้เปิดเผยแผนการที่จะเปิดกว้างธุรกิจบางส่วนให้เอกชนเข้ามาลงทุน ขณะที่รัฐบาลก็ได้ตัดสินใจที่จะอนุมัติสิทธิเพิ่มเติมให้แก่องค์กรธุรกิจในปี 2558 ด้วย
 
นายจาง ยี ประธาน SASAC ได้กล่าวเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมาว่า ควรเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่บทบาทของรัฐวิสาหกิจในฐานะที่เป็นองค์กรอิสระ โดยการให้สิทธิที่เหมาะสมและกำจัดภาระที่ไม่จำเป็น
 
แรงงานหลายพันคน จากอุตสาหรรมรถยนต์ในบราซิล จัดประท้วงใหญ่ต้านแผนปลดคนงานของอุตสาหกรรมนี้
 
13 ม.ค. 2015 สมาชิกจากสหภาพแรงงานในบราซิลราว 20,000 คน จากอุตสาหกรรมรถยนต์เข้าร่วมการประท้วงใหญ่ในเซาเปาโล หลังเมื่อ 6 วันก่อนหน้านี้ แรงงานในโรงงานผลิตรถยนต์ของโฟล์คสวาเกน ที่เมืองเซาเบอร์นาโด โด คัมโป ได้เริ่มต้นการประท้วงแบบไม่มีกำหนด แสดงความไม่พอใจต่อการประกาศปลดพนักงาน 800 คน ของค่ายรถยนต์รายใหญ่จากเยอรมนี
 
การประท้วงครั้งล่าสุด มีเป้าหมายเพื่อแสดงพลังสนับสนุนแรงงานที่ถูกเลิกจ้างทั้งที่โรงงานของโฟล์คสวาเกน และอีก 244 คน ที่โรงงานของเมอร์เซเดส ผู้ผลิตรถยนต์หรูจากเยอรมนีเช่นกัน
 
ขณะที่โฟล์คสวาเกน ออกแถลงการณ์อธิบายถึงการตัดสินใจข้างต้นว่า เป็นเพราะตลาดงรถยนต์บราซิล ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก ตกอยู่ในภาวะซบเซาต่อเนื่องมา 2 ปีแล้ว กลายเป็นภาระหนักให้กับบริษัท โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การดำเนินงานที่โรงงานแอนเชียตา ในเมืองเซาเบอร์นาโด โด คัมโป ที่มีการจ้างงานอยู่ 13,000 คนนั้น มีการผลิตลดลงถึง 15% ผลจากยอดขาย และการส่งออกที่ร่วงลงในปี 2556
 
จีนออกกฎ "โชว์รถ-งดนม" ยกเลิกใช้พริตตี้ในงานมอเตอร์โชว์
 
12 ม.ค. 2015 ทุกวันนี้แทบจะเรียกได้ว่าบรรดาสาวพริตตี้นั้นเป็นไฮไลท์ เป็นหน้าเป็นตาประจำงานแสดงรถยนต์ หรือ มอเตอร์โชว์เลยก็ว่าได้ แต่ในการจัดงาน "เซี่ยงไฮ้ มอเตอร์โชว์ 2015" ที่มีกำหนดจะจัดในวันที่ 22 - 29 เมษายนนี้ อาจจะต้องลุ้นกันสักหน่อยว่าผลจะเป็นอย่างไร เมื่อจีนเข้าสู่โหมดคุมเข้มเรื่องการแต่งกายวาบหวิวมากขึ้น และมีใบสั่งเบื้องบนส่งตรงมาว่าให้แต่ละค่ายรถงดใช้พริตตี้ในการโปรโมท ซึ่งทางผู้จัดงานเองก็กำลังพิจารณายกเลิกการใช้พริตตี้ด้วยเช่นกัน โดยให้เหตุผลว่าต้องการชูจุดประสงค์หลักในการจัดงานคือการโชว์เทคโนโลยี และนวัตกรรมยานยนต์ อีกทั้งต้องการสร้างบรรยากาศการเข้าชมงานอย่างผู้มีวัฒนธรรมอีกด้วย เพราะที่ผ่านมาแต่ละค่ายมักจะใช้เหล่าพริตตี้นุ่งน้อยห่มน้อยออกมาประชันกันเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้เข้าร่วมงาน แทนที่จะเน้นการแข่งขันไปที่คุณภาพสินค้า ซึ่งค่ายรถยนต์หลายค่ายก็ได้ขานรับนโยบายนี้แล้ว
 
อย่างไรก็ตาม กฎเหล็กข้อนี้ส่งผลกระทบต่อบรรดาสาวพริตตี้อย่างจัง เมื่อพวกเธอต้องถูกเลิกจ้างอย่างกะทันหันแถมยังไม่ได้ค่าชดเชยใดๆ อีกด้วย เพราะทางค่ายรถอ้างว่าเป็นเหตุสุดวิสัย ซึ่งเอเจนซี่พริตตี้รายหนึ่ง กล่าวว่า น่าจะออกกฎในเรื่องของชุดแต่งกายว่ามีลิมิตสั้น ยาว ลึกแค่ไหน ดีกว่าการสั่งยกเลิกใช้พริตตี้แบบนี้ มันไม่ใช่ทางออกที่ดีเลย เพราะพริตตี้ส่วนใหญ่ไม่มีความสามารถในด้านอื่น และหลายๆ คนก็หาเงินเลี้ยงปากเลี้ยงท้องจากอาชีพนี้
 
"ยูนิโคล่” แบรนด์เสื้อผ้าญี่ปุ่นถูกโจมตี กรณีซื้อวัตถุดิบจากรง.อันตราย - จ่ายค่าแรงต่ำ
 
13 ม.ค. 2015 องค์กรสิทธิมนุษยชนที่มีฐานในฮ่องกงออกโรงประณามยูนิโคล่ ในช่วงที่ธุรกิจเจ้านี้กำลังเดินหน้าแผนขยายกำลังการผลิตอย่างมุทะลุดุดัน เพื่อแข่งขันกับแบรนด์ดังระดับนานาชาติอย่าง ซารา เอชแอนด์เอ็ม และแกป
       
ยูนิโคล่ ซึ่งเป็นกิจการในเครือบริษัท “ฟาสต์รีเทลลิง” กล่าวว่า ถึงแม้บริษัทจะมี “ความเห็นไม่ตรงกับบางประเด็นปัญหาที่ปรากฏในรายงาน” ขององค์กรสิทธิมนุษยชน “กลุ่มนักศึกษาและนักวิชาการต่อต้านบรรษัทที่ประพฤติไม่เหมาะสม” (SACOM) แต่ (ยูนิโคล่) ก็เปิดทางให้เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง รวมทั้งยอมรับว่า องค์กรสิทธิมนุษยชนได้ตรวจพบ “พบปัญหาหลายประการ”
       
SACOM กล่าวหาว่า กิจการผู้ผลิตเครื่องนุ่งห่ม ซึ่งมีชื่อด้านการผลิตเสื้อผ้าที่ทันสมัย และมีราคาถูกเจ้านี้ ได้ซื้อวัตถุดิบจากซัพพลายเออร์ 2 เจ้าในมณฑลกวางตุ้ง ทางตอนใต้ของจีน ที่ปล่อยให้ลูกจ้างทำงานติดต่อกันนานหลายชั่วโมง ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่ไม่ปลอดภัย ทั้งจ่ายค่าตอบแทนต่ำ
       
ภายหลังที่ องค์กรสิทธิมนุษยชนแห่งนี้เริ่มสืบสวนกรณีของยูนิโคล่ ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม จนถึงพฤศจิกายน 2014 SACOM กล่าวว่า ซัพพลายเออร์ของยูนิโคลมีรูปแบบการบริหารจัดการที่ทำให้แรงงานเผชิญความทุกข์ยากลำบาก ทั้งยังไม่เปิดช่องให้แรงงานร้องเรียน 
 
SACOM ระบุว่า “โรงงานเหล่านี้ละเลยความปลอดภัยในการทำงาน ปล่อยให้แรงงานต้องเผชิญความเสี่ยง”
       
องค์กรนี้สำทับว่า “พื้นโรงงานมีอุณหภูมิร้อนระอุมาก และเจิ่งนองไปด้วยน้ำเสีย โรงงานมีสภาพไม่ปลอดภัย อากาศไม่ถ่ายเท เศษผ้าฝ้ายฟุ้งกระจายไปทั่ว อีกทั้งมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ และมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดกระแสไฟฟ้ารั่ว”
       
นอกจากนี้ SACOM ยังสังเกตเห็นว่า ลูกจ้างที่ “ไม่สวมเสื้อต้องแบกสีย้อมผ้าหนักอึ้งเข้าไปในเต็นท์ย้อมผ้าอันร้อนระอุ ทั้งที่ไม่ได้สวมชุดป้องกัน” นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายตรวจสอบขององค์กร “ยังพบเห็นแรงงานจำนวนมากตกเก้าอี้ ขณะที่กำลังใช้เครื่องถักนิตติ้ง”
       
“ยูนิโคล่ ซึ่งถือเป็นผู้ซื้อรายสำคัญของโรงงานสองเจ้านี้ได้ละเมิดข้อผูกพันที่ว่า จะร่วมแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม” SACOM ระบุในถ้อยแถลง
       
องค์กรแห่งนี้เปิดเผยว่า ลูกจ้างคนหนึ่งต้องทำงานถึงวันละ 14 ชั่วโมง เพื่อรีดเสื้อตั้งแต่ 600 ถึง 700 ตัว โดยได้รับค่าตอบแทนชิ้นละ 0.29 หยวน (ราว 1.50 บาท) 
 
เวียดนามสั่งทบทวนเงินเดือนนักบิน-ช่างเวียดนามแอร์ไลน์สหลังแห่ลาออก
 
14 ม.ค. 2015 กระทรวงคมนาคมเวียดนาม มีคำสั่งให้สายการบินเวียดนาม (Vietnam Airlines) ทบทวนนโยบายเงินเดือนของสายการบิน หลังนักบินจำนวนมากประสงค์จะลาออกจากบริษัทเนื่องจากค่าแรงต่ำ
       
พนักงานของสายการบิน ทั้งนักบิน ผู้ควบคุมการจราจรทางอากาศ และช่างฝ่ายซ่อมบำรุง ได้ยื่นใบลาออกเป็นจำนวนมาก ซึ่งความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นนี้ทำให้การดำเนินงานของสายการบินไม่มีเสถียรภาพ ดิ่ง ลา ท้าง รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม ระบุ
       
และสายการบินแห่งชาติของเวียดนามได้รับคำสั่งให้ปรับเพิ่มเงินเดือน และสวัสดิการให้แก่พนักงานเหล่านี้ภายในช่วงไตรมาสแรกของปี ขณะที่ นายลาย ซวน แถ่ง ผู้อำนวยการกรมการบินพลเรือนเวียดนาม (CAAV) ได้ปฏิเสธการยื่นคำร้องลาออกจากพนักงานของสายการบินเวียดนามตามคำสั่งของกระทรวง แต่ไม่ได้ยืนยันถึงเหตุผลการลาออกของพนักงานจำนวนมากของสายการบินเวียดนามในครั้งนี้
       
ด้านสื่อท้องถิ่นรายงานอ้างว่า เหตุผลเบื้องหลังของการยื่นใบลาออกนี้คือ ช่องว่างเงินเดือนระหว่างสายการบินเวียดนาม และสายการบินคู่แข่ง และระหว่างนักบินท้องถิ่นกับนักบินต่างชาติ
       
หนังสือพิมพ์เซินจวี๊ รายงานว่า เมื่อเดือน ต.ค.2557 ที่ผ่านมา มีนักบินมากกว่า 10 คน พยายามยื่นใบลาออก แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีผู้ใดได้รับอนุญาตให้ลาออก
       
นักบินชาวเวียดนามแต่ละคนของสายการบินเวียดนาม ได้รับเงินเดือนประมาณ 80 ล้านด่งต่อเดือน (3,742 ดอลลาร์) ขึ้นอยู่กับตำแหน่ง และเครื่องบิน ขณะที่นักบินต่างชาติจะได้รับเงินเดือนที่ 8,000-13,000 ดอลลาร์ต่อเดือน ซึ่งรายได้ต่อหัวของเวียดนามอยู่ที่ 1,890 ดอลลาร์ ในปี 2556 ตามการระบุของธนาคารโลก
       
ความแตกต่างของรายได้ดังกล่าวถูกตั้งคำถามมาหลายปี และสายการบินเวียดนามอธิบายว่า สายการบินไม่ต้องจ่ายค่าฝึกอบรบให้แก่นักบินต่างชาติที่มีค่าใช้จ่ายอยู่ราว 2,500 ล้านด่ง (117,000 ดอลลาร์)
       
เว็บไซต์ข่าววีเอ็นเอ็กซ์เพรส รายงานอ้างคำกล่าวของนักบินไม่เปิดเผยชื่อรายหนึ่งว่า สายการบินเวียดเจ็ทแอร์ ที่เป็นสายการบินต้นทุนต่ำ จ่ายเงินเดือนให้นักบินสูงกว่า 2.5 เท่า และทำการบินน้อยครั้งกว่า
       
สายการบินเวียดเจ็ทแอร์ จ้างนักบิน 300 คน โดยมีอย่างน้อย 10 คน เคยทำงานให้แก่สายการบินเวียดนาม
       
สายการบินเวียดนาม ต้องการให้นักบินแต่ละคนของบริษัทมุ่งมั่นทำงานกับบริษัทอย่างน้อย 15 ปี เพื่อให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมนักบิน และสายการบินมีนักบินท้องถิ่นอยู่ประมาณ 600 คน ซึ่งมีสัดส่วนเป็น 70% ของบริษัท. 
 
ฮัลลิเบอร์ตันยักษ์ใหญ่พลังงานสหรัฐ ประกาศลอยแพพนักงานอีกรับมือตลาดซบเซา
 
14 ม.ค. 2015 ฮัลลิเบอร์ตัน บริษัทผู้ให้บริการด้านน้ำมัน และก๊าซของสหรัฐ ประกาศปลดพนักงานในเมืองฮุสตัน รัฐเท็กซัสเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการเผชิญหน้ากับสภาพตลาดที่ซบเซาในขณะนี้ หลังจากที่เมื่อเดือนก่อน บริษัทได้อกมาประกาศปลดพนักงาน 1,000 ตำแหน่งทั่วทั้งองค์กร
 
ทว่าขณะนี้บริษัทยังไม่ออกมาเปิดเผยถึงตัวเลขจำนวนพนักงานที่ถูกปลดออกครั้งล่าสุดแต่อย่างใด
 
เอมิลี่ เมอร์ โฆษกของฮัลลิเบอร์ตัน ให้สัมภาษณ์แก่สื่อท้องถิ่นว่า บริษัทได้ดำเนินการลดจำนวนพนักงานในฮุสตันไปแล้ว ซึ่งการตัดสินใจดังกล่าวเป็นเรื่องที่ค่อนข้างลำบากใจเพราะบริษัทเชื่อว่าพนักงานทุกคนมีบทบาทสำคัญต่อการดำเนินกิจการในตลาดที่ท้าทายความสามารถเช่นนี้
 
เอมิลี่ เมอร์ กล่าวว่า "เราจะติดตามสถานการณ์ทางธุรกิจอย่างใกล้ชิด และจะปรับโครงสร้างต้นทุนตามความจำเป็น"
 
เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ฮัลลิเบอร์ตันประกาศว่าจะเข้าซื้อกิจการคู่แข่งอย่างเบเกอร์ ฮิวจ์ส ด้วยเงินสด และหุ้นรวมมูลค่า 3.46 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือเป็น 1 ในการควบรวมกิจการครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาในภาคอุตสาหกรรมบริการด้านบ่อน้ำมัน
 
ฮัลลิเบอร์ตัน และเบเกอร์ ฮิวจ์ส บริษัทผู้ให้บริการแหล่งน้ำมันรายใหญ่ที่สุดเป็นลำดับที่ 2 และ 3 ของโลกรองจากสลัมเบอร์เกอร์ มีพนักงานรวมกัน 136,000 คนทั่วโลก พวกเขาระบุว่า การควบรวมกิจการจะช่วยประหยัดต้นทุน และเพิ่มผลประกอบกิจการได้เป็นมูลค่าสูงถึง 2 พันล้านดอลลาร์เลยทีเดียว
 
นักบินสายการบินเวียดนามป่วยกว่าร้อยคน
 
15 ม.ค. 2015 BBC รายงานว่าสายการบินเวียดนามแอร์ไลน์เริ่มต้นปี 2558 แบบไม่สวยนักเพราะนักบินลาป่วยพร้อมกันถึง 117 คน ทำให้การจัดตารางการบินป่วนไปหมด
 
มีรายงานว่าสาเหตุที่นักบินลาหยุดพร้อมกันเช่นนี้เพราะต้องการลาออกไปทำงานกับสายการบินอื่นซึ่งให้ค่าตอบแทนสูงกว่า และไม่ต้องการมาหงุดหงิดกับการสร้างความพอใจให้ผู้บริหารสายการบินที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัฐบาล ตอนนี้เวียดนามแอร์ไลน์กำลังหาทางให้รัฐบาลเข้าไปแทรกแซงไม่ให้นักบินเหล่านี้ลาออก
 
ดร หงวน เถ อัน นักเศรษฐศาสตร์บอกกับบีบีซีภาษาเวียดนามว่า ความเคลื่อนของนักบินครั้งนี้มีสาเหตุมาจากสายการที่บินเวียดนามเองมีแต่เรื่องอื้อฉาวและยังกังวลเรื่องความปลอดภัยด้วย
 
เขาบอกด้วยว่าสายการบินน่าจะปรับปรุงวิธีปฏิบัติต่อพนักงานเลิกให้รัฐบาลเข้ามาแทรกแซง
 
ด้านนาย ฟาม งอก มิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ของสายการบินเวียดนาม กล่าวกับสื่อว่า กว่า 90% ของนักบินที่ลาป่วยเป็นนักบินที่ขับเครื่องบินแอร์บัส โดยมีนักบินเพียง 10 คนเท่านั้นที่ยื่นใบลาอย่างถูกต้อง
 
ทั้งนี้ รัฐบาลเวียดนามเคยโอบอุ้มสายการบินเวียดนามทั้งด้านการเงินและการเมืองเพราะเคยเป็นสายการบินเดียวของประเทศ แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ เริ่มมีคู่แข่งจากการเปิดโอกาสให้เอกชน บริษัทร่วมทุนและต่างชาติมาแข่งขันดำเนินธุรกิจขนส่งทางอากาศ
 
คนรวยกลุ่มน้อยเพียง 1 เปอร์เซ็นต์ จะมีทรัพย์สินมากกว่าคนทั้งโลกในปีหน้า
 
19 ม.ค. 2015 ผลการศึกษาขององค์กรการกุศลอ็อกซ์แฟมระบุว่า กลุ่มคนที่ร่ำรวยที่สุดซึ่งมีเพียงร้อยละ 1 ของประชากรโลก จะถือครองทรัพย์สินเกินกว่าร้อยละ 50 ของทั้งโลกในปีหน้า หากอัตราการสะสมความมั่งคั่งของคนกลุ่มนี้ยังคงขยายตัวอยู่ต่อไป
 
ทั้งนี้ กลุ่มคนร่ำรวยที่สุดของโลก ถือครองทรัพย์สินเพิ่มขึ้นจากสัดส่วนร้อยละ 44 ในปี 2552 มาเป็นร้อยละ 48 ในปีที่ผ่านมา ซึ่งรายงานที่จัดทำโดยองค์กรอ็อกซ์แฟมระบุว่า ความไม่เท่าเทียมที่ขยายตัวขึ้นอย่างรุนแรงนี้ จะถ่วงรั้งความพยายามต่อสู้กับความยากจนทั่วโลก
 
ในแถลงการณ์ของอ็อกซ์แฟมที่มีขึ้นก่อนหน้าการประชุมเวทีผู้นำเศรษฐกิจโลก (World Economic Forum) ที่เมืองดาวอสของสวิสเซอร์แลนด์ระบุว่า ช่องว่างระหว่างกลุ่มคนร่ำรวยที่สุดกับคนทั้งโลกยิ่งถ่างกว้างขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยความมั่งคั่งส่วนที่เหลือร้อยละ 52 ของโลกเมื่อปีที่แล้ว ก็ยังตกเป็นของกลุ่มคนรวยที่สุดที่มีจำนวนหนึ่งในห้าของประชากรโลกถึงเกือบร้อยละ 46 ทำให้ผู้คนที่เหลือถือครองทรัพย์สินได้เพียงร้อยละ 5.5 และมีความมั่งคั่งเฉลี่ยในกลุ่มประชากรผู้ใหญ่เพียงคนละ 3,851 ดอลล่าร์สหรัฐเท่านั้น
 
อ็อกซ์แฟมยังระบุว่า จะเร่งผลักดันให้มีการแก้ไขปัญหานี้ โดยเริ่มจากจัดการกับปัญหาการเลี่ยงภาษีของกิจการต่างๆ ซึ่งเป็นมาตรการที่สอดคล้องกับที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐประกาศจะเก็บภาษีคนร่ำรวยให้มากขึ้นเพื่อช่วยเหลือคนชั้นกลาง
 
บริษัทพลังงานยังเดินหน้าปลดพนักงานอย่างต่อเนื่อง รับมือราคาน้ำมันขาลง
 
20 ม.ค. 2015 นายพาล คิบส์การ์ด หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอของบริษัทชลัมเบอร์เกอร์ ผู้ให้บริการขุดเจาะน้ำมันรายใหญ่สุดของโลก ที่เพิ่งประกาศแผนปลดพนักงานมากถึง 9,000 ตำแหน่ง กล่าวว่า บรรดาผู้ผลิตน้ำมันสหรัฐ ที่มุ่งเน้นการผลิตน้ำมันจากหินดินดาน ตกอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่กว่าคู่แข่งในประเทศอื่นๆ เพราะมีต้นทุนการผลิตที่สูงกว่า
 
นายคิบส์การ์ด ระบุว่า เห็นได้ชัดเจนว่าราคาน้ำมันในระดับใหม่นี้ กำลังเป็นเครื่องมือทดสอบความยืดหยุ่นของผู้ผลิตน้ำมันจำนวนมากในอเมริกาเหนือ รวมถึง ความสามารถในการหาเงินทุน ความสามารถในการเดินหน้าธุรกิจต่อไปอย่างมีประสิทธิภาพ การลดต้นทุน และความสามารถที่จะรักษาระดับการผลิตในปัจจุบันเอาไว้ให้ได้
 
ในปีนี้ มีบริษัทผลิตน้ำมัน และก๊าซธรรมชาติรายใหญ่สุดของสหรัฐจำนวนหนึ่ง ได้ลดงบการใช้จ่ายลงมาไม่ต่ำกว่า 20% ซึ่งโคเวน แอนด์ โค วาณิชธนกิจท้องถิ่น ระบุว่า บริษัทข้ามชาติส่วนใหญ่มีแนวโน้มลดค่าใช้จ่ายลงมา 20% ในปีนี้ และลดเพิ่มอีก 10% ในปีหน้า
 
นายคิบส์การ์ด กล่าวด้วยว่า ชลัมเบอร์เกอร์, ฮัลลิเบอร์ตัน โค และเบเกอร์ ฮิวจ์ อิงค์ ซึ่งล้วนแต่เป็นบริษัทที่ช่วยผู้ผลิตพลังงานดำเนินการขุดเจาะ และแฟรคกิ้งบ่อน้ำมัน จำเป็นต้องมีการลดค่าใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง เพราะลูกค้าของบริษัทต้องการที่จะหั่นราคาลงมา และลดการใช้จ่ายในด้านการขุดเจาะ
 
สำหรับบริษัทของนายคิบส์การ์ดนั้น มีรายได้รายไตรมาสร่วงลงมาแล้วถึง 82% จากค่าใช้จ่ายมากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ ที่รวมถึง ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการลดขนาดกิจการ
 
จนถึงขณะนี้ มีแรงงานในภาคพลังงานที่ต้องถูกเลิกจ้างไปแล้วหลายพันคน โดยบริษัทน้ำมันรายใหญ่ๆ รวมถึง บีพี และรอยัล ดัทช์ เชลล์ ตัดสินใจที่จะปรับลดเงินเดือนพนักงานลงมา ขณะที่ในแคนาดา ซึ่งเป็นแหล่งผลิตทรายน้ำมันนั้น ผู้ผลิตรายใหญ่อย่าง ซันคอร์ เอนเนอร์ยี ได้ประกาศปลดพนักงานไปแล้ว 1,000 คน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่วนอาปาเชา ผู้ผลิตในสหรัฐ กล่าวว่า จะปลดพนักงานราว 5%
 
เช่นเดียวกับเปโตรเลออส เม็กซิกานอส หรือ เปอเม็กซ์ บริษัทน้ำมันแห่งชาติของเม็กซิโก ที่ตั้งเป้าจะประหยัดเงินให้ได้ถึง 3,000 ล้านดอลลาร์ในปีนี้ ด้วยการลดค่าใช้จ่ายในฝ่ายบริหาร รวมถึง การเลิกจ้างพนักงานที่ไม่ได้เป็นสมาชิกสหภาพแรงงาน ซึ่งจนถึงขณะนี้ เปอเม็กซ์ ปลดพนักงานสัญญาจ้างไปแล้ว 1,500 คน และคาดว่าจะมีการปลดพนักงานเพิ่มอีก
 
เมื่อเดือนที่แล้ว ฮัลลิเบอร์ตัน ผู้ให้บริการขุดเจาะน้ำมันรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก จากสหรัฐ ก็ประกาศปลดพนักงาน 1,000 คน นอกสหรัฐ และเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ยังออกมาบอกอีกว่า มีแผนที่จะลดขนาดกิจการใกล้กับบ้านเกิดมากขึ้น
 
ILO เผยคนว่างงานเพิ่มอีก เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจโลกที่กำลังซบเซาและเข้าขั้นถดถอยในหลายประเทศ
 
20 ม.ค. 2015 องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) แถลงว่าสถิติประชากรโลกซึ่งกำลังว่างงานในปัจจุบันอยู่ที่ 201 ล้านคน แต่ภายในปี 2019 อาจเพิ่มเป็นกว่า 212 ล้านคน เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจโลกที่กำลังซบเซาและเข้าขั้นถดถอยในหลายประเทศ
 
ทั้งนี้ ILO เผยรายงานคาดการณ์สถานการณ์แรงงานโลกประจำปีนี้ด้วย ซึ่งมีสาระสำคัญคือการผลิตงานใหม่ออกมาให้ได้อีก 280 ล้านตำแหน่งภายในปี 2019 เพื่อปิดช่องว่างของตลาดแรงงานโลกในปัจจุบัน ซึ่งในเวลานี้มีตำแหน่งงานว่างอยู่เพียง 61 ล้านตำแหน่งเท่านั้น
 
แม้บรรยากาศของตลาดแรงงานในสหรัฐ ญี่ปุ่นและอังกฤษมีแนวโน้มดีขึ้น แต่ประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่หรือกำลังเติบโตในยุโรปยังมีอัตราว่างงานอยู่ในระดับสูง และประชากรที่มีแนวโน้มได้รับผลกระทบมากที่สุด คือผู้ที่มีอายุระหว่าง 15-24 ปี เนื่องจากสถิติการว่างงานเฉพาะช่วงวัยนี้เมื่อปีที่แล้วสูงถึงร้อยละ 13 มากกว่าวัยผู้ใหญ่เกือบ 3 เท่า
 
รายงานของไอแอลโอระบุด้วยว่า อัตราการเกิดสงครามและเหตุพิพาทรุนแรงทางทหารบนโลกลดลงมากในยุคทศวรรษที่ 1990 และ 2000 เช่นเดียวกับอัตราการจ้างงานที่เพิ่มสูงขึ้นในเวลาเดียวกัน แต่แนวโน้มเชิงบวกนั้นกลับดิ่งลงตั้งแต่ปี 2008 เป็นต้นมา เนื่องจากวิกฤติเศรษฐกิจที่ทั่วโลกได้รับผลกระทบ ถือเป็นการสูญเสียทรัพยากรมนุษย์โดยใช่เหตุที่รัฐบาลทุกประเทศต้องร่วมกันแก้ไขอย่างจริงจังกว่านี้
 
แอร์ฟรานซ์-เคแอลเอ็มจ่อเลิกจ้างรอบใหม่
 
22 ม.ค. 2015 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานอ้างการแสดงความเห็นของนักวิเคราะห์ที่ว่า การที่ผู้บริหารของแอร์ฟรานซ์-เคแอลเอ็ม สายการบินรายใหญ่ของยุโรป ให้สัมภาษณ์เมื่อเร็วๆ นี้ ในเรื่องที่ว่า บริษัทจำเป็นต้องเพิ่มความเข้มงวดในวินัยทางการเงินมากขึ้น พร้อมย้ำถึงการเดินหน้าลดค่าใช้จ่ายต่อหน่วยลงให้ได้ ราว 1-1.5% ต่อปี ผ่านการพัฒนาผลผลิตที่ดีขึ้นนั้น เป็นการส่งสัญญาณว่าบริษัทจะมีการปลดพนักงานเพิ่มขึ้นอีก
 
ผู้เชี่ยวชาญภายในอุตสาหกรรมการบินรายหนึ่ง ชี้ว่า คำว่า พัฒนาผลผลิตนั้น เป็นคำพูดที่บรรดาผู้บริหารมักนำมาใช้อยู่บ่อยครั้ง เมื่อจะมีการเลิกจ้างเกิดขึ้น
 
"เมื่อคุณพูดถึงเรื่องการพัฒนาผลผลิต มักจะหมายความว่าคุณกำลังพูดเกี่ยวกับบุคลากรที่มากเกินไป ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ที่จะมียื่นข้อเสนอให้มีการสมัครใจลาออก รวมอยู่ในมาตรการต่างๆ ที่ทางสายการบินจะนำมาใช้" นักวิเคราะห์รายนี้ระบุ
 
ทั้งนี้ ภายใต้แผนการปรับโครงสร้างบริษัท 2558 นั้น แอร์ฟรานซ์-เคแอลเอ็ม ดำเนินการปลดพนักงานไปแล้ว 8,000 คน ในช่วง 3 ปี นับถึงสิ้นปีที่แล้ว ส่วนใหญ่ผ่านทางการยื่นข้อเสนอให้สมัครใจลาออก ซึ่งพนักงานที่ออกไปนั้น คิดเป็นสัดส่วนราว 10% ของยอดรวมพนักงานทั้งหมด ที่คาดว่าจะมีอยู่ราว 95,000 คน
 
ทางด้านสหภาพแรงงาน ก็คาดการณ์เช่นเดียวกันว่า จะได้รับข่าวร้ายจากการประชุมผู้บริหารของสายการบิน ในวันนี้ (22 ม.ค.) ทั้งเมื่อเร็วๆ นี้ หนังสือพิมพ์เลอ ฟิกาโร ของฝรั่งเศส ก็เพิ่งรายงานว่า สายการบินรายนี้มีแผนที่จะปลดพนักงานอีก 5,000 คน ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
 
อดีตลูกจ้าง 'แมคโดนัลด์' ฟ้องบริษัทเหยียดผิว
 
23 ม.ค. 2015 อดีตพนักงานของแมคโดนัลด์ 10 คน ยื่นฟ้องยักษ์ใหญ่เชนร้านฟาสต์ฟู้ดส์สหรัฐต่อศาลรัฐเวอร์จิเนีย โดยกล่าวหาว่า กีดกันทางเพศและเชื้อชาติ หลังจากมีพนักงานบางคนถูกร้านแมคโดนัลด์สาขาหนึ่งไล่ออก โดยอ้างว่ามีคนผิวดำมากเกินไป
 
ขณะที่แมคโดนัลด์ ยังไม่ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับคดีนี้ แต่ออกแถลงการณ์ว่า แมคโดนัลด์ มีประวัติอย่างยาวนานเกี่ยวกับการยอมรับความหลากหลายของลูกจ้าง แฟรนไชส์อิสระ ลูกค้า และซัพพลายเออร์ และการกีดกันความหลากหลายเหล่านี้ขัดแย้งกับหลักการของบริษัทอย่างสิ้นเชิง
 
สื่ออังกฤษระบุว่าพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินหลายของญี่ปุ่นขายบริการทางเพศให้กัปตันหลังมีรายได้ลดลง
 
24 ม.ค. 2015 เดลิเมล์และเดลีสตาร์ อ้างรายงานของ Shukan Post สื่อมวลชนของญี่ปุ่นระบุว่า แอร์โฮสเตสบนเครื่องบินหลายรายไม่ประสงค์เผยชื่ออ้างว่า พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินทำการขายบริการทางเพศและยอมเป็นเพื่อนเที่ยวกับกัปตันเป็นประจำ อันเป็นผลจากรายได้หรือเงินเดือนที่ลดลงอย่างมากในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โดยตัวเลขของกระทรวงสาธารณสุขแรงงานและสวัสดิการสังคมของญี่ปุ่นระบุว่าพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินในญี่ปุ่นถูกปรับลดค่าจ้างจากที่เคยได้ถึง 42,000 ดอลลาร์ (ราว 1.36 ล้านบาท) ต่อปีในปี 2004 เหลือเพียง 33,000 ดอลลาร์ (ราว 1 ล้านบาท) ในปี 2013
 
สำหรับการขายบริการแต่ละครั้งนั้นอยู่ที่ 450 ดอลลาร์ (ราว 14,600 บาท) ถึง 670 ดอลลาร์ (ราว 22,000 บาท) สำหรับการร่วมหลับนอน 90 นาที ขณะที่แอร์โฮสเตสที่มีอายุต่ำกว่า 30 ปี จะสามารถเพิ่มค่าตัวได้ตามความพอใจของทั้งสองฝ่าย ซึ่งมีพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินรายหนึ่งให้ข้อมูลต่อว่าหากแอร์โฮสเตสรายใดที่ต้องการจะขายตัว จะมีแอร์รุ่นพี่ทำหน้าเป็น "แม่เล้า" คอยหาลูกค้าซึ่งเป็นนักบินให้
 
สำหรับการติดต่อจะมีการส่งซิกและสัญลักษณ์โดยระหว่างการตรวจสอบก่อนขึ้นบิน ตามระเบียบการแอร์โฮสเตสต้องตั้งแถวต่อหน้านักบินและนักบินผู้ช่วย ระหว่างนั้นนักบินที่สนใจซื้อบริการจะส่งสัญญาณมือ โดยชู 4 นิ้ว หมายถึงเสนอราคา 40,000 เยน หรือ 339 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อการหลับนอนที่โรงแรม 1 คืน แอร์โฮสเตสวัย 29 ปีรายหนึ่งบอกว่า จ๊อบขายตัวของเธอมีระยะเวลาหมดอายุ โดยแอร์โอสเตสที่เป็นแม่เล้าจะต้องออกจากวงการเมื่ออายุการเป็นแอร์โฮสเตสของพวกเธอสิ้นสุดลง แต่วงจรนี้ก็จะดำเนินต่อไปเหมือนเดิม เพราะจะมีแอร์โฮสเตสที่อาวุโสขึ้นก้าวขึ้นมาเป็นแม่เล้าแทน ซึ่งวงจรโสเภณีมีมานานหลายปีแล้วตั้งแต่ปี 2007
 
“โซนี่” จ่อปลดพนักงานสาย “สมาร์ทโฟน” อีก 1,000 ตำแหน่ง
 
28 ม.ค. 2015 สื่อต่างประเทศรายงานว่าโซนี่ คอร์ปอเรชัน เตรียมลดพนักงานในสายสมาร์ทโฟนลงอีก 1,000 ตำแหน่ง ตามแผนปรับโครงสร้างธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ให้กลับมาทำกำไรได้อีกครั้ง 
 
โซนี่คาดว่าจะมียอดขาดทุนสุทธิตลอดปีงบประมาณปัจจุบันสูงถึง 230,000 ล้านเยน และจะงดจ่ายเงินปันผลเป็นครั้งแรก ท่ามกลางความซบเซาของธุรกิจสมาร์ทโฟน
 
แหล่งข่าวระบุว่า คำสั่งนี้ถือเป็นการปลดพนักงานระลอกใหม่ หลังจากที่โซนี่เคยลดพนักงานในสายสมาร์ทโฟน 1,000 ตำแหน่งมาแล้วครั้งหนึ่ง
 
หนังสือพิมพ์ธุรกิจนิกเกอิรายงานก่อนหน้านี้ว่า การปรับโครงสร้างจะส่งผลกระทบต่อพนักงานโซนี่ในภูมิภาคยุโรปและจีน ซึ่งจะทำให้จำนวนพนักงานในสายสมาร์ทโฟนลดลงราว 30% เหลือเพียง 5,000 คนภายในสิ้นปีงบประมาณหน้า
 
โซนี่จะประกาศอย่างเป็นทางการในการแถลงผลประกอบการประจำปี วันที่ 4 กุมภาพันธ์
 
ผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ของญี่ปุ่นต้องดิ้นรนอย่างหนักเพื่อช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนราคาแพงจากคู่แข่งรายใหญ่ๆ อย่าง แอปเปิล และซัมซุง
 
โฆษกหญิงของโซนี่ ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเพิ่มเติม โดยระบุเพียงว่าบริษัทเตรียมประกาศแผนปรับโครงสร้างธุรกิจระยะกลางหลังสิ้นปีงบประมาณนี้
 
สหภาพแรงงานโตโยต้าเล็งเรียกร้องขึ้นค่าแรงให้พนักงานชั่วคราวในการประชุมเดือนหน้า
 
28 ม.ค. 2015 สหภาพแรงงานของบริษัทโตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป เตรียมผลักดันการปรับขึ้นค่าแรงสำหรับพนักงานโรงงานที่ไม่ได้ทำงานประจำ ขณะที่พยายามหาแนวทางเพื่อขึ้นค่าแรงให้กับพนักงานทั่วไป
 
สหภาพจะเรียกร้องให้เพิ่มค่าแรง 300 เยนต่อวัน สำหรับพนักงานแบบไม่ประจำ ซึ่งคิดเป็นจำนวนเงินประมาณ 6,000 เยนต่อเดือน
 
ในการเจรจาเรื่องค่าแรงประจำปีที่จะเริ่มขึ้นในเดือนก.พ.นั้น พนักงานของบริษัทโตโยต้ายังเตรียมที่จะเรียกร้องให้ขึ้นค่าแรง 6,000 เยนสำหรับคนงานประจำ ด้านบริษัทได้วางแผนปรับระบบการคิดเงินค่าแรง โดยจะเน้นที่ความสามารถในการทำงานมากกว่าความอาวุโส
 
ทั้งนี้ บริษัทญี่ปุ่นหลายแห่งกำลังมีการเตรียมการมากขึ้นในการปรับเพิ่มค่าแรง เพื่อตอบรับคำเรียกร้องของนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะที่ให้ภาคธุรกิจช่วยสนับสนุนการฟื้นฟูวงจรทางธุรกิจ ซึ่งเผชิญกับภาวะถดถอยในปีที่แล้ว หลังการปรับขึ้นภาษีการบริโภคเมื่อเดือนเม.ย.
 
ภาวะการจ้างงานในญี่ปุ่นกำลังปรับตัวดีขึ้นอย่างสม่ำเสมอ โดยอัตราว่างงานแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งส่วนใหญ่เนื่องจากมีการจ้างพนักงานไม่ประจำมากขึ้น อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ชี้ว่า แนวโน้มดังกล่าวอาจสกัดการปรับตัวขึ้นของค่าแรงโดยเฉลี่ย สำนักข่าวเกียวโดรายงาน
 
ILO ชูแผนลงทุนของ EC สามารถสร้างงานใหม่กว่า 2 ล้านตำแหน่งในอีก 3 ปี
 
29 ม.ค. 2015 องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) รายงานวันนี้ว่า แผนการลงทุนของคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) เมื่อไม่นานมานี้ จะสามารถสร้างงานใหม่ได้มากกว่า 2.1 ล้านตำแหน่งงานภายในกลางปี 2018 หากแผนการดังกล่าว ซึ่งมีระยะเวลา 3 ปีมีการออกแบบและดำเนินการที่ดี
 
ILO ระบุว่า แผนของ EC ที่จะใช้เงินทุนอย่างน้อย 3.15 แสนล้านยูโร (3.57 แสนล้านดอลลาร์) เพื่อลงทุนในโครงการภาครัฐและเอกชนทั่วสหภาพยุโรป (EU) นั้น จะช่วยส่งเสริมความสามารถในการแข่งขันของยุโรป และช่วยแก้วิกฤติการจ้างงาน
 
ILO เชื่อว่าแผนการลงทุนของ EC จะช่วยเสริมเข้ากับมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่ประกาศใช้เมื่อวันที่ 22 ม.ค.
 
ญี่ปุ่นเผยพนักงานต่างชาติเข้าทำงานสูงเป็นประวัติการณ์ นำโดยจีน
 
30 ม.ค. 2015 กระทรวงแรงงานญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า คนงานหรือพนักงานชาวต่างชาติที่ทำงานในญี่ปุ่นมีจำนวน 787,627 ราย ณ สิ้นสุดเดือนต.ค.ปีที่แล้ว เพิ่มขึ้น 9.8% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านี้ และถือเป็นระดับสุงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ปี 2007 ซึ่งเป็นปีเริ่มต้นที่รัฐบาลกำหนดให้บริษัทต่างๆต้องรายงานจำนวนพนักงานต่างชาติ
 
กระทรวงระบุว่าการเพิ่มขึ้นของจำนวนพนักงานดังกล่าวมาจากการปรับปรุงภาวะการจ้างงาน และความพยายามของรัฐบาลในการส่งเสริมการจ้างคนงานที่มีทักษะ และนักศึกษาจากต่างประเทศ ภายใต้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล
 
ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญและวิศวกรต่างชาติมีจำนวน 147,296 ราย เพิ่มขึ้น 11.1% ขณะที่นักศึกษาต่างชาติที่ทำงานพาร์ทไทม์มีจำนวน 125,216 ราย เพิ่มขึ้น 22.2%
 
เมื่อแยกตามเชื้อชาติ พบว่า พนักงานชาวจีนมีจำนวนมากที่สุด โดยมีสัดส่วน 40% ของทั้งหมด ตามมาด้วยบราซิล, ฟิลิปปินส์, เวียดนาม และเนปาล
 
เผยพานาโซนิค ยุติการผลิตทีวีในจีน เล็งขายโรงงานในเม็กซิโก
 
31 ม.ค. 2015 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าพานาโซนิคตัดสินใจยุติการผลิตโทรทัศน์ในจีน ซึ่งเป็นมาตรการส่วนหนึ่งเพื่อกอบกู้ธุรกิจของบริษัทที่กำลังประสบปัญหาในการทำรายได้
 
ขณะเดียวกัน พานาโซนิคยังเล็งขายโรงงานในเม็กซิโก ซึ่งเป็นฐานผลิตโทรทัศน์ส่งไปตลาดอเมริกาเหนือ
 
ทั้งนี้ พานาโซนิคได้พักการผลิตที่โรงงานในมณฑลซานตงของจีนเมื่อวันศุกร์ ซึ่งเป็นโรงงานที่ผลิตโทรทัศน์ LCD ให้บริษัทปีละประมาณ 200,000 เครื่อง
 
แหล่งข่าวระบุว่า บริษัทร่วมทุนที่ร่วมบริหารโรงงานดังกล่าวจะได้รับเงินชดเชยจากพานาโซนิค และจะมีการปลดพนักงานประจำโรงงานแห่งนี้ที่มีอยู่ 300 คน
 
โรงงานในมณฑลซานตงแห่งนี้ ถือเป็นโรงงานผลิตโทรทัศน์แห่งสุดท้ายของพานาโซนิคในจีน หลังจากที่บริษัทตัดสินใจปิดโรงงานโทรทัศน์พลาสมาในเมืองเซี่ยงไฮ้เมื่อปี 2556
 
ขณะเดียวการจำหน่ายโทรทัศน์ของพานาโซนิคในจีนจะยังคงมีอยู่ต่อไป แต่จะเป็นการส่งสินค้าจากโรงงานแห่งอื่นมาจำหน่ายแทน
 
ทั้งนี้ บริษัทผลิตโทรทัศน์หลายแห่งของญี่ปุ่นประปัญหาเดียวกันนี้ และได้ออกมาตรการเพื่อช่วยฟื้นฟูธุรกิจโทรทัศน์ โดยชาร์ปได้ถอนการผลิตและการจำหน่ายโทรทัศน์ในยุโรป ขณะที่โตชิบาได้ยุติการพัฒนาและการจำหน่ายในอเมริกาเหนือ สำนักข่าวเกียวโดรายงาน
 
 
 
ที่มาข่าวเรียบเรียงจาก: ประชาไท, ครอบครัวข่าว, ASTV ผู้จัดการออนไลน์, สำนักข่าวไทย, กรุงเทพธุรกิจ, ไทยรัฐออนไลน์, เดลินิวส์, สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์, VOA

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท